[Bnomics] Curtain Call : ครอบครัวที่พลัดพรากจากสงครามเกาหลี แม้สงครามเกาหลี จะจบไปนานกว่า 70 ปีแล้ว แต่ผลของสงครามอย่างหนึ่งที่ยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้คือ การแบ่งแยกดินแดน และครอบครัวที่ต้องพลัดพรากจากกันไปแม้บางค

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

25 พ.ย. 2022 เวลา 12:19 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี

Curtain Call : ครอบครัวที่พลัดพรากจากสงครามเกาหลี

แม้สงครามเกาหลี จะจบไปนานกว่า 70 ปีแล้ว แต่ผลของสงครามอย่างหนึ่งที่ยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้คือ การแบ่งแยกดินแดน และครอบครัวที่ต้องพลัดพรากจากกันไปแม้บางคนอาจจะอยู่ห่างกันไม่เท่าไหร่ แต่กลับมีเขตปลอดทหารเกาหลี

หรือที่เรียกว่า DMZ (Demilitarized Zone) มากั้นระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ตรงเส้นขนานที่ 38 ทำให้ครอบครัวทั้ง 2 ประเทศแทบไม่มีโอกาสได้รู้ข่าวคราวกัน และในบางครั้งก็อาจไม่ได้เจอกันอีกเลยชั่วชีวิต

ซีรีส์เรื่อง Curtain Call ได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาเล่าได้อย่างน่าสนใจ โดยเล่าผ่านหญิงชราคนหนึ่งที่หลบหนีจากสงครามมาอยู่ที่เกาหลีใต้ ทำให้ต้องพลัดพรากจากสามีและลูก ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ที่เกาหลีใต้ เธอเฝ้ารอวันที่จะมีโอกาสได้พบกับครอบครัวที่เกาหลีเหนืออีกครั้ง แต่โอกาสเหลืออีกไม่มากเพราะเธอกำลังป่วยหนักและอาจจะจากไปในไม่ช้า

Bnomics เลยอยากจะมาเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอดีต ว่าผลกระทบจากสงครามเกาหลีและการแบ่งแยกดินแดน ส่งผลบาดลึกลงไปในจิตใจคนเกาหลีมากเพียงใด และทำให้ใครหลายคนแทบไม่มีโอกาสได้กลับไปเจอครอบครัวที่จากมาอีกแล้ว

📌 ครอบครัวที่พลัดพรากจากสงคราม (Divided Family)

หลังสิ้นสุดสงครามเกาหลีในปี 1953 เกาหลีถูกแบ่งออกเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ หลายครอบครัวแตกแยกกระจัดกระจายกันในช่วงนั้นเนื่องจากสงคราม โดยในตอนแรกทุกคนคาดว่าเป็นการอพยพเพียงชั่วคราว และหวังว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในไม่ช้า แต่กลายเป็นว่าเกิดการแบ่งแยกประเทศขึ้น

ทำให้ประชาชนทั้งสองฝั่งไม่สามารถติดต่อกันได้อีกเลยจนกลายเป็นครอบครัวพลัดพราก (divided family) มาจนถึงปัจจุบัน

ระหว่างที่เกาหลีใต้อยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นในช่วงปี 1910 - 1945 ทำให้คนเกาหลีนับล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานบ้านเกิดไปอยู่ที่อื่น จนกระทั่งช่วงที่เกาหลีเป็นอิสระจากญี่ปุ่นก็มีคนกระจัดกระจายไปอีกครั้ง แต่ครั้งที่เกิดการกระจัดกระจายกันไปมากที่สุด คือ ช่วงสามปีที่เกิดสงครามเกาหลี ในปี 1950 เพียงแค่ 6 เดือน มีผู้อพยพจากเกาหลีเหนือมายังเกาหลีใต้เกือบแสนคน ประมาณกันว่าในช่วงเวลานั้นมีคนหนีไปทางเกาหลีใต้นับล้านคน

จากตอนแรกที่ผู้อพยพคิดว่าจะกลับไปหาครอบครัวได้ในไม่ช้า แต่หลังจากที่เกาหลีถูกแบ่งแยกดินแดนและมีกฎเหล็กออกมาจำกัดการติดต่อสื่อสารทุกอย่าง ทำให้ผู้ที่อพยพไปไม่สามารถรับรู้ข่าวคราวของคนในครอบครัวได้อีกเลย

มีงานวิจัยที่คาดว่าในช่วงสงครามเกาหลี มีคนเกาหลี 1 - 5 ล้านคนอพยพระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้…

จากข้อมูลในเดือนสิงหาคม ปี 2021 มีสมาชิกครอบครัวกว่า 47,000 คน ที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้หลังจากพลัดพรากจากครอบครัวในช่วงสงคราม ซึ่งอายุเฉลี่ยของคนกลุ่มนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มจากไปเรื่อยๆ ทุกวันตามระยะเวลาที่ผ่านไป

นอกจากนี้ ยังมีคนเกาหลีบางส่วนที่อพยพไปอยู่ประเทศทางตะวันตก (Korean diaspora) และตั้งรกรากอยู่ที่นั่นโดยไม่ได้กลับมาบ้านเกิดอีกเลย คาดว่ามีชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีอยู่ที่สหรัฐฯ ราวๆ 1.7 ล้านคน และนับแสนคนยังคงมีญาติอยู่ในเกาหลีเหนือที่ไม่สามารถติดต่อกันได้

เครดิตภาพ : BBC

📌 งานรวมญาติของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้…ที่อาจเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต

นับตั้งแต่ปี 1985 รัฐบาลได้มีการจัดงานรวมญาติของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ โดยให้คนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการไปลงชื่อกับสภากาชาดเกาหลี และทางการจะคัดเลือกคนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ฝั่งละ 50 คน เพื่อมาเจอกันในวันรวมญาติที่กำหนดไว้ในแต่ละปี

งานรวมญาติถูกจัดขึ้นครั้งละ 3 วัน แต่ละครอบครัวจะมีโอกาสได้ใช้เวลาร่วมกันรวมๆ 11 ชั่วโมง โดยจะมีเวลาอยู่ด้วยกันส่วนตัวเพียง 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะต้องแยกจากกันเป็นครั้งสุดท้าย และไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วในชีวิตนี้

เครดิตภาพ : CNN

งานรวมญาติถูกจัดขึ้นอีกหลายครั้งนับจากนั้น แต่ระยะห่างของแต่ละครั้งจะไม่แน่นอนขึ้นกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ นับจนถึงทุกวันนี้ มีการจัดงานรวมญาติไปแล้ว 21 ครั้ง ล่าสุดคือในปี 2018

โดยในปัจจุบัน คนที่ต้องการจะพบญาติที่อยู่อีกฝั่งจะต้องไปลงทะเบียนเอาไว้ แล้วรัฐบาลจะเลือกรายชื่อมาฝั่งละ 100 คน ซึ่งสำหรับทางฝั่งเกาหลีใต้ จะมีการพิจารณาจากอายุ ระดับความสัมพันธ์ และความประสงค์ที่จะพบ กับอีกส่วนหนึ่งคือ การสุ่มขึ้นมา และให้โควตาพิเศษกับคนที่อายุเกิน 90 ปี

นับตั้งแต่ปี 1988 ประมาณการว่ามีคนเกาหลีกว่า 130,000 คน ลงชื่อเข้าร่วมโครงการ แต่มีเพียง 2,000 กว่าครอบครัวเท่านั้นที่สมความปรารถนา

ล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน กว่าครึ่งของรายชื่อที่คนที่เข้าร่วมโครงการได้เสียชีวิตไปแล้ว มีเพียง 44,000 คนเท่านั้นที่ยังคงมีชีวิตอยู่ และส่วนใหญ่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็มีอายุเฉลี่ยเกิน 80 ปี นี่จึงอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของผู้พลัดพรากหลายคนจะเป็นจริง

แต่น่าเศร้าใจที่ในแต่ละปี มีคนสูงอายุกว่า 3,000 คน จากโลกนี้ไปโดยที่ความปรารถนาสุดท้ายที่จะได้เจอครอบครัวอีกครั้งยังไม่เป็นจริง…

หากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ได้เจอครอบครัวที่พลัดพรากก่อนจะจากโลกนี้ไป สายใยบางๆ ระหว่างสองเกาหลีที่ยังคงหลงเหลืออยู่ อาจจะค่อยๆ ห่างกันไปทุกทีจนความ

ผู้เขียน : ชนาภา มานะเพ็ญศิริ Economist, Bnomics

ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics

▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่

Website : https://www.bnomics.co/

Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co

Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics

Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC

Youtube : https://www.youtube.com/bnomics

Twitter : https://twitter.com/bnomics_co

Bnomics - Bangkok Bank Economics

'Be an Economist for Everyone'

วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ