28 พ.ย. 2022 เวลา 10:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หุ้น 6 ประเภท ตามสไตล์ Peter Lynch
EP. 2 “หุ้นแข็งแกร่ง”
หุ้นที่ Lynch มีติดพอร์ตเสมอ...
ลักษณะของหุ้นแข็งแกร่ง หรือหุ้นโตกลาง
เป็นหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรประมาณ 10-12% ต่อปี ธุรกิจมีขนาดใหญ่ และสามารถขายสินค้าหรือบริการได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนใหญ่มักเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งเป็นเจ้าตลาดในอุตสาหกรรมที่เติบโตได้เรื่อยๆ เพราะเมื่อบริษัทแข็งแกร่ง และเป็นเจ้าตลาด เมื่อตลาดโตขึ้น บริษัทก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
บางตัวแข็งแกร่งขนาดที่ว่า หากเกิดช่วงเศรฐกิจแย่ หุ้นอาจจะปรับตัวลงน้อยกว่าตลาด
ตัวอย่าง เช่น
หุ้นที่ทำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากกว่า 10% ต่อปี เป็นต้น
แล้วเราหวังอะไรจากหุ้นแข็งแกร่ง โตกลาง?
กำไรจากส่วนต่างมูลค่า หรือซื้อที่ราคาถูกกว่ามูลค่าพื้นฐาน และขายเมื่อราคาหุ้นถึงมูลค่านั้น
เสี่ยงมากไหม?
ความเสี่ยงของหุ้นประเภทนี้มักขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของกิจการ หากกิจการเป็นสินค้า/บริการที่ผู้คนต้องซื้อ หรือใช้บริการเป็นประจำ ก็ยากที่จะมีอะไรผิดพลาด
สิ่งสำคัญที่จะทำให้เสี่ยงคือ การที่คุณซื้อมันที่ราคาสูงเกินไป
ผลตอบแทนที่ควรคาดหวังคือเท่าไร?
สำหรับหุ้นแข็งแกร่งผมคาดหวังผลตอบแทนที่ 20-50% ต่อปี เป็นผลตอบแทนที่น่าเอาเงินมาลงทุนในหุ้นประเภทนี้
เราควรถือยาวแค่ไหน กลยุทธ์ที่ทำให้ได้กำไรของหุ้นแข็งแกร่ง โตกลางเป็นอย่างไร?
1. ซื้อเมื่อราคาถูกกว่ามูลค่า และขายเมื่อราคาถึงมูลค่านั้น
2. ขาย เมื่อกำไรเป็นที่น่าพอใจ (สำหรับผมประมาณ20-50%)
3. มีหุ้นตัวอื่นน่าสนใจกว่า หรือให้ผลตอบแทนมากกว่า
สิ่งสำคัญที่ต้องดูอย่างใกล้ชิด ทั้งพื้นฐานและมูลค่า?
ตัวเลขสำคัญที่ต้องดูของกิจการ
1. กำไรเพิ่มขึ้นทุกปี > 10-12% ต่อปี(สำหรับหุ้นไทยผมให้ 6-15% ต่อปี)ตลอด 3-5 ปีข้างหน้า
2. ยอดขายไม่ลดลงมากนัก ยกเว้นในวิกฤติ
3. อัตราส่วนการทำกำไรต่างๆ คงที่หรือมากขึ้น
4. งบดุลแข็งแกร่ง หนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น(D/E) < 1 เท่า
5. เป็นผู้นำตลาด ตลอด 3-5 ปี และในอนาคต
ตัวเลขในการประเมินมูลค่า
1. PE 10-14 เท่า (สำหรับหุ้นไทยผมให้ 20-30 เท่า)
ขายเมื่อไหร่ดี?
1. สูญเสียส่วนแบ่งการตลาด 2 ปี ติดต่อกัน รายได้ลด
2. ค่าใช้จ่ายการตลาดสูงขึ้นมาก รักษาอัตราการทำกำไรไม่ได้
3. ซื้อกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก และทำให้กำไรแย่ลง
4. งบดุลเสื่อมลง หนี้เพิ่มขึ้นโดยไม่ส่งผลดีต่อบริษัท
5. ราคาหุ้นใกล้เคียงกับมูลค่าที่คำนวณไว้มาก และมีหุ้นแข็งแกร่งตัวอื่นราคาต่ำกว่ามูลค่า
ควรมีหุ้นประเภทนี้ประมาณกี่ % ในพอร์ตดี?
ควรมีประมาณ 20-30% ของพอร์ต และเมื่อได้กำไร 20-50% ก็ควรจะขายออกไปซื้อหุ้นตัวที่ต่ำกว่ามูลค่าจะได้ผลตอบแทนดีกว่า และรวดเร็วกว่า
บางครั้งหุ้นแข็งแกร่งที่ตัวใหญ่จะเคลื่อนไหวช้า การที่จะให้ราคาขึ้นถึงมูลค่าได้จำเป็นต้องรอตัวเร่งเชิงบวกที่น่าจะทำให้ตลาดคิดว่ากำไรของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์นั้นๆ
นั่นแหละ... คุณต้องหาให้เจอว่าตัวเร่งนั้นคืออะไร!
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นสรุปโดยย่อของหุ้นแข็งแกร่ง โตกลาง และใน EP สุดท้ายของ Series นี้ ผมจะมาสรุป และแนะนำการตจัดพอร์ทสไตล์ Peter Lynch อีกทีนะครับ รอติดตามได้เลยทุกอาทิตย์
หมายเหตุ:
1. การเขียนบทความอาจมีอคติส่วนตัวจากผู้เขียน ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนำไปใช้จริง
2. อย่าพึ่งเชื่อเรา เพราะยังมีวิธีการวางแผนอีกมากมายที่ทั้งดีและมีประโยชน์
3. บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น
4. ที่มา One up on wall street
ขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ Yorkies BannPin
คิดถึงลูกสุนัขยอร์คเชียร์ ต้องที่ บ้านปิ่น เท่านั้น! [พิเศษ เมื่อบอกว่ามาจากเพจ Angrystocks มีส่วนลดให้ 100 บาท สำหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น]
อย่าลืมกดไลค์ แชร์ กดติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ อาทิตย์หน้ามาเจอกันใหม่ครับ
Reference Pic. :
#หนังสือ #หุ้น #พัฒนาตนเอง #AngryStocks #ธุรกิจ #OneUpOnWallStreet #PeterLynch #VI #การลงทุน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา