13 ธ.ค. 2022 เวลา 08:56 • ไลฟ์สไตล์
คเณศคีตา จาก คเณศปุราณะ
บทที่ 3
การบรรลุความรู้
พระคเณศ กล่าวว่า ‘ณ ช่วงเวลาแห่งการสร้าง [จักรวาล] เมื่อกาลก่อน มีสามพระองค์ซึ่งเป็น ผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย ข้าฯ ได้อธิบายโยคะสูงสุดแด่องค์วิษณุ พระองค์ได้อธิบายต่อชาวอารยันและพระมนูซึ่งเป็นบุตรของพระองค์ จากนั้นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้รับความรู้สืบต่อมาตามเชื้อสาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนาน, ความรู้เรื่องโยคะสูงสุดก็ถูกทำลายลงในกาลจักรวาลสุดท้ายเพราะมันไม่เหมาะกับยุคสมัย ศรัทธาเสื่อมคลายลงและไม่อาจขับขานคีตาได้อย่างสมบูรณ์แบบ [มหาราชา]
ท่านได้สดับโยคะนี้จากปากของข้าฯ ซึ่งมีต้นกำเนิดในอดีต มันเป็นความลับยิ่งกว่าความลับใดๆ มันเป็นความลับของพระเวท มันสุดยอดและเป็นมงคล’
กษัตริย์วาเรณยา กล่าวว่า ‘คชานนะ ท่านเกิดในโลกนี้, แล้วท่านจะบอกเรื่องโยคะสูงสุดนี้แด่องค์วิษณุตั้งแต่แรกได้อย่างไร?’
คชานนะกล่าวว่า ‘ทั้งท่านและข้าฯ ได้เกิดมาแล้วหลายครั้ง ข้าฯ จำได้แต่ท่านจำไม่ได้ [มหาราชา] เหล่าเทวะซึ่งนำโดยองค์วิษณุกำเนิดจากข้าฯ เพียงผู้เดียว หลังจากจักรวาลถูกทำลายสรรพสิ่งซึมซับอยู่ในข้าฯ
ข้าฯ เพียงผู้เดียวคือพรหมันสูงสุด และข้าฯ เพียงผู้เดียวคือรุทระผู้ยิ่งใหญ่ และข้าฯ เพียงผู้เดียวคือโลก ทั้งสิ่งที่เคลื่อนไหวและสิ่งที่ไม่เคลื่อนไหว ข้าฯ ไม่กำเนิด ไม่เสื่อมสลาย ข้าฯ คือธาตุแห่งอาตมัน ไม่มีจุดเริ่มต้น
ข้าฯ คือพระผู้เป็นเจ้า ด้วยมายาของข้าฯ ระหว่างการสร้าง การรักษา และการทำลายล้างโลก ข้าฯ ถือกำเนิดหลายครั้งเมื่อศาสนาเสื่อมถอยลง ข้าฯ ถือกำเนิดเพื่อปกป้องความดีและปลุกเร้าคนชั่ว เมื่อทำลายหนทางที่ชั่วร้ายแล้ว ข้าฯ จะสถาปนาสัจธรรมพื้นฐานศาสนาขึ้นใหม่ และเพื่อความสงบสุขอันศักดิ์สิทธิ์เช่นในอดีต ข้าฯ จะฆ่าความชั่วร้ายและปีศาจ
ข้าฯ อวตาร ในหลายรูปเพื่อรักษาวรรณะ อาศรม และความดี ผู้ที่รู้ถึงอวตารอันศักดิ์สิทธิ์ของข้าฯ เป็นหลายสหัสวรรษ บุรุษผู้รู้ถึงสิ่งที่ข้าฯ กระทำ วีรกรรมของข้าฯ และรูปองค์อันศักดิ์สิทธิ์ เขาได้ถอนแนวคิดเรื่อง “ตัวฉัน และ ของฉัน”, เขาย่อมไม่กำเนิดใหม่ในโลกแห่งวัตถุนี้
บุรุษผู้พักพิงในข้าฯ และซึมซับในข้าฯ เขาปราศจากความปรารถนา ความกลัว และความโกรธ หลายคนที่ถูกชำระให้บริสุทธิ์ด้วยการปฏิบัติด้วยความรู้ เขาได้เข้าถึงข้าฯ ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบใด บุรุษผู้เป็นเลิศบูชาข้าฯ ผู้ไม่เสื่อมสลาย ข้าฯ ให้รางวัลพวกเขาเพื่อตอบแทนความภักดี [การอุทิศตน] และยังมีคนอื่นอีก [มหาราชา] ผู้เดินตามเส้นทางอื่นของข้าฯ เพื่อประกอบกิจประจำวันด้วยความสนใจในอาตมันและให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ผู้ที่ปรารถนาในผลที่เขาทำให้เทวะพึงพอใจ เขาย่อมได้รับผลดังกล่าวโดยเร็วในโลกนี้
ข้าฯ ได้สร้างวรรณะทั้งสี่ขึ้นในโลกมนุษย์ จากสัดส่วนของ รชะ สัตวะ ตมะ และสัดส่วนจากกรรมในอดีต [ของแต่ละบุคคล] ผู้มีปัญญารู้จักข้าฯ ในฐานะผู้กระทำและไม่ใช่ผู้กระทำ พระเป็นเจ้า ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่แปดเปื้อนด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำ
กรรมย่อมไม่ผูกมัดผู้ตระหนักรู้ถึงการตัดกิเลส บุรุษที่ต้องการหลุดพ้นจากกรรมต้องเข้าใจสิ่งนี้เสียก่อน ผู้ที่เป็นอิสระจากพันธะและอวิชชาทั้งปวง เพราะอานิสงส์จากกรรมเก่า จากสิ่งที่บริโภค และจากการตายจากโลกนี้ ดังนั้นข้าฯ จะบอกท่านเกี่ยวกับกรรมและอกรรม เพื่อให้ท่านเข้าใจและหลุดพ้นจากความหลงผิด
บุรุษผู้ใฝ่หาการหลุดพ้นย่อมตระหนักรู้ถึงความจริงของกรรมและอกรรม เส้นทางของผู้ลึกซึ้งประกอบด้วยกรรมสามประการในโลกนี้ ท่านผู้เป็นที่รัก
ใครก็ตามที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องกรรมและอกรรม จะหลุดพ้นในโลกนี้ในขณะที่ยังกระทำกิจทุกอย่าง หากปราศจากผลกรรมในอดีตก็ไม่มีคนเริ่มกระทำกรรมใดๆ ผู้มีปัญญามองเห็นกรรมของบุคคลด้วยสายตาที่รู้แจ้ง
หลังจากบุคคลถอนความปรารถนาผลของการกระทำในปัจจุบันได้ เขาจะพึงพอใจอยู่เสมอโดยไม่ต้องพยายาม แม้เขากระทำกิจใดๆ เขาก็มิได้ก่อกรรม เขาไร้ความปรารถนา ควบคุมตนเองได้ ไม่ครอบครอง ทำเพียงกิจที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เขาย่อมไม่ตกต่ำ เขามีทรรศนะว่าไม่มีสิ่งตรงกันข้าม ไร้ความโลภ เห็นความสำเร็จและความล้มเหลวเท่าเทียมกัน เป็นสุขยิ่งในโลกเพราะเขาเข้าถึงสภาวะเช่นนั้น
เขาประกอบกิจและไม่ผูกพัน ผู้ที่มีความรู้โดยสหัชญาณและเลือกปฏิบัติย่อมเป็นอิสระจากวัตถุแห่งผัสสะทั้งปวง ผลกรรมทั้งหลายจากกิจที่เขาทำด้วยการเสียสละย่อมถูกทำลาย
ผู้ที่ตระหนักรู้ถึงพรหมันคิดว่า “ข้าฯ คือไฟ เครื่องบูชา การถวาย และการเผา [เครื่องบูชา] นี้คือการถวายบูชาแด่พระองค์” เขาอุทิศตนเพื่อพรหมันสิ่งเดียวเท่านั้น โยคีบางคนกล่าวว่าชะตากรรมคือยัญ [การชดใช้กรรมเป็นการถวายบูชา] มีคนอื่นที่คิดว่าไฟแห่งพรหมันคือยัญ มีคนเผาผัสสะในไฟแห่งการอดกลั้นเพื่อเป็นยัญ [มหาราชา] และก็มีคนที่เผาผัสสะวัตถุ [อายตนะ ภายนอก] เช่น เสียง รส กลิ่น ฯลฯ ด้วยไฟแห่งอายตนะภายในเพื่อเป็นยัญ
บ้างก็ถวายยัญโดยการเผาปราณ และเผาอายตนะภายในด้วยไฟแห่งปีติสุขของการตะหนักรู้อาตมัน หรือ ด้วยการท่องคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์อย่างเคร่งครัด
มุนีถวายปฏิญาณอันแรงกล้าและความรู้แด่ข้าฯ เขาควบคุมปราณและอปาน เมื่อควบคุมทั้งปราณและอปานได้แล้ว เขาจึงมุ่งระงับการหายใจ เมื่อบรรลุปราณแล้ว เขาจึงถวายปราณเป็นยัญ ด้วยหนทางนี้มีการอุทิศตน หลายรูปแบบ กรรมชั่วของเหล่าผู้ปฏิบัติถูกทำลายด้วยยัญ บรรดาผู้ที่ได้ลิ้มรสน้ำหวานที่เหลือจากยัญย่อมไปสู่พรหมันนิรันดร์ โลกนี้มิได้มีไว้สำหรับมนุษย์ที่ไม่อุทิศตน แล้วยังจะมีโลกอื่นที่ไหนสำหรับเขา ? [มหาราชา]
ด้วยความรู้ที่กล่าวมานี้ มีการประกอบยัญ 3 ประการ คือ การปฏิบัติตน [บำเพ็ญเพียร] และอื่นๆ ซึ่งได้กล่าวถึงพื้นฐานไว้ในพระเวท ท่านจะได้หลุดพ้นจากการยึดถือใดๆ ในการเสียสละทั้งปวงนั้น การเสียสละโดยการให้ความรู้นั้นนับว่าดีที่สุด ผลของกรรมทั้งหลายจะละลายในความรู้ที่นำไปสู่การหลุดพ้น
ราชา, ความรู้อันแท้จริงนั้น ได้จากการถามอย่างถ่อมใจและรับใช้จิตวิญญาณที่ตระหนักในอาตมัน บรรดาผู้รู้แจ้งจะพูดแต่ความจริงเท่านั้น บุรุษผู้ไม่ได้ยินเสียงจากวิญญาณที่รู้แจ้งในอาตมันเพราะเขายึดติดมาก ผลก็คือเขาจะมีชีวิตอยู่ในโลกแห่งการเกิดการตายและเข้าสู่พันธนาการทางวัตถุ การมุ่งมั่นในความดีย่อมยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้นและโชคร้ายจะหายไป โชคลาภทางวัตถุนั้นหาง่าย [มหาราชา] แต่โอกาสที่จะได้มีจิตวิญญาณที่ดีนั้นหาได้ยาก
ครั้นรู้ในสิ่งอันควรรู้แล้ว บุรุษย่อมไม่เกิดใหม่ไม่ว่าที่นี่หรือที่อื่นใด เขาเห็นสรรพชีวิตเป็นเช่นตัวเขาเอง เขาคนเดิมที่เคยตั้งใจทำบาปก็ได้หลุดพ้นตั้งแต่บัดนั้น
กรรมประเภทต่างๆ จะถูกเผาไหม้ทันทีด้วยไฟแห่งความรู้ ไฟที่จุดขึ้นนั้นหาใช่จะสามารถทำทุกสิ่งให้เป็นเถ้าถ่านได้ในทันที [มหาราชา] ความบริสุทธิ์ใดก็เทียบไม่ได้กับความรู้
ในยามที่โยคีตระหนักถึงอาตมันด้วย [การปฏิบัติ] โยคะ มุนีผู้เอาชนะผัสสะและตั้งจิตไว้ที่อาตมัน เขาย่อมได้รับความรู้อันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากเป็น [เข้าถึง] ตตฺ สภาวะสูงสุด เขาจะหลุดพ้นในเวลาอันสั้น
แต่ผู้ที่ไม่มีความเลื่อมใส ไร้ศรัทธาและสงสัยอยู่เสมอ ย่อมไม่แยกแยะความรู้ที่เป็นสรณะ ไม่ว่าที่นี่หรือแม้ในโลกอื่น โยคะทำลายผลกรรมแก่ผู้ปฏิบัติที่ตั้งใจในความรู้แห่งอาตมัน ความสงสัยจะถูกทำลายลงด้วยความรู้ กรรมเหล่านี้ไร้พันธะ เพราะฉะนั้น, มันตัดปมในใจที่เกิดขึ้นจากอวิชชาด้วยดาบแห่งความรู้ บุรุษพึงดำรงอยู่ในโยคะ’
โอม นี่คือสัจธรรม นี่คือ 'การบรรลุความรู้' บทที่ 3 ในบทสนทนาระหว่างพระพิฆเนศและกษัตริย์วาเรณยาในรัฐอุตตราขัณฑ์ และ คเณศปุราณะที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ถูกนำมาเป็นตำราเรียนเรื่องความเป็นอมตะของโยคะ คเณศคีตาอันศักดิ์สิทธิ์คือแก่นแท้ของอุปนิษัท

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา