15 พ.ย. 2022 เวลา 12:06 • การศึกษา
ผมมองแบบนี้ครับ
1) “อะไรคือการเรียนภาษาต่างประเทศ?”
สำหรับผม การเรียนภาษาต่างประเทศคือ “การลงทุนที่ยิ่งใหญ่และยาวนาน” หรือ lifelong learning
ที่อาจเปรียบเทียบได้กับ “การลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์” เลยทีเดียว!
2
เพราะทักษะด้านภาษานั้นมีทั้ง “ฟัง, พูด, อ่าน, และ เขียน” ไหนจะมี slangs เฉพาะถิ่นอีกต่างหาก สำเนียงก็แตกต่างกันไป
1
ถ้าเป็น ภาษาอังกฤษ ก็มีหลากหลายสำเนียง เช่น US, UK, Australian, New Zealander, Irish, Scottish, ฯลฯ
ส่วนภาษาญี่ปุ่น มีชาวญี่ปุ่นเล่าให้ผมฟังว่า ที่ Osaka ก็มีคำศัพท์เฉพาะที่มักใช้กันที่นั่น โดยชาวโตเกียวและชาวญี่ปุ่นที่เหลือทั้งประเทศไม่ใช้กัน!
ดังนั้น “การเรียนภาษา” กับ “การใช้ภาษาต่างประเทศ” ในระดับที่ “Native Speakers” หรือ “เจ้าของภาษา” จะยอมรับในความสามารถในการ ฟัง, พูด, อ่าน, เขียน ของเรานั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างต่อเนื่องและยาวนาน!
1
2) “อะไรที่เป็นตัวแปรสำคัญในความสำเร็จของการเรียนภาษาต่างประเทศ?”
ผมเองเรียนภาษาอังกฤษมาในโรงเรียนเหมือนๆกับพี่น้องชาวไทยส่วนใหญ่ในสมัยเป็นนักเรียน และแน่นอนว่าในยุคนั้นเป็นยุค “pre-Youtube” คือ พูดง่ายๆว่า Youtube ยังไม่เกิด!
แต่ผมเป็นคนชอบ “รถยนตร์” มาตั้งแต่เด็กๆ ทุกครั้งที่ไปร้านหนังสือขนาดใหญ่ ผมมักไปเปิด magazines รถยนต์ ที่พิมพ์ในต่างประเทศอยู่เสมอๆ เพราะสิ่งพิมพ์เหล่านี้มักถ่ายรูปรถยนต์ออกมาได้ดีและดูตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก
และถึงแม้ผมจะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็พอ “จับใจความ” ได้เป็นคำๆ
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผม “พยายาม” ที่จะพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษต่อไป
และด้วยความชื่นชอบในรถยนต์ เมื่อผมมีโอกาสได้พบว่าที่โตเกียวจะมีงานแสดงรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเทียบเท่างานแสดงรถในแถบยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือ ที่มีชื่องานว่า Tokyo Motor Show จากการที่ผมอ่านหนังสือรถยนต์เล่มหนึ่ง
นั่นเป็น turning point ที่สำคัญในชีวิตผม เพราะผมสนใจที่จะไปงานนี้ และผมก็อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อใช้สื่อสารกับชาวญี่ปุ่นในขณะที่ผมไป
ชมงานนี้
ผมลงเรียนภาษาญี่ปุ่นนอกสถานศึกษาที่ผมเรียนอยู่ จนในที่สุดก็เรียนจบและผมสอบใบประกาศนียบัตรภาษาญี่ปุ่นได้มาสามใบ โดยที่ทุกวันนี้ผมยังไม่ได้มีโอกาสไปงานแสดงรถยนต์ที่โตเกียวนี้เลย!
ผมจึงมองว่า “passion/obsession” กับ “patience” และ “hunger” คือ “หัวใจสำคัญ” ที่จะใช้ตอบคำถามที่ว่า
“how mad do you want it?”
คือ ถ้าคุณมี “ใจ” ที่สามารถ “บันดาลแรง” แล้ว “การเรียนภาษา” ที่เป็นการลงทุนและเป็นการเดินทางบนเส้นทางที่ไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ ก็จะเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่ยากจะจินตนาการ!
จนถึงทุกวันนี้ การเรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ก็ยังดำเนินต่อไป ตามเกร็ดความรู้ที่ผมขอยกเป็นตัวอย่างดังนี้ครับ
- ชาวตะวันตก แบ่งประเภทไข่ดาวไว้ดังนี้ครับ
i) sunny side up: ไข่แดงอยู่ด้านบนตลอด โดยไม่มีการพลิกด้าน ตั้งแต่ต้นจนจบ
ii) over easy: ไข่ถูกพลิกด้าน โดยไข่แดงยังเป็น “ลาวา”
iii) over medium: ไข่ถูกพลิกด้าน และไข่แดงสุกมากขึ้น แต่ยังพอเป็น
“ลาวา”
iv) over well: ไข่ถูกพลิกด้าน และไข่แดงสุกจัด ไม่เป็น “ลาวา” เลย
- การเรียนภาษาญี่ปุ่น ทำให้ผมได้เรียนรู้วัฒนธรรมด้านอื่นๆของชาวญี่ปุ่นรวมถึงเรื่อง “อาหาร” ด้วย
เวลาที่ผมพิจารณาเมนูในร้านอาหารญี่ปุ่น ผมจึงเข้าใจชื่อของแต่ละเมนูได้ง่ายขึ้น เช่น
“ika” —> “squids”
“tako” —> “ octopus”
“sake” —> “salmon”
“maguro” —> “tuna”
- ความชื่นชอบรถยนต์ของผม ทำให้ผมได้เรียนรู้ภาษาเยอรมันแบบเล็กๆน้อยๆ เช่น
i) “und” —> “and”
ii) รถยนต์ Mercedes Benz C Class รุ่นหนึ่ง จะมีชื่อต่อท้ายว่า
“Kompressor” (Compressor)
นั่นคือในภาษาเยอรมัน จะมีการใช้อักษร “K” แทนอักษร “C” ในบางกรณีนั่นเอง
iii) “Thoroughbreds”
ผมเคยดูรายการ “Top Gear” ซึ่งเป็นรายการเกี่ยวกับรถยนต์จาก BBC ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
มีอยู่ตอนหนึ่งที่พิธีกรในรายการกล่าวเปรียบเทียบรถรุ่นหนึ่งว่าเปรียบเหมือน “สายพันธุ์แท้มีสกุล”
แต่ผมไม่สามารถสะกดคำๆนั้นได้ เพราะผมไม่เคยเรียนมาก่อน
จนสิบกว่าปีผ่านไป เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ชมภาพยนตร์ทางช่อง MONO29 เรื่อง
“Thoroughbreds”
ผมจึงรู้ว่า นี่คือคำๆนั้นที่ผมเฝ้าตามหาอยู่มานานนับสิบปี!
iv) “Berkshire Hathaway”
ผมเรียนมาทางสายเทคโนโลยี และไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนแต่อย่างใด
แต่ผมก็สนใจเก็บข้อมูลด้านการลงทุนอยู่ในเวลานี้
“Berkshire Hathaway”
เป็นชื่อกิจการของคุณ “Warren Buffett” ซึ่งท่านและทีมงานได้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนของกิจการ Semiconductors ขนาดใหญ่บนเกาะไต้หวันที่มีชื่อว่า TSMC ที่ผมได้ยินจากข่าวทีวีในวันนี้เป็นมูลค่าราว 5 พันล้านเหรียญ
ผมมีปัญหากับการจดจำชื่อ
“Berkshire Hathaway” เป็นอย่างมาก!
เพราะมันไม่เคยอยู่ในชื่อที่ผมเคยได้ยินมาเลย จนกระทั่งผม “เชื่อมโยง” คำว่า
“Hathaway” ที่เป็นนามสกุลของคุณ
“Anne Hathaway” ที่เธอเป็นนางเอกจาก Hollywood ที่มีชื่อเสียงที่สุดท่านหนึ่งและเธอได้มีโอกาสสนทนากับ “Lisa” Black Pink จากข่าวทีวีที่ผมเพิ่งเห็นมาไม่นานนี้ด้วย!
ดังนั้นผมจึงจำแค่เพียงคำว่า “Berkshire” เท่านั้นเอง!
v) “Torii gates”
ผมเคยเห็นภาพของสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นที่มีลักษณะเหมือน “ประตู” ที่งดงาม
แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่า สิ่งก่อสร้างนี้เรียกว่าอะไรในภาษาญี่ปุ่น
จนกระทั่งผมดูรายการจาก NHK เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และผมได้รู้แล้วว่า ประตูนี้เรียกว่า
“Torii” (โทริอิ)
vi) “Mirai”
ผมสนใจติดตามข่าวสารวงการรถยนต์มาตั้งแต่เด็กๆ
ล่าสุดมีข่าวว่าทาง โตโยต้าได้นำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิง Hydrogens มาแนะนำในไทยเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัว “ปั๊มเชื้อเพลิงไฮโดรเจน” แห่งแรกในประเทศไทยที่จังหวัดชลบุรีในเดือนพฤศจิกายนนี้
ครับ Toyota Mirai คือรถยนต์คันนี้และผมเพิ่งรู้ว่า
“Mirai” —> “Future”
“Ongoing & Never Ending Tasks”
ครับ “หนทาง” ในการเรียนภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษของผมเริ่มต้นจากความชื่นชอบรถยนต์
และมันยังคงเป็นเช่นนั้นเรื่อยมา และจะเป็นเช่นนี้ต่อไป
# เทคนิคการเรียนภาษาของผม
# เส้นทางการเรียนภาษาญี่ปุ่นของผม
# เส้นทางการเรียนภาษาอังกฤษของผม
โฆษณา