Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คีตาแห่งสยาม
•
ติดตาม
3 ธ.ค. 2022 เวลา 02:42 • หนังสือ
✴️ บทที่ 3️⃣ กรรมโยคะ : วิถีการกระทำที่ถูกต้องทางจิตวิญญาณ ✴️ (ตอนที่ 42)
🌸การเอาชนะอารมณ์ที่มีสองคม ราคะ กับ โทสะ🌸
⚜️ โศลกที่ 4️⃣2️⃣ ⚜️
หน้า 444–446
โศลกที่ 4️⃣2️⃣
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
ท่านกล่าวว่าอินทรีย์เป็นใหญ่ (เหนือกาย) มนัสเป็นใหญ่เหนืออินทรีย์ พุทธิเป็นใหญ่เหนือมนัส แต่อาตมันนั้นใหญ่กว่าพุทธิปัญญา
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
ถ้าขาดพลังผัสสอินทรีย์ทั้งสิบ กายก็เป็นเพียงสสารที่เฉื่อยชา อำนาจผัสสอินทรีย์ส่งผลต่อการรับรู้ของจิต (มนัส) การรับรู้มีความหมายก็ต่อเมื่อมันรับใช้ความรู้และการตัดสินใจของพุทธิปัญญา พุทธิปัญญายืมอำนาจมาจากสหัชญาณ อันเป็นญาณปัญญาบริสุทธิ์ของวิญญาณอันเกษมสูงสุด
.
◾กาย จิต และวิญญาณ เปรียบได้กับรถศึกและม้าลาก◾
คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของอินเดียเปรียบเทียบรถศึกที่ลากโดยม้าศึกสิบตัว มีสารถีถือบังเหียน กับวิญญาณ (เจ้าของยาน) อันนั่งอยู่ในยานกายที่มีจิตเป็นสายบังเหียน ชักลากโดยผัสสอินทรีย์ ม้าหนุ่มสิบตัว มีญาณปัญญาเป็นสารถี เจ้าของรถจึงเป็นคนสำคัญมาก เพราะรถนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของเขา คนสำคัญรองลงมาคือสารถี จากนั้นคือสายบังเหียนซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการบังคับ แล้วจึงมาถึงม้า และสุดท้ายคือตัวยานนั้นเอง
ทำนองเดียวกัน “วิญญาณ” ผู้สร้างยานกาย ย่อมมีความสำคัญสูงสุด ถัดจากวิญญาณคือพุทธิปัญญาผู้กำกับทิศทาง จากนั้นคือจิตหรืออุปกรณ์ ที่ใช้บังคับ แล้วจึงถึงผัสสอินทรีย์คือตัวม้า และสุดท้ายคือกาย
ยานกายเคลื่อนไปไม่ได้ถ้าขาดผัสสอินทรีย์ กล่าวคือ กายคนที่กำลังหลับ หรือ กายคนตายไม่สามารถสำแดงกิจกรรมทางปัญญา ผัสสอินทรีย์ไม่อาจทำงานได้อย่างกลมกลืนถ้าไม่มีจิตคอยให้ความร่วมมือ คนใจลอยหย่อนสายบังเหียนผัสสอินทรีย์ ไม่อาจทำสิ่งใดได้อย่างมีพุทธิปัญญา เขาจึงต้องรั้งสายบังเหียนจิตไว้ให้มั่น คนที่จิต บกพร่องคือสารถีที่ปล่อยสายบังเหียน พุทธิปัญญากับผัสสอินทรีย์ขาดการเชื่อมถึงกัน ซึ่งอาจจะนานเพียงชั่วครู่หรือตลอดไปก็ได้
1
บางครั้งท่านเปรียบสารถีกับจิต ในความหมายที่จิตเป็นคำรวมที่ใช้เรียกญาณปัญญา ไม่ใช่มนัสซึ่งหมายถึงมนินทรีย์ ส่วนสายบังเหียนนั้นเปรียบกับสมอง (เครื่องมือของจิต) และสารถีก็อาจเปรียบกับอหังการได้ด้วย
1
แต่เมื่อกฤษณะกับอรชุนปรากฏตัวในรถศึก สัญลักษณ์ คือ บรมวิญญาณอันสูงสุด (กฤษณะในฐานะพระเจ้า หรือ จิตภควันกฤษณะ –ปัญญาอเนกอนันต์, บรมปัญญา– หรือจะหมายถึงจิตปัจเจกก็ได้) ในฐานะสารถี นำอหังการของศิษย์ ผู้น้อมไปในฝ่ายจิตวิญญาณ ให้ใช้พุทธิปัญญา ใช้มนินทรีย์อย่างถูกต้อง เพื่อควบคุมอินทรีย์ทั้งหลาย จะได้นํายานกายไปบนถนนชีวิตได้อย่างปลอดภัย
บุคคลควรมียานกายที่แข็งแรง มีม้าที่เลี้ยงดูอย่างดี มีสายบังเหียนที่แข็งแรง และมีสารถีที่ฝึกมาดี และมีความกระฉับกระเฉงตื่นตัว ทั้งยังต้องเลือกเส้นทางอย่างฉลาดด้วย เพื่อจะไปถึงเป้าหมายปลายทาง — ผู้ภักดีที่มุ่งสู่การหยั่งรู้ตนต้องมีร่างกายที่แข็งแรง มีผัสสอินทรีย์ที่นิสัยดีเพราะผ่านการฝึกควบคุมตนมาแล้ว ต้องมีสายบังเหียนจิตที่แข็งแรง และมีพุทธิปัญญาหลักแหลมเป็นเครื่องนำทาง เมื่อนั้นแหละที่ยานกายจะสามารถแล่นไปบนเส้นทางที่แคบตรง คือ การกระทําที่ถูกต้องสู่เป้าหมายได้
คนบ้าระห่ำไม่กลัวตายอาศัยรถหักๆพังๆ เทียมด้วยม้าที่บังคับไม่อยู่ มีสารถีประมาทกุมสายบังเหียนหย่อนยาน ขณะเดินทางไปตามทางหินขรุขระวกเวียน รถย่อมไม่แคล้วต้องตกข้างทาง
อุปมาได้กับเรื่องต่อไปนี้ :
ชาวโลกผู้มีร่างกายและจิตใจอ่อนแอ อ่อนด้อยด้วยพุทธิปัญญา ปล่อยให้แรงกระตุ้นรุนแรงนำตนเร่ร่อนไปตามถนนชีวิตอันขรุขระอย่างไร้การควบคุม ย่อมพบชะตาน่าเศร้า นั่นคือสุขภาพเสื่อมโทรม และประสบความหายนะทางวัตถุ
ปัญญาชนหรือคนอารมณ์แรง ที่เดินไปกับความรู้และความเชื่อของตนอย่างหัวชนฝา ปล่อยความดันทุรังตามความเคยชิน อารมณ์มืดบอด นำชีวิตไปอย่างไม่ใช้ปัญญาแยกแยะ คนเช่นนี้ย่อมจมปลักอยู่กับความโง่อย่างแน่แท้
ผู้ภักดีรู้ว่าเป้าหมายสำคัญที่สุดในชีวิต คือการไปถึงเป้าหมายการหยั่งรู้ตนด้วยการใช้สมาธิเข้าถึงธรรมชาติแท้จริงของวิญญาณ และการเป็นหนึ่งเดียวกับบรมวิญญาณอันเกษมสุข และเพื่อจะไม่ล่าช้าอยู่กลางทาง
เขาจึงป้องกันตนให้พ้นทุกข์ทางกาย ทางจิต และจิตวิญญาณ ด้วยการพัฒนาพุทธิปัญญา พัฒนาจิต ให้รับรู้อย่างกระจ่างแจ้งกลมกลืน ฝึกผัสสอินทรีย์ให้รู้จักควบคุมตน ดูแลกายให้สุขภาพดีมีชีวิตชีวา เพื่อให้สิ่งเหล่านี้รับใช้วิญญาณ เพราะทุกสิ่งเหล่านี้ถูกนำมารวมอยู่ด้วยกันก็เพื่อเป้าหมายเดียวนี้ และจริง ๆ แล้ว ถ้าไม่มีจิต ไม่มีสหัชญาณปัญญาแห่งวิญญาณอยู่เบื้องหลังแล้ว ทุกสิ่งเหล่านี้ก็ดำรงอยู่ไม่ได้
พูดอีกอย่างได้ว่า ผู้ภักดีตระหนักว่า ในการพัฒนาตนนั้น สิ่งใดพึงมาก่อนหลัง สิ่งที่มาก่อนเสมอก็คือ จิตวิญญาณของตน จากนั้นคือพุทธิปัญญา จิต อินทรีย์ และกาย แต่คนที่อยู่กับความหลงย่อมปรนเปรอกายก่อน ไม่สนใจพัฒนาสิ่งที่เป็นใหญ่ในตน นั่นคือ อินทรีย์ จิต พุทธิปัญญา และ วิญญาณ
(มีต่อ)
หนังสือ
จิตวิญญาณ
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เล่ม 1 บทที่ 3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย