7 ธ.ค. 2022 เวลา 05:38 • หนังสือ
#155 CWG. 4️⃣ — บทที่ 3️⃣5️⃣ (ตอนที่ 3) : เธอจะรู้สึกกับทุกสิ่งในแบบเดียวกับที่เธอเลือกจะรู้สึก
▪️ผู้แปล : แอดมิน
{🔸ซึ่งผมอาจนำคำแปลบางส่วน ของคุณซิม จากเพจ Books for Life มาใช้ด้วยครับ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ที่ทำให้งานแปลมันสมบูรณ์ขึ้นครับ 🙏 นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมาก ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸}
Q : I know, I know. You have made this point with me repeatedly, and I really see and appreciate the pure and wonderfully generous logic of it. But for me this “perfection” idea still sometimes feels like a fabulous “escape hatch.” Somehow the idea that “it’s all good” makes me not feel I need to work to make myself any better.
นีล : ผมรู้ครับ ผมรู้ พระองค์บอกเรื่องนี้กับผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งผมก็เห็นด้วยและซาบซึ้งในตรรกะที่หมดจดงดงาม และเปี่ยมไปด้วยความใจดีมีเมตตาที่ว่านี้จริงๆ ทว่าสำหรับผมแล้ว แนวคิดอัน “สมบูรณ์แบบ” ที่ว่านี้ บางทีก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็น “ช่องทางเพื่อใช้ในการหลบหนี” หรือข้อแก้ตัวอันดีเลิศมากกว่า ด้วยเหตุผลบางประการ แนวคิดที่ว่า “ทุกอย่างล้วนดีอยู่แล้ว” ทำให้ผมไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อทำให้ตัวเองดีขึ้น
A : Well, of course, you don’t “need to.” Need has nothing to do with it. No one is keeping score here. No one is judging or punishing. So it’s not about need. It’s about desire.
พระเจ้า : แน่นอนว่า เธอไม่ “จำเป็น” ต้องทำอะไรทั้งนั้น ‘ความจำเป็น’ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ไม่มีใครมาคอยจดคะแนนความประพฤติของเธอ และไม่มีใครมาคอยตัดสินพิพากษาหรือลงโทษอะไรเธอหรอก ดังนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องของ ‘ความจำเป็น’ แต่เป็นเรื่องของ “ความปรารถนา” ต่างหาก
.
Q : Well, I can honestly say I do have desire. I truly wish to do as you have consistently invited all of us to do: Announce and declare, express and fulfill, become and experience the next grandest version of the greatest vision ever we held about Who We Are. I guess I’m just not able to see the “perfection” in taking over seventy years to even understand why I am here—much less step into the living of it.
นีล : ผมพูดได้อย่างเต็มปากว่า ผมมีความปรารถนา ผมปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะทำตามที่พระองค์เชื้อเชิญให้เราทุกคนทำมาตลอด : ประกาศและเปิดเผย แสดงออกและเติมเต็ม กลายเป็นและมีประสบการณ์ถึงตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในขั้นต่อไปตามวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยมี (เคยจินตนาการ) ว่าเราคือใคร
ผมคิดว่าตัวเองไม่สามารถมองเห็นถึง “ความสมบูรณ์แบบ” ได้จากการต้องใช้เวลามากกว่า 70 ปีเพียงเพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่นี่แค่เพียงเรื่องเดียว —นับประสาอะไรกับการใช้ชีวิตได้ตามแนวคิดอันยอดเยี่ยมต่างๆเหล่านั้นที่พระองค์บอก
A : Try thinking of your process in this way: If you had reached years before now the level of demonstration of, let us say, Lao Tzu, do you think you would have found yourself in the position of asking the questions that filled 3,000 pages of nine books?
พระเจ้า : งั้นลองคิดถึงกระบวนการเติบโตของเธอในแง่นี้ดู : หากเธออยู่ในช่วงเวลาก่อนการมาถึงของ . . . ยกตัวอย่างเช่น เล่าจื้อ เธอคิดว่าตนเองจะอยู่ในสถานะที่สามารถถามคำถามจนกลายเป็นหนังสือ 9 เล่มที่มีเนื้อหากว่า 3,000 หน้าได้ไหมล่ะ❓
.
Q : Probably not.
นีล : คงไม่ได้ครับ
A : Probably not?
พระเจ้า : คงไม่ได้งั้นหรือ❓
.
Q : Definitely not.
นีล : ไม่ได้อย่างแน่นอนครับ
A : And so you may be among the most prolific questioners of your generation. And do you believe that the questions you have asked, and the answers you have received, have brought you benefit?
พระเจ้า : ดังนั้น เธออาจเป็นหนึ่งในผู้ตั้งคำถามที่มีผลงานเขียนมากที่สุดในยุคของเธอ และเธอเชื่อหรือเปล่าว่าคำถามที่เธอถามและคำตอบที่เธอได้รับทำให้เธอได้รับประโยชน์❓
.
Q : Yes. Definitely.
นีล : เชื่อแน่นอนครับ
A : And have they brought benefit to others?
พระเจ้า : และเธอเชื่อหรือเปล่าว่างานเขียนของเธอเหล่านั้นได้ทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น❓
.
 
Q : Perhaps. There are those who say these questions and answers have, so I guess if I am to believe them, the answer is yes. I don’t want to boast about this, however. I feel humbled by it, not boastful, and I want to always feel this way.
นีล : ไม่แน่ใจครับ แต่คงมีบางคนแหละที่บอกว่าคำถามและคำตอบเหล่านี้มีประโยชน์ ผมคิดว่าถ้าผมเชื่อว่างานเขียนเหล่านี้มีประโยชน์จริงๆ คำตอบก็คือ เชื่อครับ (ว่ามันทำประโยชน์ให้ผู้อื่นด้วยเช่นกัน) ผมไม่ได้อยากที่จะโอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องนี้ (ว่าผมสามารถติดต่อสื่อสารกับพระเจ้าได้) เอาจริงๆผมไม่ได้รู้สึกอวดดี (ว่าตัวเองนี่เจ๋งแฮะ) แต่รู้สึกเจียมตนมากกว่า (ไม่ได้คิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าใคร) และผมอยากที่จะรู้สึกแบบนี้ตลอดไป
A : You will feel about everything exactly the way you choose to feel, based on your decision about Who You Are, Why You Are Here, and how you wish to demonstrate that.
พระเจ้า : เธอจะรู้สึกกับทุกสิ่งในแบบเดียวกับที่เธอเลือกจะรู้สึก โดยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอว่าเธอคือใคร ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่ และเธอปรารถนาที่จะแสดงตัวตนของเธอนั้นออกมาอย่างไร
Can you choose to feel, then, that your not feeling you are at the level of demonstration of Mother Mary or of Lao Tzu, or of others who have been considered masters, has been perfect?
หากเป็นอย่างนั้น เธอเลือกที่จะรู้สึกว่า การที่เธอไม่รู้สึกว่าการปฏิบัติตัวของเธออยู่ในระดับเดียวกับ พระแม่มารี หรือ เล่าจื้อ หรือใครก็ตามที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นคุรุนั้นสมบูรณ์แบบได้หรือไม่❓
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา