31 มี.ค. 2023 เวลา 08:44 • อาหาร

ข้าวแช่แบบมินิมอล กับข้าว 3 อย่าง

อาหารโบราณคลายร้อน
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน
ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว บ้านเราเรื่องอากาศร้อนนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สามารถทำให้คนล้มป่วยและเสียชีวิตได้เลยทีเดียว วันนี้มีเมนูคลายร้อนมาฝากค่ะ ฉันตั้งใจฝึกฝนการทำ “ข้าวแช่” มาสักพักใหญ่ๆเพื่อทำให้คนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุรับประทานเพื่อคลายร้อน
“ข้าวแช่” เป็นอาหารโบราณที่ใช้เวลาในการทำพอสมควร อีกทั้งยังต้องอาศัยฝีมือและความละเมียดละไมในการทำอีกด้วย ฉันเลือกทำกับข้าวที่รับประทานกับข้าวแช่ ที่ชอบที่สุดเพียง 3 อย่าง ได้แก่ ลูกกะปิ หัวไชโป้วผัดหวาน และ พริกหยวกสอดไส้
ข้าวแช่มีหลายตำรับ เช่น ข้าวแช่ชาววัง ข้าวแช่เมืองเพชร และข้าวแช่ตำรับมอญ กับข้าวของข้าวแช่มีมากมายหลายอย่าง ดังนั้นวันนี้เลยมานำเสนอ “ข้าวแช่แบบมินิมอล” ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มีเวลาจำกัด แต่อยากลองลงมือทำข้าวแช่ด้วยตัวเอง
การทำข้าวแช่อาจจะไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดค่ะ แต่ต้องวางแผนการทำงานดีๆ อาทิตย์ที่แล้วดอกไม้ที่ฉันปลูกในสวนหน้าบ้านเริ่มออกดอกพร้อมกัน มีทั้งดอกมะลิและดอกกระดังงา ฉันเด็ดดอกไม้ทั้งสองชนิดมาทำน้ำลอยดอกไม้และอบควันเทียนทิ้งไว้ข้ามคืน รุ่งเช้าก็นำมากรองด้วยผ้าขาวบางแล้วเก็บใส่ในขวดปิดฝาให้สนิท ฉันยังไม่มีเวลาที่จะทำข้าวแช่ เลยนำเข้าตู้เย็นเก็บไว้ในช่องแช่แข็งเอาไว้ก่อน เพราะบางครั้งมีเวลาและโอกาสที่จะทำข้าวแช่ แต่ไม่มีดอกไม้สำหรับทำน้ำข้าวแช่เสียอย่างนั้น
1 อาทิตย์ต่อมา
ฉันพร้อมแล้วที่จะลงมือทำข้าวแช่ด้วยตัวเอง เริ่มจากทำลูกกะปิก่อนอันดับแรกเพราะสามารถเก็บได้นาน “ลูกกะปิ” ถือเป็นหัวใจสำคัญของกับข้าวข้าวแช่ จะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่าย สูตรที่ฉันทำเป็นรสชาติในแบบที่ตัวเองชอบ ฉันศึกษาจากตำราอาหารไทยโบราณหลายๆเล่มรวมกันแล้วทำไปชิมไปค่ะ โดยอาศัยประสบการณ์การเคยกินข้าวแช่ตามที่ต่างๆมาประกอบด้วย
สูตรลูกกะปิ
ส่วนผสม
ปลาดุกย่างแกะเอาแต่เนื้อ 100 กรัม
มะพร้าวคั่ว 20 กรัม
กะปิอย่างดี 20 กรัม
กระชาย 50 กรัม
หอมแดง 50 กรัม
กระเทียมไทย 10 กรัม
ตะไคร้ 10 กรัม
ข่า 10 กรัม
ผิวมะกรูด 5 กรัม
รากผักชี 5 กรัม
พริกไทยดำ 10 เม็ด
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
น้ำตาลมะพร้าว 120 กรัม
หัวกะทิ 120 กรัม
ไข่เป็ดสำหรับชุบทอด 1 ฟอง
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ปลาดุกย่างแกะเอาแต่เนื้อไม่เอาหนังและก้าง นำมาโขลกให้เนื้อฟู พักไว้
2. โขลกพริกไทย ผิวมะกรูด ตะไคร้ ข่า รากผักชี กระเทียม หอมแดง กระชาย มะพร้าวคั่ว และกะปิ ตามลำดับ โขลกให้ละเอียด ถ้าไม่สะดวกโขลกก็สามารถปั่นเครื่องปั่นไฟฟ้าได้ นำเนื้อปลามาโขลกรวมกับส่วนผสมอีกครั้งให้เข้ากัน
3. ตั้งกระทะไฟกลางใส่หัวกะทิเคี่ยวจนแตกมัน นำส่วนผสมลงมาผัดในกระทะ ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว และเกลือ ชิมรสให้ออกหวานนำ เค็มตาม จากนั้นลดไฟอ่อน กวนส่วนผสมในกระทะให้แห้งจนสามารถปั้นเป็นก้อนได้ ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น
4. ปั้นลูกกะปิเป็นลูกกลมๆพอดีคำ แล้วกดให้แบนเล็กน้อย เวลาจะรับประทานนำไปชุปไข่ ทอดไฟกลางให้เหลือง แล้วตักขึ้นจากกระทะพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
* ลูกกะปิสามารถทำเตรียมล่วงหน้าเก็บไว้ได้นานค่ะ
สูตรหัวไชโป้วผัดหวาน
ส่วนผสม
หัวไชโป้วแบบเส้น 200 กรัม
น้ำตาลมะพร้าว 50 กรัม
น้ำเปล่า 20 กรัม
น้ำมันหอมเจียวหรือน้ำมันกระเทียมเจียว 10 กรัม
เกลือป่นหยิบมือ
วิธีทำ
1. ล้างหัวไชโป้วหลายๆน้ำให้สะอาด บีบให้หมาดผึ่งไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันใช้ไฟกลาง ผัดหัวไชโป้วให้เข้ากัน จากนั้นใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำตาลมะพร้าว เกลือป่นและน้ำสะอาดลงไป ค่อยๆผัดให้น้ำตาลซึมเข้าไปในหัวไชโป้ว ผัดจนเส้นเงาใส ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น
* หัวไชโป้วผัดหวาน สามารถทำเตรียมล่วงหน้าและเก็บไว้รับประทานได้นาน
สูตรพริกหยวกสอดไส้
ส่วนผสม
พริกหยวดเม็ดยาวตรงสวย 7 เม็ด
เนื้อหมูสับ 100 กรัม
เนื้อกุ้งขาวสับ 70 กรัม
รากผักชี 2 ราก
กระเทียม 1 ช้อนชา
พริกไทยดำ 15 เม็ด
ไข่ไก่เบอร์ 2 1 ฟอง
ดอกเกลือ ¼ ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
…………
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ไข่เป็ด 1 ฟอง
สำหรับโรยเป็นร่างแห
น้ำมันพืช
วิธีทำ
1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยให้ละเอียด พักไว้
2. กุ้งขาวแกะเปลือก และผ่ากลางดึงเส้นดำกลางหลังออก ล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง แล้วนำมาบดหรือสับให้ละเอียด
3. ผสมเนื้อหมูบดกับกุ้งบดเข้าด้วยกัน ใส่ไข่ไก่ 1ฟอง รากผักชี กระเทียม และพริกไทยที่โขลกไว้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และดอกเกลือ ชิมให้รสกลมกล่อม นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อหมักให้รสดีขึ้น
4. ล้างพริกหยวก แล้วใช้มีดกรีดเป็นรูปตัว T เพื่อเอาไส้และเม็ดออก จากนั้นตักส่วนผสมของไส้มาใส่เข้าไป บรรจุจนเต็ม แล้วนำไปนึ่งประมาณ 10 นาทีจนสุก ผึ่งไว้ให้น้ำที่ค้างอยู่ในพริกหยวกไหลออกให้หมด
5. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ปริมาณเท่ากับเหมือนเวลาที่จะทำไข่เจียวกรอบๆฟู ตีไข่ไก่และไข่เป็ดรวมกันใส่ในชาม ใช้มือจุ่มไข่แล้วโรยบนน้ำมันให้เป็นเส้นๆเหมือนร่างแห แล้วนำพริกหยวกที่นึ่งแล้ววางลงบนแพ ม้วนทบไข่ให้พันรอบเม็ดพริก จากนั้นตักขึ้นวางบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
การหุงข้าวแช่
ข้าวเสาไห้ 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. ล้างข้าวให้สะอาด นำไปต้มให้สุกแต่อย่าสุกมาก ให้เหลือเป็นไตตรงกลางไว้เล็กน้อย
2.รินน้ำออกแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆน้ำ เตรียมตะแกรงไม้ไผ่ตาถี่ๆ วางบนปากหม้อหรืออ่างผสมที่ใส่น้ำไว้เต็ม ตักข้าวใส่บนตะแกรง ใช้ฝ่ามือขัดข้าวเบาๆกับตะแกรง จนส่วนที่อ่อนรอบนอกเมล็ดข้าวหลุดออกไปกับน้ำ แล้วล้างน้ำจนกระทั่งน้ำใสไม่เห็นความขุ่นจากเมล็ดข้าว จากนั้นสงขึ้นวางบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
3. เตรียมลังถึงตั้งไฟ ปูด้วยผ้าขาวบาง นำข้าวที่ขัดแล้วใส่ลงไปเกลี่ยให้ทั่ว เว้นช่องตรงกลางไว้ให้ไอน้ำขึ้นมา นึ่งประมาณ 10 นาทีให้ข้าวสุก แต่ระวังอย่าสุกเกินไปจนเมล็ดข้าวบาน ทิ้งไว้ให้เย็น เมื่อจะรับประทาน ก็ตักข้าวใส่ถ้วย ใส่น้ำลอยดอกมะลิ แล้วโรยน้ำแข็งบดเล็กน้อย เสิร์ฟคู่กับกับข้าวที่เตรียมไว้ข้างต้น ได้แก่ ลูกกะปิ หัวไชโป้วผัดหวาน และพริกหยวกสอดไส้
ผักที่รับประทานกับข้าวแช่
- มะม่วงดิบ
- ต้นหอม
- กระชาย
- แตงกวา
แกะสลักให้สวยงาม
วันก่อนหน้านี้
หลังจากที่จัดสำรับข้าวแช่เล็กๆแบบมินิมอลของฉันแล้วเสร็จในช่วงบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลาสำคัญในการที่จะชิมรสมือของตัวเอง อากาศวันนั้นร้อนระอุมากๆ การรับประทานข้าวแช่หอมเย็นชื่นใจ ช่วยคลายความร้อนได้ดีมากๆค่ะ ถือเป็นภูมิปัญญาอันล้ำของคนโบราณโดยแท้
โปรดติดตามตอนต่อไป
"มดดี้"

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา