6 พ.ค. 2023 เวลา 00:22 • ปรัชญา

Great Reset Age: "Be Yourself and Create better living"

#4/2023(Episode 3/3)
โลกหลังยุค Great Reset Age เปลี่ยนผ่านสู่ยุคชาววิไล Human Plus Age คนจะเกิดมาพบแต่มนุษย์ผู้มีศีล
แม้ว่าแรกเกิดมาคนยังไม่มีศีล เมื่อเกิดมาพบแต่มนุษย์ผู้ทรงพลังศีลและใช้แต่เครื่องมือที่สร้างสรรค์เป็น Generative AI ได้ซึมซับพลังศีลและฝึกทักษะการใช้แต่เครื่องมือ AI จึงเติบโตขึ้นเป็น“ Cyborg:ไซบอร์ก”คือคนผู้ทรงศีลและมีพลังทักษะการใช้เครื่องมือ AI
คนในจินตนาการของ Elon Musk โดยโครงการ Neuralink เป็นคนที่สามารถใช้พลังความคิดติดต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ และหุ่นยนต์ สามารถแลกเปลี่ยนความรู้กับหุ่นยนต์ได้ราวกับเป็นเพื่อนสนิท Best friend ไม่ว่าคนจะคิดอยากรู้เรื่องอะไร หุ่นยนต์ก็จะสรรหามาให้ คงจะคล้ายกับการตั้งโจทย์ถาม ChatGPT
คนเรามีสองกาย คือ กาย "รูป" Physical Body และ กาย "นาม" Astral Body โดยกายนามจะมีพลัง เช่นพลังความคิดนั้น กายนามต้องตั้งอยู่บนกายรูปที่สมบูรณ์ ไม่เจ็บป่วย
กายนาม
เช่น ความคิดคือพลังจิตตานุภาพ 3 รูปแบบ
1. Concentration หรือ สมาธิ
2. Visualization หรือ อุคคหนมิตต์(นิมิตต์ติดตาใจ)
3. Will Power หรือ มโนมยิทธิ(อธิษฐาน)
คงเป็นเหมือนในสมัยพุทธกาล ทุกเช้าตรู่ พุทธะ จะเข้า ฌาน สมาธิ เกิด อุคคหนิมิต เห็นภาพติดตาใจ ชัดเจน แล้วใช้ความคิดอธิษฐาน มโนมยิทธิ สอดส่องไปตามบริเวณใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบว่าเช้านี้ควรจะไปโปรดใคร เช่น ไปโปรดองคุลิมาล เป็นต้น
ในทำนองเดียวกัน พระอริยสงฆ์ ก็สามารถเข้าฌานสมาธิ เช่น การเพ่งกสิณ ด้วยสมาธิอย่างสูงสุด เมื่อเห็นภาพกสิณชัดเจน ติดตาใจ แล้ว ก็สามารถอธิษฐานจิตให้ภาพติดตาใจเปลี่ยนไปเป็นภาพตามที่จิตอธิษฐานเพื่อจะได้รู้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สอนเรื่องการเพ่งกสิณว่า
ไม่ใช่การเพ่ง แต่เป็นการมองเพื่อจำภาพ แล้วหลับตาเพื่อนึกถึงภาพที่จำไว้ ถ้านึกได้ภาพไม่ครบก็ลืมตามองแล้วหลับตานึกใหม่จนเกิดภาพติดตาใจ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สอนเรื่องการเพ่งกสิณว่า ไม่ใช่การเพ่ง แต่เป็นการมองเพื่อจำภาพ แล้วหลับตาเพื่อนึกถึงภาพที่จำไว้ ถ้านึกได้ภาพไม่ครบก็ลืมตามองแล้วหลับตานึกใหม่จนเกิดภาพติดตาใจ
หลักการเพ่งกสิณ
จะต้องทำให้เกิดนิมิตต์ 2 อย่าง คือ
1. อุคคหนิมิตต์ (นิมิตต์ติดตาใจ)
2. ปฏิถาคนิมิตต์ (นิมิตต์เทียบเคียงโดยย่อหรือขยายภาพติดตาใจได้)
แล้วจะเกิดสมาธิตามความมุ่งหวังที่รู้ได้ด้วยตาใจ 2 ประการ คือ
2.1 อุปจารสมาธิ (สมาธิอย่างต่ำสุด) แปรปรวนง่าย ต้องใช้ความพยายามรั้งใจไว้ให้แน่นแนบอยู่กับวงกสิณ
ขณะอยู่ในอุปจารสมาธิ
เมื่อเห็นภาพกสิณชัดเจน ติดตาใจ แล้ว สามารถอธิษฐานจิตให้ตาใจเห็นทั้งภาพและเสียงที่เป็นทิพเป็นภาพตามที่จิตอธิษฐานอยากจะได้รู้
แต่ถ้าเกิด อุปาทาน คือเห็นภาพลอยมาแบบไม่ได้นึก แสดงว่าหลงทางซึ่งทำให้หลายคนเพี้ยนไปได้ เช่น อาจเห็นมนุษย์ต่างดาว ก็เป็นได้
2.2 อัปปนาสมาธิ (สมาธิอย่างสูงสุด) มีความมั่นคงแนบแน่น ซึ่งเกิดขึ้นได้กับผู้ปฏิบัติเหตุ 11 ประการเป็นพื้นฐาน และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็มีวิธีที่จะรักษาสมาธิอย่างสูงสุดที่เกิดขึ้นแล้วไว้ 7 ข้อ
เหตุ 11 ข้อที่เอื้อให้เกิดสมาธิ
1. ต้องมีดวงจิตกล้าแข็ง
2. ต้องเป็นผู้ฉลาดรู้นิมิตต์ทั้งสอง คืออุคคหนิมิตต์และปฏิถาคนิมิตต์ ว่ามีลักษณะอย่างไร ต้องปฏิบัติต่อนิมิตต์ทั้งสองอย่างไร
3. ต้องเป็นผู้ประมวลอินทรีย์คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เท่ากัน ประมาณว่ารู้ตัวทั่วพร้อม
4. ต้องข่มจิตได้ในสมัยที่ควรจะข่ม ต้องปลอบในสมัยที่ควรปลอบ
5. ต้องประคองดวงจิตไว้ให้ดี
6. ยกระดับดวงจิตซึ่งหมดความสดชื่นให้สดชื่น
7. ต้องเป็นผู้วางเฉยต่อ ภาวนาจิตซึ่งดำเนินไปโดยดีแล้ว
8. ต้องเว้นเสียต่อผู้ไม่ตั้งใจมั่น
9. ต้องคบกับคนผู้มีความตั้งใจมั่น
10. เข้าไปเพ่งพิจารณาฌาณและวิโมกข์
11. มีอัธยาศัยน้อมไปในด้านดี
วิธีที่จะรักษาสมาธิอย่างสูงสุดไว้ มี 7 ข้อ
1. ต้องหาที่อยู่ที่ใจเราเกิดความสบาย
2. ต้องมีโคจรเป็นที่สบาย อย่าเดินตากแดดให้แสงแดดส่องตา
3. ต้องพูดและฟังถ้อยคำที่ไพเราะเสนาะหู
4. คบแต่คนดี อย่าคบคนชั่ว
5. ต้องรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อย่ารับประทานอาหารที่เป็นโทษ และต้องอยู่ในบริเวณอากาศร้อนหรือหนาวตามแต่ที่เราชอบ
6. คบแต่คนที่มีลักษณะเข้มแข็งมีหัวใจมั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน
7. อยู่ในอิริยาบถที่ทำความสบายให้ คือชอบนั่งหรือชอบยืน ก็ให้ปฏิบัติตามชอบ และอย่าเป็นคนเกียจคร้านเป็นอันขาด
โลกหลังยุค Great Reset Age เปลี่ยนผ่านสู่ยุคชาววิไล Human Plus Age
และคนเกิดมาเป็น“ไซบอร์ก”คือคนผู้ทรงศีลและมีพลังทักษะการใช้เครื่องมือ AI
คนทำ“งาน” (Work)ในโลกหลัง Great Reset โดยมีเครื่องมือที่เป็น Generative AI เพื่อใช้ทำงานที่มีลักษณะงานต่างจากงานในยุคปัจจุบัน 2 ด้าน คือ
ด้านหนึ่ง "งานแบบที่ไม่ต้องมีคน"
เกิดผลกระทบจากการพัฒนาของ AI ทำให้เราต้องจินตนาการโลกของงานแบบที่ไม่ต้องมีคน
ส่วนอีกด้าน "คนที่ไม่ได้มีแต่เรื่องงาน"
ผลกระทบจากการลาออกครั้งยิ่งใหญ่ (Great Resignation & Quiet Quitting) ทำให้ต้องคิดถึงโลกของคนที่ไม่ได้มีแต่เรื่องงาน
ในช่วงเวลา Great Reset ผู้เชี่ยวชาญหลายคนดูจะเห็นตรงกันว่าอนาคตไม่ใช่หุ่นยนต์มาแทนคน แต่เป็น “ไซบอร์ก” ที่อาจจะมาแทนที่คนทำงานปกติ
"เป็นเหมือนเครื่องคิดเลขไม่ได้มาแทนที่คนแต่ทำให้คนที่ใช้เครื่องคิดเลขคล่องมาแทนที่คนที่ใช้ไม่เป็น"
การที่คนต้องร่วมมือกับเอไอไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ที่ใหม่คือการดีไซน์รูปแบบของการทำงานร่วมกันระหว่างคนกับหุ่นยนต์อาจต้องเปลี่ยนแปลงอีกมากเพราะการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเอไอในช่วงที่ผ่านมา
Elon Musk โดย โครงการ Neuralink ออกแบบรูปแบบของการทำงานร่วมกันระหว่างคนกับหุ่นยนต์โดยติดต่อกันด้วยความคิด
เป็นลักษณะ“แยกหน้าที่” กันทำ มากกว่า “แย่งอาชีพ” (Tasks vs Jobs) ทำให้การถกเถียงกันต้องขยับจากการคิดว่า “อาชีพ”ใดจะถูกแทนที่โดยเอไอมาเป็น “หน้าที่”อะไรที่เอไอทำได้ อันไหนที่มนุษย์ควรทำ เช่น อาชีพนักเขียนอาจไม่ได้หายไปแต่ หน้าที่การร่างโครงบทความ draft แรก การรวบรวมข้อมูล การหาภาพประกอบ อาจไม่ต้องทำโดยมนุษย์อีกต่อไป
เราจึงต้องจินตนาการแต่ละอาชีพที่เรารู้จักใหม่ (Reimagine) โดยมีนักวิชาการให้ความเห็นว่า
บางหน้าที่อาจให้เอไอทำแทนมนุษย์ไปเลย เช่น งานที่ซ้ำซาก งานที่ไม่ต้องใช้สัมผัสมนุษย์มากนัก และงานที่หากผิดพลาดไม่ส่งผลรุนแรงเกินไป (เพราะเอไออาจจะทำถูก 95% แต่ อีก 5%ที่ผิดอาจถึงชีวิต)
บางหน้าที่หากผิดพลาดแล้วเป็นเรื่องใหญ่หรือการเข้าใจบริบทเป็นสิ่งสำคัญให้เอไอทำก่อนแล้วมนุษย์คอยคุมหรือปรับเอาไปใช้ต่อ (เช่น ร่างบทความ ทำคอนเทนท์ ฯลฯ)
บางงานที่ต้องใช้สัมผัสมนุษย์สูงให้คนทำออกหน้าไปแล้วเอไอคอยเช็ค แนะนำวิธีพัฒนาคุณภาพ (เช่น งานคอลเซ็นเตอร์บางอย่าง)
บางหน้าที่อาจเกิดขึ้นมาใหม่ในยุคเอไอ เช่น Prompt Engineer ที่มีหน้าที่ดีไซน์การป้อนคำถาม/คำสั่งให้เอไอเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการประมวลข้อมูลสูงที่สุดและได้คำตอบที่ต้องการ เพราะในหัวข้อเดียวกันหากถามหรือป้อนคำสั่งคนละวิธีก็ได้ผลไม่เหมือนกัน ในแง่นี้เอไออาจมีความคล้ายเด็กที่ฉลาดแต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองรู้อะไร ต้องคอยมีผู้ใหญ่คอยช่วยดึงความสามารถออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่
นักวิชาการดีไซน์กระบวนการทำงานใหม่นี้
ยังต้องมีการลองถูกลองผิดอีกมากไม่ต่างกับสมัยที่การมาของไฟฟ้าทำให้รูปแบบการทำงานโรงงานเปลี่ยนใหม่หมด
เดิมทีผู้เชี่ยวชาญมองว่าความสร้างสรรค์คือสิ่งที่เอไอทำแทนคนไม่ได้ แต่ในยุคของ Generative AI เอไอสามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้ Creativity ได้สารพัดอย่าง งาน Creativity อาจไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยของมนุษย์อีกต่อไป
Long Break for ELECTION
สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจ ไปเลือกตั้ง
โฆษณา