26 ต.ค. 2022 เวลา 05:15 • หนังสือ
#139 CWG. 4️⃣ — บทที่ 3️⃣2️⃣ (ตอนที่ 3) : พลังงานที่แผ่กระจายออกมาจากแก่นแท้แห่งความเป็นเธอนั้นเดินทางไปถึงส่วนลึกของจักรวาลอันไกลโพ้น และกำลังแผ่ขยายต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
▪️ผู้แปล : แอดมิน
{🔸ซึ่งผมอาจนำคำแปลบางส่วน ของคุณซิม จากเพจ Books for Life มาใช้ด้วยครับ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ที่ทำให้งานแปลมันสมบูรณ์ขึ้นครับ 🙏 นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมาก ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸}
Q : All of the revelations in the body of work that I have called Conversations with God rest on the single premise that we are, all of us, Individuations of Divinity. In other words, God, manifested as humans.
นีล : การเปิดเผยทั้งหมดในงานเขียนที่ผมเรียกมันว่าการสนทนากับพระเจ้า (เล่ม 1, 2 ,3) ก็ตั้งอยู่บนหลักการเดียวที่ว่าพวกเรา พวกเราทุกคน คือรูปลักษณ์หนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว★ หรือก็คือ พระเจ้าที่กำลังสำแดงตัวเองออกมาอยู่ในรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์
★เหมือนกันโดยแก่นแท้ แต่แตกต่างกันในรายละเอียด เช่น ชาย หญิง คน สัตว์ พืช มนุษย์ต่างดาว สวส. ฯลฯ เป็นต้น —แอดมิน—
A : And not only as “humans,” as you now know. All sentient beings in the cosmos are manifestations of the Only Thing There Is.
พระเจ้า : และไม่ใช่แค่ “มนุษย์” ตามที่เธอรู้จักเท่านั้นนะ สรรพชีวิตที่มีจิตสำนึกทั้งมวลในจักรวาลก็ล้วนเป็นการสำแดงตัวเองออกมาของ “สิ่งเดียวอันเป็นทั้งหมดนั้น” ทั้งสิ้น
.
Q : In other words, God.
นีล : หรือก็คือ การสำแดงตัวของ “พระเจ้า”
A : In other words, me. Yes.
พระเจ้า : หรือก็คือ การสำแดงตัวของฉันเอง ใช่แล้ว
.
Q : And yet some of those beings, according to you, are nevertheless violent.
นีล : แม้กระนั้น สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นบางส่วน ตามที่พระองค์บอก ก็ยังคงนิยมใช้ความรุนแรง
A : Yes, because all sentient beings are given Free Will, and not all use it in a way that is peaceful.
พระเจ้า : ถูกแล้ว เพราะฉันได้มอบเจตจำนงอิสระให้กับสรรพชีวิตที่มีจิตสำนึกทั้งมวล และก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะใช้มันไปในทางที่สงบสุข (หรือมีนิสัยรักความสงบ)
On the other hand, not all sentient beings on other planets in the Realm of the Physical are violent. There are civilizations that are not.
ในทางกลับกัน ก็ไม่ใช่ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆในมิติทางกายภาพจะนิยมใช้ความรุนแรง ยังมีอารยธรรมอีกมากมายที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น
If your own greatest proclivity is to find and create peace, gentleness, and love in your life, and to place it in the lives of those around you, these other sentient beings resonate with you from afar.
ในกรณีที่เธอมีนิสัยในการใช้ชีวิตที่โน้มเอียงไปในทางที่รักความสงบและชอบเสาะหาวิธีในการสร้างสันติภาพ ใจดีมีเมตตา และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรักในทุกๆสิ่งเป็นที่สุด (เธอไม่ชอบเป็นอะไรแบบอื่นอีกที่นอกเหนือไปจากที่กล่าวมาข้างต้น) และปฏิบัติต่อทุกชีวิตที่อยู่รอบตัวเธอด้วยนิสัยแบบนั้น สิ่งมีชีวิตอื่นๆเหล่านั้น (ที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ) ก็จะรู้สึกสั่นพ้องเชื่อมโยงเข้ากับเธอได้จากระยะอันไกลแสนไกล★
★รู้สึกดีว่าง่ายๆ 😄 —แอดมิน—
.
Q : They can feel my energy from that distance?
นีล : พวกเขาสามารถรับรู้หรือสัมผัสพลังงานของผมได้จากระยะไกลขนาดนั้นเลยเหรอครับ❓
A : Absolutely. The energy that emanates from the core of your being reaches deep into the cosmos, extending to infinity. Your own scientists are now developing instruments that can receive interstellar signals from deep space.
พระเจ้า : แน่นอนที่สุด พลังงานที่แผ่กระจายออกมาจากแก่นแท้แห่งความเป็นเธอนั้นเดินทางไปถึงส่วนลึกของจักรวาลอันไกลโพ้น และกำลังแผ่ขยายต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ของพวกเธอเองก็กำลังพัฒนาเครื่องมือที่สามารถรับสัญญาณระหว่างดวงดาวจากห้วงลึกของอวกาศอยู่ในตอนนี้
Members of advanced civilizations in the physical dimension have become such “receiving stations” themselves. And when they identify a particular source of that energy which you call peace, it resonates with how they experience themselves. These civilizations then will reflect that back to you, magnified, to signal to you that you are not alone, and are being supported in your experience.
ตัวของสมาชิกในอารยธรรมขั้นสูงที่พัฒนาแล้วในมิติทางกายภาพเหล่านั้นได้กลายเป็น “สถานีรับสัญญาณ” และเมื่อพวกเขาระบุถึงแหล่งที่มาของพลังงานรูปแบบจำเพาะที่เธอเรียกมันว่าสันติภาพ ซึ่งเป็นพลังงานประเภทเดียวกับที่พวกเขากำลังมีประสบการณ์อยู่ได้แล้ว
อารยธรรมเหล่านี้ก็จะสะท้อนสัญญาณที่ถูกขยายให้แรงขึ้นนั้นกลับมาหาเธอ เพื่อส่งสัญญาณหรือบอกให้พวกเธอรู้ว่าพวกเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ว่าพวกเธอไม่ใช่สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่ดำรงอยู่ในจักรวาลนี้ และกำลังสนับสนุนและให้การช่วยเหลือพวกเธอให้มีประสบการณ์ถึงสันติภาพแบบเดียวกันนั้นอยู่
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา