Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
10 เม.ย. 2023 เวลา 09:44 • หนังสือ
#14 HWG. — บทที่ 9️⃣ (ส่วนที่ 3)
: มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เธอจะตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่เธอเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง
▪️ผู้แปล : แอดมิน
🔸นี่เป็นงานแปลชิ้นที่ 2 ที่ผมตั้งใจแปลมากๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
𝗣𝗲𝗿𝗵𝗮𝗽𝘀 𝘀𝗼𝗺𝗲𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗹𝗶𝗸𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘄𝗮𝘀 𝘁𝗿𝘂𝗲 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝗧𝗲𝗿𝗿𝗶. 𝗠𝗮𝘆𝗯𝗲 𝘀𝗵𝗲 𝗱𝗶𝗱 𝗻𝗼𝘁 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗹𝘆 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝗮𝗿𝗹𝗶𝗲𝗿 𝗲𝘃𝗲𝗻𝘁𝘀 𝗼𝗳 𝗵𝗲𝗿 𝗹𝗶𝗳𝗲, 𝗯𝘂𝘁 𝗺𝗮𝘆𝗯𝗲 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴𝘀 𝗰𝗵𝗮𝗻𝗴𝗲𝗱 𝘄𝗵𝗲𝗻, 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿 𝘁𝗵𝗼𝘀𝗲 𝗶𝗻𝗶𝘁𝗶𝗮𝗹 𝗲𝘃𝗲𝗻𝘁𝘀, 𝗧𝗲𝗿𝗿𝗶 𝘄𝗮𝘀 𝘀𝗮𝗶𝗱 𝘁𝗼 𝗵𝗮𝘃𝗲 '𝗹𝗼𝘀𝘁 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀,' 𝗠𝗮𝘆𝗯𝗲 𝗧𝗲𝗿𝗿𝗶 𝗵𝗮𝗱 𝗻𝗼𝘁 '𝗹𝗼𝘀𝘁' 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀 𝗮𝘁 𝗮𝗹𝗹.
N : บางทีเรื่องทำนองนั้นอาจเป็นจริงกับเทอร์รี่ บางทีเธออาจไม่ได้เลือกเหตุการณ์ช่วงก่อนหน้าในชีวิตของเธออย่างมีสติ แต่บางทีสิ่งต่าง ๆ อาจเปลี่ยนไปหลังจากเหตุการณ์เหล่านั้น เทอร์รี่ถูกกล่าวหาว่า “ไม่มีสติ (ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีก)” แต่เทอร์รี่อาจไม่ได้ “สูญเสียสติ (การรับรู้)” ของเธอเลยก็ได้
𝗠𝗮𝘆𝗯𝗲 𝘀𝗵𝗲 𝘀𝗵𝗶𝗳𝘁𝗲𝗱 𝗵𝗲𝗿 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀. 𝗠𝗮𝘆𝗯𝗲 𝘀𝗵𝗲 '𝗳𝗼𝘂𝗻𝗱' 𝗵𝗲𝗿𝘀𝗲𝗹𝗳 𝗮𝘁 𝗮 𝗱𝗶𝗳𝗳𝗲𝗿𝗲𝗻𝘁 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹 𝗼𝗳 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀-- 𝗳𝗶𝗿𝘀𝘁, 𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝘂𝗽𝗲𝗿-𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹, 𝘄𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘀𝗵𝗲 𝗯𝗲𝗰𝗮𝗺𝗲 𝗳𝘂𝗹𝗹𝘆 𝗮𝘄𝗮𝗿𝗲 𝗼𝗳 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘀 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗮𝗻𝗱 𝘄𝗵𝘆,
𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗲𝗻, 𝗳𝗶𝗻𝗮𝗹𝗹𝘆, 𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝘂𝗽𝗿𝗮-𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹, 𝘄𝗵𝗲𝗿𝗲, 𝗵𝗮𝘃𝗶𝗻𝗴 𝗰𝗼𝗺𝗽𝗹𝗲𝘁𝗲𝗱 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗵𝗲 𝗰𝗮𝗺𝗲 𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘁𝗼 𝗰𝗼𝗺𝗽𝗹𝗲𝘁𝗲, 𝘀𝗵𝗲 𝗮𝗰𝗵𝗶𝗲𝘃𝗲𝗱 𝗔𝗯𝘀𝗼𝗹𝘂𝘁𝗲 𝗔𝘄𝗮𝗿𝗲𝗻𝗲𝘀𝘀 𝗼𝗳 𝗵𝗲𝗿 𝗶𝗻𝘁𝗿𝗶𝗻𝘀𝗶𝗰 𝘂𝗻𝗶𝘁𝘆 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝘁𝗵𝗲 𝗗𝗶𝘃𝗶𝗻𝗲.
บางทีเธออาจแค่เปลี่ยนระดับจิตสำนึกของเธอ เธออาจ “พบ” ตัวเองอยู่ที่ระดับของจิตสำนึกที่ต่างไป —ตอนแรก ที่ระดับของจิตเหนือสำนึก ที่ซึ่งเธอตระหนักรู้ได้อย่างเต็มเปี่ยมถึงสิ่งที่เธอกำลังสร้างและเหตุผลในการสร้างสิ่งนั้น และจากนั้น ในท้ายที่สุด ที่ระดับของอภิจิตสำนึก ที่ซึ่งภารกิจของเธอในการมาที่นี่เพื่อทำให้สำเร็จนั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว เธอได้บรรลุถึงการตระหนักรู้อย่างสัมบูรณ์ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันที่แท้จริงของเธอกับพระเจ้า
𝗜 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗧𝗲𝗿𝗿𝗶 𝗦𝗰𝗵𝗶𝗮𝘃𝗼 𝘂𝘀𝗲𝗱 𝗵𝗲𝗿 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝘁𝗼 𝗶𝗻𝘃𝗶𝘁𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗲𝗼𝗽𝗹𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗼𝗿𝗹𝗱 𝘁𝗼 𝗺𝗼𝘃𝗲 𝘁𝗼 𝗮 𝗻𝗲𝘄 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹 𝗼𝗳 𝗶𝗻𝗾𝘂𝗶𝗿𝘆 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝗺𝗮𝘁𝘁𝗲𝗿𝘀 𝗼𝗳 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗮𝗻𝗱 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵, 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗼𝘂𝗹 𝗮𝗻𝗱 𝗚𝗼𝗱, 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗮𝗰𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀 𝗮𝗿𝗲 𝗼𝗳 𝗯𝗲𝗻𝗲𝗳𝗶𝘁 𝘁𝗼 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻𝗶𝘁𝘆 𝗶𝗻 𝗰𝗮𝘀𝗲𝘀 𝘀𝘂𝗰𝗵 𝗮𝘀 𝗵𝗲𝗿𝘀.
ผมเชื่อว่า เทอร์รี่ ไชโว ใช้ชีวิตของเธอเพื่อเชื้อเชิญผู้คนในโลกให้ก้าวไปสู่ระดับใหม่ของการพิจารณาถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับชีวิตและความตาย จิตวิญญาณและพระเจ้า และการกระทำใดๆก็ตามที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ —ซึ่งนี่คือภารกิจของเธอในการมาที่นี่
𝗜 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗧𝗲𝗿𝗿𝗶 𝗦𝗰𝗵𝗶𝗮𝘃𝗼, 𝗮𝘁 𝗮 𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘂𝗮𝗹 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹, 𝘄𝗮𝘀 𝗻𝗲𝘃𝗲𝗿, 𝗲𝘃𝗲𝗿 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺 𝗼𝗳 𝗵𝗲𝗿 𝗰𝗶𝗿𝗰𝘂𝗺𝘀𝘁𝗮𝗻𝗰𝗲.
𝗜 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗵𝗲 𝗸𝗻𝗲𝘄 𝗱𝘂𝗿𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗼𝘀𝗲 𝗳𝗶𝗻𝗮𝗹 𝘆𝗲𝗮𝗿𝘀 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘄𝗮𝘀 𝗴𝗼𝗶𝗻𝗴 𝗼𝗻, 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝗹𝗹𝗼𝘄𝗲𝗱 𝗵𝗲𝗿𝘀𝗲𝗹𝗳 𝘁𝗼 𝗯𝗲 𝘀𝘂𝗯𝗷𝗲𝗰𝘁𝗲𝗱 𝘁𝗼 𝗶𝘁 𝗶𝗻 𝗼𝗿𝗱𝗲𝗿 𝘁𝗼 𝗱𝗿𝗮𝘄 𝗴𝗹𝗼𝗯𝗮𝗹 𝗮𝘁𝘁𝗲𝗻𝘁𝗶𝗼𝗻 𝘁𝗼 𝗵𝗲𝗿𝘀𝗲𝗹𝗳 𝗳𝗼𝗿 𝘁𝗵𝗲 𝗴𝗼𝗼𝗱 𝗼𝗳 𝗮𝗹𝗹 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻𝗸𝗶𝗻𝗱.
ผมเชื่อว่าในระดับจิตวิญญาณ เทอร์รี่ ไชโว ไม่ได้ และไม่เคยตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ของตัวเธอเอง ผมเชื่อว่าในช่วงปีสุดท้ายของเธอนั้นเธอรู้ดีถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และยอมให้ตัวเองตกเป็นข่าวพาดหัวเพื่อดึงความสนใจจากทั่วโลกมาที่ตัวเธอเพื่อประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ
𝗜 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗝𝗲𝘀𝘂𝘀 𝗱𝗶𝗱 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗮𝗺𝗲 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴.
ผมเชื่อว่าพระเยซูก็ทรงทําแบบเดียวกันนี้ทุกประการ★
★ที่พระองค์ทรงยอมให้ตนเองถูกตรึงไม้กางเขน ก็ด้วยเหตุผลในแบบข้างต้น –ผู้แปล–
𝗔𝗺 𝗜 𝗿𝗶𝗴𝗵𝘁 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝗧𝗲𝗿𝗿𝗶?
ผมพูดถูกไหมครับ เกี่ยวกับเทอร์รี่❓
𝗚 : "𝗜𝘁 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗯𝗲 𝗽𝗿𝗼𝗳𝗼𝘂𝗻𝗱𝗹𝘆 𝗶𝗻𝘁𝗿𝘂𝘀𝗶𝘃𝗲 𝗮𝗻𝗱 𝗶𝗻𝗮𝗽𝗽𝗿𝗼𝗽𝗿𝗶𝗮𝘁𝗲 𝗳𝗼𝗿 𝗺𝗲 𝘁𝗼 𝗿𝗲𝘃𝗲𝗮𝗹 𝘁𝗵𝗲 𝗶𝗻𝗻𝗲𝗿 𝘀𝘂𝗽𝗲𝗿 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗼𝗿 𝘀𝘂𝗽𝗿𝗮-𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝘄𝗼𝗿𝗸𝗶𝗻𝗴𝘀 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗶𝗻𝗱𝗶𝘃𝗶𝗱𝘂𝗮𝗹'𝘀 𝗺𝗶𝗻𝗱. 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗺𝘂𝗰𝗵 𝗰𝗮𝗻 𝗯𝗲 𝘀𝗮𝗶𝗱, 𝗵𝗼𝘄𝗲𝘃𝗲𝗿, 𝗮𝗻𝗱 𝗜 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝘀𝗮𝗶𝗱 𝗶𝘁 𝗺𝗮𝗻𝘆, 𝗺𝗮𝗻𝘆 𝘁𝗶𝗺𝗲𝘀 𝗯𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲, 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝗮𝗹𝗹 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻 𝗯𝗲𝗶𝗻𝗴𝘀.
G : มันจะเป็นการก้าวก่ายอย่างร้ายแรง★และไม่เหมาะสมสำหรับฉันที่จะเปิดเผยการทำงานของจิตเหนือสำนึก หรือ อภิจิตสำนึกภายในจิตใจของเทอร์รี่ (และทุกตัวตนปัจเจก) ฉันสามารถพูดได้เพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตาม ฉันได้พูดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ทุกคนมาหลายต่อครั้งหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้
★การก้าวก่ายถึงแผนการทางจิตวิญญาณ ที่เป็นแผนการวิวัฒนาการของวิญญาณ เป็นเรื่องร้ายแรง เพราะมันจะไปขัดต่อเจตจำนงเสรีในการเลือก ที่พระเจ้าได้ประทานให้ไว้กับสรรพชีวิตทั้งมวลที่เป็นภาคส่วนหนึ่งของพระองค์นั่นเอง หากเป็นอย่างนั้น นั่นก็แสดงว่าพระเจ้ากำลังขัดแย้งกับตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นไปไม่ได้ –ผู้แปล–
"𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺𝘀, 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼 𝘃𝗶𝗹𝗹𝗮𝗶𝗻𝘀 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗼𝗿𝗹𝗱."
“ไม่มีเหยื่อ และ ไม่มีผู้ร้ายในโลกนี้”
𝗡 : 𝗪𝗲𝗹𝗹, 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝘁𝗵𝗶𝗿𝗱 𝗼𝗿 𝗳𝗼𝘂𝗿𝘁𝗵 𝘁𝗶𝗺𝗲 𝘆𝗼𝘂'𝘃𝗲 𝗺𝗮𝗱𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘀𝘁𝗮𝘁𝗲𝗺𝗲𝗻𝘁 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗰𝗼𝗻𝘃𝗲𝗿𝘀𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗮𝗹𝗼𝗻𝗲, 𝗯𝘂𝘁 𝗜'𝘃𝗲 𝘀𝗮𝗶𝗱 𝗶𝘁 𝗯𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲 𝗮𝗻𝗱 𝗜'𝗹𝗹 𝘀𝗮𝘆 𝗶𝘁 𝗮𝗴𝗮𝗶𝗻: 𝘁𝗵𝗲 𝗶𝗱𝗲𝗮 𝗼𝗳 𝗻𝗼 𝗼𝗻𝗲 𝗯𝗲𝗶𝗻𝗴 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺 𝗶𝘀 𝘀𝗼𝗺𝗲𝘁𝗶𝗺𝗲𝘀 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝗲𝗺𝗼𝘁𝗶𝗼𝗻𝗮𝗹𝗹𝘆 𝗱𝗶𝗳𝗳𝗶𝗰𝘂𝗹𝘁 𝗳𝗼𝗿 𝗽𝗲𝗼𝗽𝗹𝗲 𝘁𝗼 𝗮𝗰𝗰𝗲𝗽𝘁.
N : เอาแค่ในการสนทนานี้ นี่เป็นครั้งที่สามหรือสี่แล้วนะครับที่พระองค์พูดประโยคนั้น แม้ผมจะเคยพูดไปแล้ว แต่ผมจะพูดอีกครั้งนะครับว่า : แนวคิดที่ว่าไม่มีใครเป็นเหยื่อนั้นบางครั้งก็เป็นเรื่องยากทางความรู้สึกสำหรับผู้คนที่จะยอมรับ★
★จะให้วางเฉย ไม่มีความรู้สึกเลย ไม่โมโหเลย ไม่โกรธแค้นเลย ก็เป็นเรื่องยากสำหรับคนที่โดนกระทำ หรือคนใกล้ชิดตนโดนกระทำ –ผู้แปล–
𝗬𝗼𝘂 𝗼𝗯𝘀𝗲𝗿𝘃𝗲𝗱 𝗯𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗶𝘀 𝗯𝗲𝗰𝗮𝘂𝘀𝗲 𝗺𝗼𝘀𝘁 𝗽𝗲𝗼𝗽𝗹𝗲 𝗮𝗿𝗲 𝗹𝗼𝗼𝗸𝗶𝗻𝗴 𝗮𝘁 𝗹𝗶𝗳𝗲'𝘀 𝘀𝗶𝘁𝘂𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝘁𝗵𝗲 𝘃𝗲𝗿𝘆 𝗹𝗶𝗺𝗶𝘁𝗲𝗱 𝗽𝗲𝗿𝘀𝗽𝗲𝗰𝘁𝗶𝘃𝗲 𝗼𝗳 𝗻𝗼𝗿𝗺𝗮𝗹 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻 𝘂𝗻𝗱𝗲𝗿𝘀𝘁𝗮𝗻𝗱𝗶𝗻𝗴,
𝗯𝘂𝘁 𝗵𝗼𝘄 𝗰𝗮𝗻 𝘁𝗵𝗼𝘀𝗲 𝗼𝗳 𝘂𝘀 𝘄𝗵𝗼 𝘀𝗲𝗲𝗸 𝘁𝗼 𝗿𝗮𝗶𝘀𝗲 𝗼𝘂𝗿 𝗼𝘄𝗻 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀, 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗼 𝗮𝘀𝘀𝗶𝘀𝘁 𝗶𝗻 𝗵𝗲𝗹𝗽𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗼 𝗿𝗮𝗶𝘀𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀 𝗼𝗳 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻𝗶𝘁𝘆, 𝗵𝗼𝗽𝗲 𝘁𝗼 𝗲𝗻𝗹𝗮𝗿𝗴𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘂𝗻𝗱𝗲𝗿𝘀𝘁𝗮𝗻𝗱𝗶𝗻𝗴?
พระองค์ให้ข้อสังเกตมาก่อนว่า ด้วยความเข้าใจที่มนุษย์โดยทั่วไปมี ทำให้คนส่วนใหญ่มองสถานการณ์ในชีวิตจากมุมมองที่คับแคบจำกัดมากๆ แต่มีวิธีการใดไหมครับที่จะช่วยให้พวกเราเหล่าคนที่กำลังพยายามยกระดับจิตสำนึกของตัวเอง และให้การช่วยเหลือในการช่วยยกระดับจิตสำนึกของมนุษยชาติ ให้สามารถขยายระดับความเข้าใจของมนุษย์ทั่วไปให้มากขึ้นได้❓
𝗚 : "𝗦𝗽𝗲𝗮𝗸 𝘁𝗼 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻𝗶𝘁𝘆 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗧𝗼𝗼𝗹𝘀 𝗼𝗳 𝗖𝗿𝗲𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻: 𝗧𝗵𝗼𝘂𝗴𝗵𝘁, 𝗪𝗼𝗿𝗱, 𝗮𝗻𝗱 𝗗𝗲𝗲𝗱. 𝗧𝗵𝗲𝘀𝗲 𝗮𝗿𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗱𝗲𝘃𝗶𝗰𝗲𝘀 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝘄𝗵𝗶𝗰𝗵 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗺𝗶𝗰𝗿𝗼-𝗿𝗲𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆. 𝗧𝗵𝗲𝘀𝗲 𝘁𝗼𝗼𝗹𝘀 𝗮𝗿𝗲 𝗽𝗲𝗿𝗳𝗲𝗰𝘁. 𝗧𝗵𝗲𝘆 𝗮𝗿𝗲 𝗺𝗮𝗴𝗻𝗶𝗳𝗶𝗰𝗲𝗻𝘁𝗹𝘆 𝗲𝗳𝗳𝗲𝗰𝘁𝗶𝘃𝗲.
G : จงบอกมนุษยชาติเกี่ยวกับเครื่องมือแห่งการสร้างสรรค์ 3 ระดับ : ได้แก่ ความคิด คำพูด และการกระทำ นั่นคือเครื่องมือหรือวิธีที่เธอใช้สร้างความเป็นจริงของเธอเอง (ที่เป็นความจริงขนาดย่อมที่คลอบคลุมและกินความถึงความจริงสูงสุดอยู่ไม่มากหากเทียบกับความจริงของจักรวาลหรือความจริงสูงสุด) นี่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ พวกมันมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
"𝗪𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗸, 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝘀𝗮𝘆, 𝗮𝗻𝗱 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗱𝗼 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗮𝗹𝗹 '𝘆𝗼𝘂' 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗼𝗻𝗻𝗼𝘁𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀 𝗮𝗻𝗱 𝗰𝗶𝗿𝗰𝘂𝗺𝘀𝘁𝗮𝗻𝗰𝗲𝘀 𝗼𝗳 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗹𝗶𝗳𝗲.
สิ่งที่เธอคิด สิ่งที่เธอพูด และสิ่งที่เธอทำจะสร้างประสบการณ์ที่เธอเรียกว่า “ตัวตนของเธอ (สิ่งที่เธอเป็น)” และเป็นการแสดงในสิ่งที่เธอเป็นนั้นออกมา และสร้างสภาพการณ์แวดล้อมในชีวิตของเธอให้เกิดขึ้นมา★
★จะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตบ้าง เจอใครบ้าง เจอกับอะไรบ้าง ที่ไหนบ้าง เวลาไหนบ้าง ฯลฯ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจาก สิ่งที่เราคิด พูด และ กระทำ –ผู้แปล–
"𝗜𝘁 𝗶𝘀 𝗮𝘀 𝗜 𝘀𝗮𝗶𝗱 𝗯𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲: 𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗸 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺, 𝘀𝗮𝘆 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺, 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝗰𝘁 𝗮𝘀 𝗶𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺, 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿𝘀𝗲𝗹𝗳 𝗮𝘀 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺 𝗶𝗻 𝘀𝗽𝗶𝘁𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗳𝗮𝗰𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼𝘁.
อย่างที่ฉันเคยบอกไปก่อนหน้านี้ : ถ้าเธอคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อ พูดว่าตัวเองเป็นเหยื่อ และทำราวกับว่าตัวเองเป็นเหยื่อ เธอก็จะพบว่าตัวเองเป็นเหยื่อทั้งที่จริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็น
"𝗧𝗵𝗲 𝘀𝗮𝗺𝗲 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝘁𝗿𝘂𝗲 𝘄𝗵𝗲𝗻 𝘆𝗼𝘂 𝗱𝗲𝗰𝗶𝗱𝗲 𝘁𝗼 𝗹𝗮𝗯𝗲𝗹 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿𝘀. 𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗸 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗮𝗻𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗶𝘀 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺, 𝘀𝗮𝘆 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗮𝗻𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗶𝘀 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺, 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝗰𝘁 𝗮𝘀 𝗶𝗳 𝗮𝗻𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗶𝘀 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺, 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗽𝗲𝗿𝘀𝗼𝗻 𝗮𝘀 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺 𝗶𝗻 𝘀𝗽𝗶𝘁𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗳𝗮𝗰𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗵𝗲 𝗼𝗿 𝘀𝗵𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘁.
ในทำนองเดียวกัน เมื่อเธอตัดสินใจติดป้ายกำกับประสบการณ์ของผู้อื่น ด้วยการคิดว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเหยื่อ พูดว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเหยื่อ และทำราวกับว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเหยื่อ เธอก็จะพบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเหยื่อทั้งที่จริงๆแล้วเขาหรือเธอไม่ได้เป็น
"𝗗𝗼 𝘆𝗼𝘂 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗧𝗲𝗿𝗿𝗶 𝗦𝗰𝗵𝗶𝗮𝘃𝗼 𝗮𝘀 𝗵𝗮𝘃𝗶𝗻𝗴 𝗯𝗲𝗲𝗻 𝗮 '𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺'? 𝗣𝗲𝗿𝗵𝗮𝗽𝘀 𝘆𝗼𝘂 𝗱𝗼. 𝗪𝗮𝘀 𝗧𝗲𝗿𝗿𝗶 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺? 𝗡𝗼.
เธอพบว่าการที่เทอร์รี่ ไชโว ถูกกระทำเช่นนั้นเลยทำให้เธอกลายเป็น 'เหยื่อ' ใช่ไหม❓ หรือบางทีอาจเป็นเธอเองที่ทำให้เทอร์รี่ กลายเป็นเหยื่อด้วยการคิดไปเองใช่หรือไม่❓ แล้วจริงๆเทอร์รี่เป็นเหยื่องั้นหรือ❓ ไม่ใช่ เธอไม่ได้เป็น
"𝗜𝘁 𝗶𝘀 𝗶𝗺𝗽𝗼𝘀𝘀𝗶𝗯𝗹𝗲 𝘁𝗼 𝗯𝗲 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺 𝗼𝗳 𝗰𝗶𝗿𝗰𝘂𝗺𝘀𝘁𝗮𝗻𝗰𝗲𝘀 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲.
มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เธอจะตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่เธอเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง
"𝗔𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝗿𝗲𝗺𝗲𝗺𝗯𝗲𝗿 𝘁𝗵𝗮𝘁.
จงจำไว้เสมอว่า
"𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲, 𝘁𝗼 𝗯𝗲 𝗮 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺 𝗼𝗳 𝗰𝗶𝗿𝗰𝘂𝗺𝘀𝘁𝗮𝗻𝗰𝗲𝘀, 𝘆𝗼𝘂 𝗺𝘂𝘀𝘁 𝘀𝘄𝗲𝗮𝗿 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗱𝗶𝗱 𝗻𝗼𝘁 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝘁𝗵𝗲𝗺. 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝘁𝗲𝗹𝗹𝘀 𝗮 𝗹𝗶𝗲 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝘆𝗼𝘂.
ดังนั้น เพื่อให้ตนตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ เธอต้องยืนยันด้วยการสาบานว่าเธอไม่ได้เป็นคนสร้างทั้งหมดนั้นขึ้นมาเอง ซึ่งนี่เป็นความเท็จ (ไม่ใช่ความจริง) เกี่ยวกับตัวตน (ที่แท้จริง) ของเธอ
"𝗬𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝗮𝗹𝗹 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗶𝗿𝗰𝘂𝗺𝘀𝘁𝗮𝗻𝗰𝗲𝘀 𝗼𝗳 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗹𝗶𝗳𝗲. 𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝘁𝗵𝗲𝗺 𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹, 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝗮𝘄𝗮𝗿𝗲 𝗼𝗳 𝗶𝘁. 𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝘁𝗵𝗲𝗺 𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝘂𝗯𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗼𝗿 𝘀𝘂𝗽𝗿𝗮𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹, 𝘆𝗼𝘂 𝗺𝗮𝘆 𝗻𝗼𝘁. 𝗬𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲𝗱 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗶𝗿𝗰𝘂𝗺𝘀𝘁𝗮𝗻𝗰𝗲𝘀 𝗻𝗼𝗻𝗲𝘁𝗵𝗲𝗹𝗲𝘀𝘀.
เธอเป็นคนสร้างสถานการณ์ทั้งหมดในชีวิตของเธอขึ้นมาเอง ถ้าเธอสร้างมันขึ้นมาที่ระดับของจิตสำนึก เธอก็จะรับรู้ถึงมัน แต่หากเธอสร้างมันขึ้นมาที่ระดับของจิตใต้สำนึกหรือจิตเหนือสำนึกหรืออภิจิตสำนึก เธออาจจะไม่รู้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอก็เป็นคนสร้างสถานการณ์เหล่านั้นขึ้นมาด้วยตัวเองอยู่ดี
"𝗔𝗹𝗹 𝗺𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝘀 𝗸𝗻𝗼𝘄 𝘁𝗵𝗶𝘀, 𝘄𝗵𝗶𝗰𝗵 𝗶𝘀 𝘄𝗵𝘆 𝗻𝗼 𝗺𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿 𝗲𝘃𝗲𝗿 𝗽𝗼𝗶𝗻𝘁𝘀 𝗮 𝗳𝗶𝗻𝗴𝗲𝗿 𝗮𝘁 𝗮𝗻𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗽𝗲𝗿𝘀𝗼𝗻 𝗮𝗻𝗱 𝘀𝗮𝘆𝘀, '𝗬𝗼𝘂 𝗱𝗶𝗱 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝘁𝗼 𝗺𝗲.'
คุรุทุกคนรู้เรื่องนี้ นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมไม่มีคุรุคนใดเคยชี้นิ้วไปที่บุคคลใดและพูดว่า “เธอเป็นคนทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับฉัน”
"𝗬𝗲𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗺𝗮𝘆 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘄𝗵𝗮𝘁𝗲𝘃𝗲𝗿 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲. 𝗬𝗼𝘂 𝗺𝗮𝘆 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗰𝗼𝗺𝗲 𝘁𝗼 𝗸𝗻𝗼𝘄 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝘄𝗵𝗼 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗮𝘀 𝗮 𝗿𝗲𝘀𝘂𝗹𝘁 𝗼𝗳 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘂𝗮𝗹 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗺 𝗯𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗯𝗶𝗿𝘁𝗵, 𝗼𝗿 𝘆𝗼𝘂 𝗺𝗮𝘆 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘀𝗼𝗺𝗲𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗹𝗲𝘀𝘀 𝘁𝗵𝗮𝗻 𝘁𝗵𝗮𝘁. 𝗜𝗻 𝘁𝗵𝗶𝘀, 𝗮𝘀 𝗶𝗻 𝗮𝗹𝗹 𝗺𝗮𝘁𝘁𝗲𝗿𝘀, 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗳𝗿𝗲𝗲 𝘄𝗶𝗹𝗹."
แต่ทว่าเธออาจได้ประสบกับสิ่งที่เธอเลือกไว้ก่อนหน้า ซึ่งสิ่งนั้นเธออาจมารู้ในภายหลังว่าเป็นผลมาจากการเลือก (วางแผน) ของเธอในตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ในโลกวิญญาณก่อนมาเกิด★ หรือเธออาจได้ประสบกับบางอย่างที่น้อยกว่า (แผนที่วางไว้) นั้น (หรือได้ประสบกับสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในแผน หรือไม่เป็นไปตามแผน) ในเรื่องนี้ ก็เช่นเดียวกับทุกเรื่อง ที่เธอมีเจตจำนงเสรีในการเลือกที่จะทำอะไรก็ได้
★ที่เป็นแผนการที่ถูกวางไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนในการวิวัฒนาการตัวเองของวิญญาณ –ผู้แปล–
𝗡 : 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗯𝗿𝗶𝗻𝗴𝘀 𝘂𝗽 𝘆𝗲𝘁 𝗮𝗻𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗾𝘂𝗲𝘀𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗳𝗼𝗿 𝗺𝗲. 𝗜𝘀 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀 𝗯𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲 𝗯𝗶𝗿𝘁𝗵? 𝗙𝗿𝗼𝗺 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂'𝗿𝗲 𝘀𝗮𝘆𝗶𝗻𝗴 𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗮𝗻𝘀𝘄𝗲𝗿 𝘀𝗲𝗲𝗺𝘀 𝘁𝗼 𝗯𝗲 𝘆𝗲𝘀. 𝗦𝗼 𝘄𝗲 𝗮𝗿𝗲 '𝗮𝘄𝗮𝗿𝗲' 𝗼𝗳 𝗼𝘂𝗿𝘀𝗲𝗹𝘃𝗲𝘀 𝗯𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲 𝘄𝗲'𝗿𝗲 '𝗯𝗼𝗿𝗻'?
N : นี่ทำให้ผมเกิดอีกคำถามตามมาว่า ตัวผมมีจิตสำนึกหรือจิตรับรู้ไหมครับก่อนที่จะมาเกิด❓แต่ดูจากสิ่งที่พระองค์พูดแล้วคำตอบก็คงเป็น ‘มี’ ดังนั้น เราจึงรู้ว่าตนเองเป็นอะไรและเป็นใครก่อนที่จะมาเกิดแล้วใช่ไหมครับ❓
𝗚 : "𝗢𝗵, 𝘆𝗲𝘀. 𝗟𝗼𝗻𝗴 𝗯𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲. 𝗧𝗵𝗲 '𝘆𝗼𝘂' 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 '𝘆𝗼𝘂' 𝗵𝗮𝘀 𝗯𝗲𝗲𝗻 '𝗮𝘄𝗮𝗿𝗲' 𝗼𝗳 𝗜𝘁𝘀𝗲𝗹𝗳 𝗳𝗼𝗿𝗲𝘃𝗲𝗿. 𝗪𝗲 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘁𝗮𝗹𝗸 𝗺𝗼𝗿𝗲 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗹𝗮𝘁𝗲𝗿, 𝘄𝗵𝗲𝗻 𝘄𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗹𝗼𝗿𝗲 𝗶𝗻 𝗺𝗼𝗿𝗲 𝗱𝗲𝗽𝘁𝗵 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗺𝗮𝘁𝘁𝗲𝗿 𝗼𝗳 𝗯𝗶𝗿𝘁𝗵.
𝗙𝗼𝗿 𝗻𝗼𝘄, 𝘀𝗶𝗺𝗽𝗹𝘆 𝗸𝗻𝗼𝘄 𝘁𝗵𝗮𝘁 '𝗬𝗢𝗨' 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗮𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝗯𝗲𝗲𝗻...𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼𝘄...𝗮𝗻𝗱 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗮𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝗯𝗲. 𝗪𝗵𝗲𝗻 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗯𝗼𝗿𝗻, 𝘆𝗼𝘂 𝘀𝗶𝗺𝗽𝗹𝘆 𝗱𝗶𝘀𝗶𝗻𝘁𝗲𝗴𝗿𝗮𝘁𝗲."
G : ใช่แล้ว เธอรู้มานานแล้ว เนิ่นนานก่อนหน้าชีวิตในโลกวิญญาณของเธอเสียอีก “ตัวตนที่แท้จริงของเธอ” ที่กลายเป็น ‘ตัวเธอในตอนนี้’ นั้น ตระหนักรู้ในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่นั้นตลอดกาล เราจะพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้นในภายหลังในตอนที่เราสำรวจเรื่องการเกิดในเชิงลึกยิ่งขึ้น สำหรับตอนนี้ แค่รู้ไว้ว่า “เธอ” เคยเป็นยังไงมา...เธอก็เป็นเช่นนั้นอยู่ในตอนนี้...และเธอจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ตอนที่เธอมาเกิด เธอก็แค่แบ่งตัวเองออกเป็นส่วนๆเท่านั้นเอง
𝗡 : 𝗜 𝘄𝗵𝗮𝘁?
N : ผมทำอะไรนะครับ?
𝗚 : "𝗬𝗼𝘂 𝗱𝗶𝘀𝗶𝗻𝘁𝗲𝗴𝗿𝗮𝘁𝗲. 𝗬𝗼𝘂 𝗰𝗲𝗮𝘀𝗲 𝗯𝗲𝗶𝗻𝗴 𝗶𝗻𝘁𝗲𝗴𝗿𝗮𝘁𝗲𝗱. 𝗬𝗼𝘂 𝗰𝗲𝗮𝘀𝗲 𝗯𝗲𝗶𝗻𝗴 𝗦𝗶𝗻𝗴𝘂𝗹𝗮𝗿 𝗮𝗻𝗱 𝗱𝗶𝘃𝗶𝗱𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿𝘀𝗲𝗹𝗳 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗿𝗲𝗲 𝗽𝗮𝗿𝘁𝘀: 𝗯𝗼𝗱𝘆, 𝗺𝗶𝗻𝗱, 𝗮𝗻𝗱 𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁. 𝗢𝗿 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗰𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗮𝗹𝘀𝗼 𝗯𝗲 𝗰𝗮𝗹𝗹𝗲𝗱 𝘀𝘂𝗯𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀, 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀, 𝗮𝗻𝗱 𝘀𝘂𝗽𝗲𝗿𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀.
G : เธอแบ่งตัวเองออกเป็นส่วน ๆ เธอยุติการหลอมรวม เธอเลิกเป็นหนึ่งเดียวและแบ่งตัวเองออกเป็นสามส่วน : นั่นคือ ร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ หรืออาจเรียกว่าอีกอย่างได้ว่า จิตใต้สำนึก จิตสำนึก และ จิตเหนือสำนึก
𝗡 : 𝗢𝗵, 𝘀𝗼 𝘁𝗵𝗮𝘁'𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗼𝗿𝗿𝗲𝗹𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻.
N : โอ้ นั่นคือ ความสัมพันธ์กันของทั้ง 3 สิ่งสินะครับ
𝗚 : "𝗟𝗼𝗼𝘀𝗲𝗹𝘆, 𝘆𝗲𝘀. 𝗕𝗿𝗼𝗮𝗱𝗹𝘆, 𝘆𝗲𝘀. 𝗜𝘁'𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗮𝗻 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁, 𝗺𝗶𝗻𝘂𝘁𝗲𝗹𝘆 𝗽𝗿𝗲𝗰𝗶𝘀𝗲 𝗰𝗼𝗿𝗿𝗲𝗹𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻, 𝗯𝘂𝘁 𝗶𝘁 𝗽𝗮𝗶𝗻𝘁𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗶𝗰𝘁𝘂𝗿𝗲 𝗶𝗻 𝗯𝗿𝗼𝗮𝗱 𝘀𝘁𝗿𝗼𝗸𝗲𝘀.
G : อย่างคร่าวๆก็ใช่ อย่างกว้างก็ถือว่ายังใช่ แต่มันก็ไม่ได้ตรงตามนั้นแบบเป๊ะๆหรอกนะ คำอธิบายของฉันแค่วาดภาพให้เธอเห็นแบบกว้างๆ
"𝗜𝗻 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗵𝗼𝗹𝘆 𝘁𝗿𝗶𝗻𝗶𝘁𝘆--𝗚𝗼𝗱 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗿𝗲𝗲 𝗽𝗮𝗿𝘁𝘀--𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗺𝗶𝗻𝗱 𝗶𝘀 𝘄𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗮𝗰𝘁𝗶𝘃𝗶𝘁𝘆 𝘁𝗮𝗸𝗲𝘀 𝗽𝗹𝗮𝗰𝗲.
ในตรีเอกานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์นี้ —สามภาคส่วนของพระเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์นี้—จิตใจของเธอเป็นที่ที่กิจกรรมของจิตสำนึก (หรือการรับรู้ในสิ่งต่างๆของจิตสำนึก) เกิดขึ้น
"𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲, 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗸 𝗼𝗻𝗹𝘆 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲 𝘁𝗼 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲, 𝘀𝗮𝘆 𝗼𝗻𝗹𝘆 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲 𝘁𝗼 𝗺𝗮𝗸𝗲 𝗿𝗲𝗮𝗹, 𝗮𝗻𝗱 𝘂𝘀𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗺𝗶𝗻𝗱 𝘁𝗼 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗹𝘆 𝗶𝗻𝘀𝘁𝗿𝘂𝗰𝘁 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗯𝗼𝗱𝘆 𝘁𝗼 𝗱𝗼 𝗼𝗻𝗹𝘆 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲 𝘁𝗼 𝗱𝗲𝗺𝗼𝗻𝘀𝘁𝗿𝗮𝘁𝗲 𝗮𝘀 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗵𝗶𝗴𝗵𝗲𝘀𝘁 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆. 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗶𝘀 𝗵𝗼𝘄 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹.
ดังนั้น จงคิดเฉพาะในสิ่งที่เธอเลือกจะมีประสบการณ์ จงพูดเฉพาะสิ่งที่เธอเลือกจะทำให้เป็นจริง และจงใช้จิตใจสั่งร่างกายอย่างมีสติให้ทำเฉพาะสิ่งที่เธอเลือกจะแสดงให้เห็นว่าเป็นความจริงสูงสุดของเธอเท่านั้น นี่คือวิธีที่เธอใช้ในการสร้างสรรค์ในระดับของจิตสำนึก
"𝗟𝗼𝗼𝗸 𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗰𝗹𝗼𝘀𝗲𝗹𝘆. 𝗜𝘀 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗲𝘃𝗲𝗿𝘆 𝗺𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿 𝗵𝗮𝘀 𝗱𝗼𝗻𝗲? 𝗛𝗮𝘀 𝗮𝗻𝘆 𝗺𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿 𝗱𝗼𝗻𝗲 𝗺𝗼𝗿𝗲? 𝗡𝗼. 𝗜𝗻 𝗮 𝘄𝗼𝗿𝗱, 𝗻𝗼."
ลองพิจารณาถึงเรื่องนี้ดูให้ดี มองเรื่องที่ฉันบอกนี้ให้ละเอียด นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุรุทุกคนทำหรอกหรือ❓ และมีคุรุคนใดทำอะไรที่มากไปกว่านี้อีกไหม❓ ไม่ ฉันพูดได้คำเดียวว่า ไม่มี
(((จบบทที่ 9)))
หนังสือ
จิตวิญญาณ
บันทึก
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
HOME WITH GOD
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย