15 พ.ค. 2023 เวลา 06:20 • หนังสือ

#24 HWG. — บทที่ 1️⃣5️⃣ (ส่วนที่ 1)

แม้หลังความตาย เธอก็เป็นคนสร้างความเป็นจริงของเธอขึ้นมาเองไม่ต่างไปจากตอนที่ยังมีชีวิต
▪️ผู้แปล : แอดมิน
🔸นี่เป็นงานแปลชิ้นที่ 2 ที่ผมตั้งใจแปลมากๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
𝗗𝗲𝗮𝘁𝗵 𝗶𝘀 𝗶𝗻𝘁𝗿𝗶𝗴𝘂𝗶𝗻𝗴. 𝗜𝘁 𝗶𝘀 𝗲𝘅𝗰𝗶𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗮𝗻𝗱 𝗶𝗻𝘁𝗿𝗶𝗴𝘂𝗶𝗻𝗴 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗼𝘁𝗮𝗹𝗹𝘆 𝘄𝗼𝗻𝗱𝗲𝗿𝗳𝘂𝗹.
“กระบวนการของความตายเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ มันน่าตื่นเต้น น่าทึ่ง และมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง”
𝗖𝗵𝗮𝗽𝘁𝗲𝗿 𝟭𝟱
บทที่ 1️⃣5️⃣
𝗡𝗲𝗮𝗹𝗲: 𝗜 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗯𝗲𝗲𝗻 𝗵𝗲𝗮𝗿𝗶𝗻𝗴 𝗳𝗼𝗿 𝗮 𝘃𝗲𝗿𝘆 𝗹𝗼𝗻𝗴 𝘁𝗶𝗺𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗺𝘆 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝗳𝘀 𝗮𝗳𝗳𝗲𝗰𝘁 𝗺𝘆 𝗹𝗶𝗳𝗲. 𝗜 𝗴𝘂𝗲𝘀𝘀 𝗜 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝘁𝗵𝗼𝘂𝗴𝗵𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗼𝗺𝗲 𝘀𝗼𝗿𝘁 𝗼𝗳 𝗱𝗶𝗳𝗳𝗲𝗿𝗲𝗻𝘁 𝗿𝘂𝗹𝗲𝘀 𝗮𝗽𝗽𝗹𝗶𝗲𝘀 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵. 𝗜'𝗺 𝗮 𝗹𝗶𝘁𝘁𝗹𝗲 𝘀𝘂𝗿𝗽𝗿𝗶𝘀𝗲𝗱 𝘁𝗼 𝗵𝗲𝗮𝗿 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗲𝘃𝗲𝗻 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵, 𝗜'𝗺 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗺𝘆 𝗼𝘄𝗻 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆.
N : ผมเคยได้ยินมานานแล้วครับว่าความเชื่อของผมจะส่งผลต่อชีวิตของผม และผมคาดคะเนว่ามันคงมีกฎที่ต่างไปบางอย่างถูกบังคับใช้หลังความตายเท่านั้น ดังนั้นผมจึงแปลกใจนิดหน่อยที่ได้ยินว่า แม้หลังความตาย ผมก็เป็นคนสร้างความเป็นจริงของตนขึ้นมาเองไม่ต่างไปจากตอนที่ยังมีชีวิต
𝗚𝗼𝗱 : "𝗧𝗵𝗲𝗻 𝗜'𝗺 𝗴𝗹𝗮𝗱 𝘄𝗲'𝗿𝗲 𝗵𝗮𝘃𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗰𝗼𝗻𝘃𝗲𝗿𝘀𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻."
G : ถ้าอย่างนั้นฉันก็ดีใจที่เรากำลังจะได้คุยถึงเรื่องนี้กัน
𝗡 : 𝗪𝗮𝗶𝘁 𝗮 𝗺𝗶𝗻𝘂𝘁𝗲. 𝗪𝗵𝗮𝘁 𝗱𝗼𝗲𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗮𝘆 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝗺𝘆 𝗳𝗮𝘁𝗵𝗲𝗿? 𝗠𝘆 𝗳𝗮𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝘃𝗲𝗱 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗻𝗼𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻𝘀 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵. 𝗔𝗯𝘀𝗼𝗹𝘂𝘁𝗲𝗹𝘆 𝗻𝗼𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴.
N : เดี๋ยวก่อนนะครับ แล้วพ่อของผมล่ะ❓ เพราะพ่อของผมมีความเชื่อว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังความตาย แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยจริงๆ เป็นเพียงแค่การกลับสู่ความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
𝗚 : "𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝗱𝗶𝗲 𝗶𝗻 𝗮 𝗽𝗹𝗮𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝗰𝗲𝗿𝘁𝗮𝗶𝗻𝘁𝘆 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗡𝗢 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵, 𝗼𝗻𝗰𝗲 𝘆𝗼𝘂 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗶𝘇𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗱𝗶𝗲𝗱 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗺𝗼𝘃𝗲 𝗶𝗺𝗺𝗲𝗱𝗶𝗮𝘁𝗲𝗹𝘆 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲 𝘁𝘄𝗼, 𝘄𝗵𝗶𝗰𝗵 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼 𝗹𝗶𝗳𝗲."
G : หากเธอตายในสภาวะที่มีความเชื่อว่า “ไม่มีชีวิตหลังความตาย” เมื่อเธอระลึกหรือรู้ตัวว่าเธอตายแล้ว เธอจะเข้าสู่ระยะที่สองในทันที ที่ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ของ “การไม่มีชีวิต”
𝗡 : 𝗛𝗼𝘄 𝗰𝗮𝗻 𝗜 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 '𝗻𝗼 𝗹𝗶𝗳𝗲"?
N : แล้วผมจะมีประสบการณ์ถึง “การไม่มีชีวิต” ได้ยังไงครับ❓
𝗚 : "𝗬𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗻𝗼𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗮𝘁 𝗮𝗹𝗹. 𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘀𝗶𝗺𝗽𝗹𝘆 𝗯𝗲 𝗻𝗼 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲. 𝗧𝗵𝗶𝗻𝗴𝘀 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘀𝘁𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝗴𝗼𝗶𝗻𝗴 𝗼𝗻, 𝗯𝘂𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗻𝗼𝘁 𝗯𝗲 𝗮𝗯𝗹𝗲 𝘁𝗼 𝗽𝗲𝗿𝗰𝗲𝗶𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗲𝗺.
G : เธอจะมีประสบการณ์ถึงความไม่มีอะไรเลย พูดง่ายๆก็คือ เธอจะไม่ได้รับประสบการณ์อะไรเลย แต่สิ่งต่างๆก็ยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่เธอไม่สามารถรับรู้ถึงมันได้
"𝗜𝘁 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆 𝗮𝘀 𝗶𝘁 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗯𝗲 𝗻𝗼𝘄 𝗶𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗲𝗿𝗲 𝘀𝗹𝗲𝗲𝗽𝗶𝗻𝗴 𝘄𝗵𝗶𝗹𝗲 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴𝘀 𝘄𝗲𝗿𝗲 𝗴𝗼𝗶𝗻𝗴 𝗼𝗻 𝗮𝗹𝗹 𝗮𝗿𝗼𝘂𝗻𝗱 𝘆𝗼𝘂."
มันจะเป็นเหมือนกับถ้าเธอกำลังนอนหลับอยู่ในตอนนี้ แต่สิ่งต่างๆก็กำลังเกิดขึ้น (กำลังดำเนินไปตามวิถีของมัน) อยู่รอบๆตัวของเธออยู่ดี
𝗡 : 𝗦𝗼 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗻𝗼 𝗵𝗼𝗽𝗲? 𝗠𝘆 𝗳𝗮𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗱𝗶𝗲𝗱 𝗮𝗯𝘀𝗼𝗹𝘂𝘁𝗲𝗹𝘆 𝗰𝗲𝗿𝘁𝗮𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘄𝗮𝘀 𝗻𝗼𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴, 𝗻𝗼 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝗳 𝗼𝗳 𝗮𝗻𝘆 𝗸𝗶𝗻𝗱, 𝗻𝗼 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘄𝗵𝗮𝘁𝘀𝗼𝗲𝘃𝗲𝗿, 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵...𝘀𝗼...𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲'𝘀 𝗻𝗼 𝗵𝗼𝗽𝗲 𝗳𝗼𝗿 𝗵𝗶𝗺...
N : พ่อผมไม่มีหวังเลยเหรอครับ❓ เพราะพ่อของผมตายอย่างมั่นใจว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหลังความตาย ความเชื่อใดๆที่เกี่ยวกับชีวิตหลังความตายนั้นไม่จริง มันจะไม่มีประสบการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นหลังจากการตาย...ดังนั้น พ่อผมก็คงหมดหวังแล้ว คงช่วยไม่ได้แล้ว
𝗚 : "𝗔𝗴𝗮𝗶𝗻, 𝘄𝗵𝗲𝗻 𝘆𝗼𝘂 𝗱𝗶𝗲 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗽𝗹𝗮𝗰𝗲 𝗶𝘁 𝗶𝘀 𝗹𝗶𝗸𝗲 𝗳𝗮𝗹𝗹𝗶𝗻𝗴 𝗮𝘀𝗹𝗲𝗲𝗽. 𝗜𝗻 𝗼𝗿𝗱𝗲𝗿 𝘁𝗼 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘀𝗼𝗺𝗲𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗲𝗹𝘀𝗲, 𝘆𝗼𝘂 𝘀𝗶𝗺𝗽𝗹𝘆 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝘁𝗼 𝘄𝗮𝗸𝗲 𝘂𝗽."
G : ในขณะที่เธอตายในสภาวะที่มีความเชื่อว่าความตายก็คล้ายกับการที่เธอผล็อยหลับไป (จมลงสู่ความมืดมิดและความไม่มีอะไรเลย) เพื่อที่เธอจะได้มีประสบการณ์ถึงอะไรสักอย่างขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็แค่ต้องตื่นขึ้นมาเท่านั้นเอง
𝗡 : 𝗛𝗼𝘄 𝗰𝗮𝗻 𝗵𝗲 𝘄𝗮𝗸𝗲 𝘂𝗽?
N : แล้วพ่อผมจะตื่นขึ้นมาได้ยังไงครับ❓
𝗚 : "𝗧𝗵𝗲 𝗴𝗼𝗼𝗱 𝗻𝗲𝘄𝘀 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗲𝘃𝗲𝗿𝘆𝗯𝗼𝗱𝘆 𝘄𝗮𝗸𝗲𝘀 𝘂𝗽. 𝗝𝘂𝘀𝘁 𝗮𝘀 𝗶𝗻 𝗲𝗮𝗿𝘁𝗵𝗹𝘆 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗻𝗼𝘁 𝘀𝘁𝗮𝘆 𝘀𝗹𝗲𝗲𝗽𝗶𝗻𝗴 𝗳𝗼𝗿𝗲𝘃𝗲𝗿, 𝘀𝗼, 𝘁𝗼𝗼, 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘆𝗼𝘂 𝗻𝗼𝘁 𝗿𝗲𝗺𝗮𝗶𝗻 𝗶𝗻 𝗼𝗯𝗹𝗶𝘃𝗶𝗼𝘂𝘀 𝘀𝗹𝘂𝗺𝗯𝗲𝗿 𝗳𝗼𝗿𝗲𝘃𝗲𝗿 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗔𝗳𝘁𝗲𝗿𝗹𝗶𝗳𝗲. 𝗧𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗹𝗮𝗻.
G : ข่าวดีก็คือทุกคนจะตื่นขึ้นมาอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับชีวิตของเธอบนโลกใบนี้ ที่เธอก็ไม่ได้หลับอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น มันก็เป็นเช่นเดียวกัน ที่เธอจะไม่คงอยู่ในสภาวะหลงลืมและหลับไหลตลอดไปในชีวิตหลังความตาย ซึ่งนั่นไม่ใช่แผนการ (ทางจิตวิญญาณของเธอ)
"𝗧𝗵𝗲 𝘀𝗼𝘂𝗹 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗮𝘄𝗮𝗸𝗲𝗻 𝘁𝗵𝗿𝗼𝘂𝗴𝗵 𝘁𝗵𝗲 𝗺𝗶𝗻𝗶𝘀𝘁𝗿𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀 𝗼𝗳 𝗹𝗼𝘃𝗲𝗱 𝗼𝗻𝗲𝘀 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝗻𝗴𝗲𝗹𝘀. 𝗧𝗵𝗲𝗻 𝗶𝘁 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘄𝗼𝗻𝗱𝗲𝗿 𝘄𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘁 𝗶𝘀, 𝘄𝗵𝘆 𝗻𝗼𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗶𝘀 𝗴𝗼𝗶𝗻𝗴 𝗼𝗻, 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗵𝗮𝘀 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻𝗲𝗱.
𝗜𝘁 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲𝗴𝗶𝗻 𝘁𝗼 𝗽𝘂𝘁 𝘁𝘄𝗼 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝘄𝗼 𝘁𝗼𝗴𝗲𝘁𝗵𝗲𝗿, 𝗮𝗻𝗱 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗺𝗼𝗺𝗲𝗻𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗼𝘂𝗹 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗺𝗼𝘃𝗲 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝗮 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗮𝘄𝗮𝗿𝗲𝗻𝗲𝘀𝘀 𝗼𝗳 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲 𝘁𝘄𝗼 𝗼𝗳 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵."
วิญญาณจะตื่นขึ้นผ่านการช่วยเหลือของบุคคลอันเป็นที่รักและเหล่าทูตสวรรค์ หลังจากตื่นขึ้น วิญญาณก็จะสงสัยว่าที่นี่คือที่ไหน ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยล่ะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จากนั้นไม่นานวิญญาณจะเริ่มปะติดปะต่อทุกอย่างเข้าด้วยได้ และเข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น และในห้วงขณะแห่งความเข้าใจนั้นเองวิญญาณจะเข้าสู่การตระหนักรู้อย่างมีสติในระยะที่สองของความตายในทันที
𝗡 : 𝗪𝗵𝗮𝘁 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗯𝗲 𝗹𝗶𝗸𝗲? 𝗪𝗵𝗮𝘁 𝗱𝗶𝗱 𝗗𝗮𝗱 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲?
N : แล้วมันจะเป็นยังไงครับ❓ พ่อผมจะได้รับประสบการณ์แบบไหนครับ❓
𝗚 : "𝗪𝗵𝗮𝘁 𝗵𝗲 𝗰𝗵𝗼𝘀𝗲 𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲𝗻 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲."
G : เขาจะได้ประสบกับสิ่งที่เขาเลือกที่จะมีประสบการณ์ในตอนนั้น
𝗡 : 𝗔𝗻𝘆𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗵𝗲 𝘄𝗶𝘀𝗵𝗲𝗱 𝘁𝗼 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲? 𝗔𝗻𝘆𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗮𝘁 𝗮𝗹𝗹?
N : ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตามที่เขาปรารถนาที่จะสร้างงั้นหรือครับ❓ จะเป็นอะไรก็สร้างขึ้นมาได้หมดเลยหรือครับ❓
𝗚 : "𝗔𝗯𝘀𝗼𝗹𝘂𝘁𝗲𝗹𝘆. 𝗕𝘂𝘁 𝗶𝗳 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗰𝗼𝗻𝗳𝘂𝘀𝗶𝗼𝗻, 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗰𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗯𝗲 𝗮 𝗯𝗶𝘁 𝗰𝗼𝗻𝗳𝘂𝘀𝗶𝗻𝗴. 𝗦𝗼𝗿𝘁 𝗼𝗳 𝗮 𝗺𝗶𝘀𝗵𝗺𝗮𝘀𝗵 𝗼𝗳 𝗾𝘂𝗶𝗰𝗸𝗹𝘆 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲𝗱 𝘀𝗰𝗲𝗻𝗮𝗿𝗶𝗼𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗺𝗮𝘆 𝗼𝗿 𝗺𝗮𝘆 𝗻𝗼𝘁 𝗺𝗮𝗸𝗲 𝘀𝗲𝗻𝘀𝗲."
G : แน่นอน แต่ถ้าเขาเกิดความสับสน ประสบการณ์ที่เขาได้รับอาจจะดูสับสนเล็กน้อย ประมาณว่าสถานการณ์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วให้เขาได้ประสบนั้นอาจดูสมเหตุสมผลหรือไม่ก็ได้
𝗡 : 𝗧𝗵𝗮𝘁 𝗱𝗼𝗲𝘀𝗻'𝘁 𝘀𝗼𝘂𝗻𝗱 𝘃𝗲𝗿𝘆 𝗲𝘅𝗰𝗶𝘁𝗶𝗻𝗴.
N : นั่นฟังดูไม่ค่อยน่าตื่นเต้นสักเท่าไหร่แล้วนะครับ
𝗚 : "𝗗𝗼𝗻'𝘁 𝘄𝗼𝗿𝗿𝘆. 𝗜𝘁'𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗮 '𝗯𝗮𝗱' 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴. 𝗜𝘁'𝘀 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝗴𝗲𝘁𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗿𝗲𝗼𝗿𝗶𝗲𝗻𝘁𝗲𝗱. 𝗜𝘁'𝘀 𝗹𝗶𝗸𝗲 𝗾𝘂𝗶𝗰𝗸𝗹𝘆 𝗳𝗹𝗶𝗽𝗽𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗿𝗼𝘂𝗴𝗵 𝗮𝗹𝗹 𝘁𝗵𝗲 𝗧𝗩 𝗰𝗵𝗮𝗻𝗻𝗲𝗹𝘀 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝗮 𝗿𝗲𝗺𝗼𝘁𝗲. 𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲'𝘀 𝗻𝗼𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗵𝗮𝗿𝗺𝗳𝘂𝗹 𝗴𝗼𝗶𝗻𝗴 𝗼𝗻. 𝗬𝗼𝘂 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝘁𝗼 𝗱𝗲𝗰𝗶𝗱𝗲 𝘄𝗵𝗶𝗰𝗵 '𝗰𝗵𝗮𝗻𝗻𝗲𝗹 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗮𝗻𝘁 𝘁𝗼 𝘄𝗮𝘁𝗰𝗵.
G : ไม่ต้องกังวลไป เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ “แย่” มันเป็นเพียงแค่การปรับทิศทางเท่านั้น (ว่าจะไปทางไหนดี) ก็เหมือนกับการกดเปลี่ยนช่องทีวีทั้งหมดอย่างรวดเร็วด้วยรีโมทคอนโทรล ไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายเกิดขึ้น เธอเพียงแค่ต้องตัดสินใจว่าเธอต้องการที่จะดู “ช่อง” ไหนเท่านั้นเอง
"𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝘀𝘁𝗮𝗿𝘁 𝘁𝗼 𝗳𝗲𝗲𝗹 𝗮 𝗹𝗶𝘁𝘁𝗹𝗲 𝗼𝘃𝗲𝗿𝘄𝗵𝗲𝗹𝗺𝗲𝗱 𝗮𝗻𝗱 𝗯𝗲𝗴𝗶𝗻 𝘄𝗶𝘀𝗵𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝗱 𝘀𝗼𝗺𝗲 𝗵𝗲𝗹𝗽, 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗶𝗺𝗺𝗲𝗱𝗶𝗮𝘁𝗲𝗹𝘆 𝗯𝗲𝗰𝗼𝗺𝗲 𝗮𝘄𝗮𝗿𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗼𝘀𝗲 𝗹𝗼𝘃𝗲𝗱 𝗼𝗻𝗲𝘀 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝗻𝗴𝗲𝗹𝘀 𝗮𝗻𝗱 𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘀 𝘄𝗵𝗼 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗯𝗲𝗲𝗻 𝗵𝗼𝘃𝗲𝗿𝗶𝗻𝗴 𝗮𝗿𝗼𝘂𝗻𝗱 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗻𝗱 𝗺𝗶𝗻𝗶𝘀𝘁𝗲𝗿𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗼 𝘆𝗼𝘂, 𝘄𝗮𝗶𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗳𝗼𝗿 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗼 𝗻𝗼𝘁𝗶𝗰𝗲 𝘁𝗵𝗲𝘆 𝗮𝗿𝗲 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲.
หากเธอเริ่มรู้สึกหนักใจเล็กน้อย (ไม่รู้จะเลือกอะไรดี) และเริ่มปรารถนาให้ตนเองได้รับความช่วยเหลือบ้าง เธอจะตระหนักได้ในทันทีถึงบุคคลอันเป็นที่รัก เหล่าทูตสวรรค์ และเหล่าจิตวิญญาณที่รายล้อมอยู่รอบตัวเธอและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเธอ พวกเขารอให้เธอสังเกตเห็นว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว
"𝗜𝗻 𝗮𝗻𝘆 𝗲𝘃𝗲𝗻𝘁, 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘀𝗼𝗼𝗻 𝘀𝗲𝘁𝘁𝗹𝗲 𝗼𝗻 𝗮 𝗽𝗶𝗰𝘁𝘂𝗿𝗲, 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝘁𝗵𝗲 𝘁𝗵𝗼𝘂𝘀𝗮𝗻𝗱𝘀 𝗼𝗳 𝗽𝗶𝗰𝘁𝘂𝗿𝗲𝘀 𝗶𝗻 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗺𝗶𝗻𝗱, 𝗮𝗻𝗱 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘀𝘁𝗮𝗿𝘁 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲.
ไม่ว่าในกรณีใด ในไม่ช้าเธอก็จะเลือกรูปภาพจากรูปภาพนับพันในห้วงความคิดหรือจิตใจของเธอได้ และเธอจะเริ่มสร้างสิ่งที่ตนจะได้ประสบต่อไปจากจุดนั้น
"𝗕𝘂𝘁 𝗻𝗼𝘄 𝗶𝘁 𝗶𝘀 𝗶𝗺𝗽𝗼𝗿𝘁𝗮𝗻𝘁 𝗳𝗼𝗿 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗼 𝘂𝗻𝗱𝗲𝗿𝘀𝘁𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗻𝗼𝗻𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗰𝗲𝗻𝗮𝗿𝗶𝗼𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝗹𝗮𝗶𝗱 𝗼𝘂𝘁 𝗳𝗼𝗿 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗮𝗻𝘆𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗼 𝗱𝗼 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝗨𝗹𝘁𝗶𝗺𝗮𝘁𝗲 𝗥𝗲𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆. 𝗧𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲𝗱 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘁𝗵𝗶𝗿𝗱 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲.
𝗧𝗵𝗲 𝘀𝗰𝗲𝗻𝗮𝗿𝗶𝗼𝘀 𝗜 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝗱𝗲𝘀𝗰𝗿𝗶𝗯𝗲𝗱 𝗮𝗿𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗳𝗶𝗿𝘀𝘁 𝘁𝘄𝗼 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲𝘀, 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝗮𝗿𝗹𝗶𝗲𝘀𝘁 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲𝘀, 𝘆𝗼𝘂𝗿 '𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿-𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲."
แต่ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเธอที่จะต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ต่างๆที่ฉันบอกเธอไปนั้นไม่มีส่วนไหนเลยที่เกี่ยวข้องกับความจริงสูงสุด (ปรมัตถ์สัจจ์) ซึ่งนั่นจะเป็นประสบการณ์ในระยะที่สามของความตาย สถานการณ์ต่างๆที่ฉันเพิ่งอธิบายไปนั้นคือสองระยะแรก ซึ่งเป็นช่วงแรกสุดของ “ประสบการณ์หลังความตาย” ของเธอ
𝗡 : 𝗢𝗸𝗮𝘆. 𝗦𝗼, 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗳𝗶𝗿𝘀𝘁 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲 𝗼𝗳 '𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵,' 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗼𝗰𝗰𝘂𝗿𝘀 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗶𝘇𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝗮𝗺 𝗻𝗼 𝗹𝗼𝗻𝗴𝗲𝗿 𝗺𝘆 𝗯𝗼𝗱𝘆. 𝗜𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗲𝗰𝗼𝗻𝗱 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲 𝗼𝗳 '𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵' 𝗜 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗺𝗼𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗿𝗼𝘂𝗴𝗵 𝘄𝗵𝗮𝘁𝗲𝘃𝗲𝗿 𝗜 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗶𝗺𝗮𝗴𝗶𝗻𝗲𝗱 𝗼𝗿 𝗱𝗲𝗰𝗶𝗱𝗲𝗱 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻 𝘄𝗵𝗲𝗻 𝗜 '𝗱𝗶𝗲.'
𝗔𝗻𝗱 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘁𝗵𝗶𝗿𝗱 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲? 𝗪𝗶𝗹𝗹 𝘆𝗼𝘂 𝗱𝗲𝘀𝗰𝗿𝗶𝗯𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗳𝗼𝗿 𝗺𝗲 𝗻𝗼𝘄? 𝗪𝗵𝗮𝘁 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻 𝘁𝗼 𝗺𝗲 𝘁𝗵𝗲𝗻?
N : โอเคครับ ดังนั้น ในระยะแรกของ “ความตาย” สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมจะตระหนักรู้ได้ว่า ผมไม่ใช่ร่างกายของผมอีกต่อไปแล้ว ส่วนในระยะที่สองของ “ความตาย” ผมจะต้องผ่านหรือต้องประสบกับทุกสิ่งที่ผมจินตนาการหรือตัดสินใจว่าจะต้องเกิดขึ้นเมื่อผม “ตาย” แล้ว แล้วในระยะที่สามล่ะครับ❓ พระองค์ช่วยอธิบายให้ผมฟังในตอนนี้เลยได้ไหมครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง❓
𝗚 : "𝗬𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗺𝗲𝗿𝗴𝗲 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝘁𝗵𝗲 𝗘𝘀𝘀𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗮𝗻𝗱 𝗯𝗲𝗴𝗶𝗻 𝘁𝗼 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗨𝗹𝘁𝗶𝗺𝗮𝘁𝗲 𝗥𝗲𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆 𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝗖𝗼𝗿𝗲 𝗼𝗳 𝗬𝗼𝘂𝗿 𝗕𝗲𝗶𝗻𝗴."
G : เธอจะหลอมรวมเข้ากับแก่นแท้ และเริ่มมีประสบการณ์ถึงความจริงสูงสุด ที่แก่นแท้แห่งตัวตนของเธอ (หรือที่แก่นแท้แห่งความเป็นเธอ)
𝗡 : 𝗬𝗼𝘂 𝗺𝗲𝗮𝗻, 𝗚𝗼𝗱?
N : พระองค์หมายถึง พระเจ้าเหรอครับ❓
𝗚 : "𝗬𝗼𝘂 𝗺𝗮𝘆 𝗰𝗮𝗹𝗹 𝘁𝗵𝗲 𝗨𝗹𝘁𝗶𝗺𝗮𝘁𝗲 𝗥𝗲𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆 𝗮𝗻𝘆𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝘀𝗵. 𝗦𝗼𝗺𝗲 𝗽𝗲𝗼𝗽𝗹𝗲 𝗰𝗮𝗹𝗹 𝗶𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝗘𝘀𝘀𝗲𝗻𝗰𝗲. 𝗦𝗼𝗺𝗲 𝗽𝗲𝗼𝗽𝗹𝗲 𝗰𝗮𝗹𝗹 𝗶𝘁 𝗔𝗹𝗹𝗮𝗵. 𝗦𝗼𝗺𝗲 𝗽𝗲𝗼𝗽𝗹𝗲 𝗰𝗮𝗹𝗹 𝗶𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝗔𝗹𝗹. 𝗜𝘁 𝗱𝗼𝗲𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗺𝗮𝘁𝘁𝗲𝗿 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗮𝗹𝗹 𝗶𝘁, 𝗶𝘁 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗮𝗺𝗲 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴."
G : เธอสามารถเรียกความจริงสูงสุดนั้นว่าอะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการ บางคนเรียกมันว่า “แก่นแท้“ บางคนเรียกมันว่า “อัลลอฮ์” บางคนเรียกมันว่า “สิ่งอันเป็นทั้งหมดนั้น” ไม่สำคัญว่าเธอจะเรียกว่าอะไร เพราะมันคือ #สิ่งเดียวกัน
𝗡 : 𝗪𝗵𝗮𝘁 𝗶𝗳 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝗮𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝘁𝗵𝗼𝘂𝗴𝗵𝘁 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻.
N : จะเกิดอะไรขึ้นถ้านั่นคือสิ่งที่ผมคิดอยู่เสมอว่าจะต้องเกิดขึ้น
𝗚 : "𝗪𝗵𝗮𝘁 𝗶𝗳 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝘁𝗵𝗼𝘂𝗴𝗵𝘁 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻.
G : จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันล่ะ ถ้านั่นคือสิ่งที่เธอคิดอยู่เสมอว่าจะต้องเกิดขึ้น
𝗡 : 𝗪𝗵𝗮𝘁 𝗶𝗳 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝗮𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝘁𝗵𝗼𝘂𝗴𝗵𝘁 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻 𝗶𝗺𝗺𝗲𝗱𝗶𝗮𝘁𝗲𝗹𝘆 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿 𝗺𝘆 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵 𝘄𝗮𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗯𝗲 𝗶𝗺𝗺𝗲𝗿𝘀𝗲𝗱 𝗶𝗻 𝗚𝗼𝗱? 𝗪𝗼𝘂𝗹𝗱𝗻'𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗻 𝗯𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲𝗱 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗲𝗰𝗼𝗻𝗱 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲 𝗼𝗳 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵?
N : ถ้าสิ่งที่ผมคิดอยู่เสมอว่าจะต้องเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ผมตายก็คือ การที่ผมจะได้กลับไปหลอมรวมกับพระเจ้าในทันที ผมก็ไม่ต้องมีประสบการณ์ในระยะที่สองของการตายงั้นหรือครับ❓
𝗚 : "𝗬𝗼𝘂𝗿 𝗜𝗗𝗘𝗔 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗯𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲𝗱 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗲𝗰𝗼𝗻𝗱 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲, 𝘆𝗲𝘀. 𝗧𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗯𝗲𝗰𝗮𝘂𝘀𝗲 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗲𝗰𝗼𝗻𝗱 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲 𝗼𝗳 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵, 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝘀𝘁𝗶𝗹𝗹 𝗼𝗽𝗲𝗿𝗮𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗺𝗶𝗻𝗱.
G : แนวคิดของเธอเกี่ยวกับสิ่งนั้นจะกลายเป็นประสบการณ์ในระยะที่สองของเธอ นั่นเป็นเพราะในระยะที่สองของความตาย เธอยังคงทำงานจากจิตใจ (ด้วยการคิด)
"𝗧𝗵𝗶𝘀 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗯𝗲 𝗮𝘀 𝗽𝗹𝗲𝗮𝘀𝗮𝗻𝘁 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝘀 𝗴𝗹𝗼𝗿𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗮𝗻 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗮𝘀 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗺𝗮𝗸𝗲 𝗶𝘁, 𝗶𝗻 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗶𝗺𝗮𝗴𝗶𝗻𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻. 𝗕𝘂𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗻, 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗳𝗶𝗻𝗮𝗹 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲 𝗼𝗳 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵, 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗮𝘀 𝗶𝘁 𝗮𝗰𝘁𝘂𝗮𝗹𝗹𝘆 𝗶𝘀, 𝗻𝗼𝘁 𝗮𝘀 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗶𝗺𝗮𝗴𝗶𝗻𝗲𝗱 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘁 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗯𝗲.
มันจะเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจและงดงามที่สุดเท่าที่เธอจะสามารถจินตนาการได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะสุดท้ายของความตาย เธอจะมีประสบการณ์ถึงสิ่งที่เป็นจริงๆ ไม่ใช่อย่างที่เธอจินตนาการว่ามันจะเป็น
"𝗕𝘂𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗿𝗶𝗴𝗵𝘁. 𝗬𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗰𝗮𝘁𝗰𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗼𝗻. 𝗜𝗳 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝘃𝗲𝗱 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗶𝗺𝗺𝗲𝗱𝗶𝗮𝘁𝗲𝗹𝘆 𝘂𝗽𝗼𝗻 𝗱𝘆𝗶𝗻𝗴 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝗛𝗼𝗺𝗲 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝗚𝗼𝗱, 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲.
แต่เธอก็พูดถูก เธอเข้าใจมันแล้ว ถ้าสิ่งที่เธอเชื่ออยู่เสมอว่าจะต้องเกิดขึ้นในทันทีที่เธอตายคือการที่เธอจะได้หวนคืนสู่พระเจ้า เธอก็จะได้รับประสบการณ์นั้นในทันที
"𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗼𝗿𝗹𝗱'𝘀 𝗵𝗶𝗴𝗵𝗲𝘀𝘁 𝗵𝗼𝗽𝗲, 𝗮𝗻𝗱 𝗶𝘁 𝗶𝘀 𝘁𝗿𝘂𝗲."
นี่คือความหวังสูงสุดของทุกผู้คนบนโลก และมันก็เป็นความจริง
𝗡 : 𝗠𝘆 𝗺𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗱𝗶𝗱 𝗻𝗼𝘁 𝗵𝗼𝗽𝗲, 𝘀𝗵𝗲 𝗸𝗻𝗲𝘄. 𝗠𝘆 𝗺𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗸𝗻𝗲𝘄 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗵𝗲 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗯𝗲 𝗺𝗲𝘁 𝗯𝘆 𝗮𝗹𝗹 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗮𝗻𝗴𝗲𝗹𝘀, 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘀 𝗿𝗲𝘁𝘂𝗿𝗻𝗶𝗻𝗴 𝗛𝗼𝗺𝗲.
N : แม่ของผมไม่ได้หวังครับ แต่เธอรู้ แม่ของผมรู้ดีว่าเธอจะได้พบกับเหล่าทูตสวรรค์ทั้งหมด และเธอกำลังจะได้กลับบ้าน
𝗚 : "𝗔𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲𝗱. 𝗧𝗵𝗲𝗻 𝘀𝗵𝗲 𝗺𝗼𝘃𝗲𝗱 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝗻𝗲𝘅𝘁 𝘀𝘁𝗮𝗴𝗲 𝗼𝗳 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵, 𝗮𝗻𝗱 𝗵𝗲𝗿 𝗶𝗺𝗮𝗴𝗶𝗻𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝘁𝘂𝗿𝗻𝗲𝗱 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝗮𝗻 𝗲𝘃𝗲𝗻 𝗹𝗮𝗿𝗴𝗲𝗿 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆."
G : และนั่นคือประสบการณ์ที่แม่ของเธอได้รับ จากนั้นเธอก็ได้เข้าสู่ระยะต่อไปของความตาย และจินตนาการของเธอได้กลายเป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
𝗡 : 𝗦𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲𝗱 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗿𝗲𝘀𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝗚𝗼𝗱. 𝗬𝗼𝘂 𝘄𝗲𝗿𝗲 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘁𝗼 𝗴𝗿𝗲𝗲𝘁 𝗵𝗲𝗿?
N : แม่คงได้รับประสบการณ์ถึงการมีอยู่หรือการปรากฏตัวของพระเจ้า พระองค์อยู่ที่นั่นในตอนนั้นเพื่อต้อนรับแม่เหรอครับ❓
𝗚 : "𝗜 𝘁𝗲𝗹𝗹 𝘆𝗼𝘂, 𝗜 𝗮𝗺 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘁𝗼 𝗴𝗿𝗲𝗲𝘁 𝗲𝘃𝗲𝗿𝘆𝗼𝗻𝗲.
G : ฉันจะบอกกับเธอว่า #ฉันอยู่ที่นั่นเพื่อต้อนรับทุกคน
"𝗜𝘁 𝗶𝘀 𝗶𝗺𝗽𝗼𝘀𝘀𝗶𝗯𝗹𝗲 𝘁𝗼 𝗱𝗶𝗲 𝘄𝗶𝘁𝗵𝗼𝘂𝘁 𝗚𝗼𝗱. 𝗜 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗮𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝗯𝗲 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲.
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะตายโดยปราศจากพระเจ้า ฉันจะอยู่ที่นั่นเสมอ
"𝗜 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗲𝗺𝗯𝗿𝗮𝗰𝗲 𝘆𝗼𝘂, 𝗰𝗼𝗺𝗳𝗼𝗿𝘁 𝘆𝗼𝘂, 𝘄𝗲𝗹𝗰𝗼𝗺𝗲 𝘆𝗼𝘂, 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝘀𝘀𝘂𝗿𝗲 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗽𝗲𝗿𝗳𝗲𝗰𝘁 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘆 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲, 𝗮𝗻𝗱 𝗽𝗲𝗿𝗳𝗲𝗰𝘁𝗹𝘆 𝗿𝗲𝗮𝗱𝘆 𝘁𝗼 𝗲𝗻𝘁𝗲𝗿 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝗞𝗶𝗻𝗴𝗱𝗼𝗺 𝗼𝗳 𝗛𝗲𝗮𝘃𝗲𝗻.
𝗧𝗵𝗲𝗻 𝗜 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝘁𝘂𝗿𝗻 𝘆𝗼𝘂 𝗯𝗮𝗰𝗸 𝗼𝘃𝗲𝗿 𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗼𝘂𝗹𝘀 𝗼𝗳 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗹𝗼𝘃𝗲𝗱 𝗼𝗻𝗲𝘀 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝗮𝗻𝗴𝗲𝗹𝘀, 𝘄𝗵𝗼 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗴𝘂𝗶𝗱𝗲 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗵𝗲 𝗿𝗲𝘀𝘁 𝗼𝗳 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝘄𝗮𝘆, 𝗹𝗲𝗮𝗱𝗶𝗻𝗴 𝘆𝗼𝘂 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘂𝗮𝗹 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗺...𝗼𝗿 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗰𝗮𝗹𝗹 '𝘁𝗵𝗲 𝗿𝗲𝗮𝗹' 𝗵𝗲𝗮𝘃𝗲𝗻, 𝗮𝘀 𝗼𝗽𝗽𝗼𝘀𝗲𝗱 𝘁𝗼 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗶𝗺𝗮𝗴𝗶𝗻𝗲𝗱 𝗼𝗻𝗲.
𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗱𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗼𝗿𝗸 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗲𝗻𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘁𝗼 𝗱𝗼."
ฉันจะโอบกอดเธอ ปลอบโยนเธอ ยินดีต้อนรับเธอ และยืนยันกับเธอว่าเธอนั้นสมบูรณ์แบบในแบบที่เธอเป็น และพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ จากนั้นฉันจะส่งเธอกลับไปหาดวงวิญญาณของคนที่เธอรักและเหล่าทูตสวรรค์ ผู้ซึ่งจะนำทางเธอไปตลอดเส้นทางที่เหลือ นำเธอไปสู่อาณาจักรแห่งจิตวิญญาณ...หรือที่เธออาจเรียกได้ว่า สวรรค์ “ที่แท้จริง” อันตรงข้ามกับจินตนาการของเธอ เธอจะไปทำงานที่นั่น งานที่เธอไปที่นั่นเพื่อที่จะทำ
𝗡 : 𝗜 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝘁𝗼 '𝘄𝗼𝗿𝗸' 𝗶𝗻 𝗵𝗲𝗮𝘃𝗲𝗻?
N : ผมต้องไป “ทำงาน” ในสวรรค์งั้นหรือครับ❓
𝗚 : "𝗗𝗼 𝗻𝗼𝘁 𝘄𝗼𝗿𝗿𝘆. 𝗜𝘁 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝗹𝗶𝗸𝗲 𝗽𝗹𝗮𝘆. 𝗬𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝗽𝗹𝗮𝘆𝗶𝗻𝗴 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗚𝗮𝗿𝗱𝗲𝗻𝘀 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗚𝗼𝗱𝘀. 𝗜𝘁 𝘁𝗿𝘂𝗹𝘆 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 '𝗵𝗲𝗮𝘃𝗲𝗻.' 𝗜 𝘂𝘀𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗼𝗿𝗱 '𝘄𝗼𝗿𝗸' 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗲𝗻𝘀𝗲 𝗼𝗳 '𝗮𝗰𝗰𝗼𝗺𝗽𝗹𝗶𝘀𝗵𝗶𝗻𝗴 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝘀𝗲𝘁 𝗼𝘂𝘁 𝘁𝗼 𝗱𝗼.""
G : ไม่ต้องกังวล มันจะเป็นเหมือนกับการเล่น เธอจะได้เล่นในสวนแห่งทวยเทพ ใน “สวรรค์” ที่แท้จริง ฉันใช้คำว่า “งาน” ในแง่ของ “การบรรลุถึงสิ่งที่เธอตั้งใจไว้ว่าจะทำ”
𝗡 : 𝗔𝗻𝗱 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗶𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝘄𝗶𝗹𝗹 '𝘀𝗲𝘁 𝗼𝘂𝘁 𝘁𝗼 𝗱𝗼' 𝗶𝗻 𝗵𝗲𝗮𝘃𝗲𝗻.
N : แล้วอะไรคือสิ่งที่ผม “ตั้งใจไว้ว่าจะทำ” ในสวรรค์ครับ?
𝗚 : "𝗪𝗵𝗲𝗻 𝘄𝗲 𝗴𝗲𝘁 𝘁𝗼 𝗼𝘂𝗿 𝗲𝘅𝗽𝗹𝗼𝗿𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘂𝗮𝗹 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗺, 𝘄𝗲'𝗹𝗹 𝘁𝗮𝗸𝗲 𝗮 𝗹𝗼𝗼𝗸 𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁. 𝗬𝗲𝘁 𝗸𝗻𝗼𝘄 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘄: 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗻𝗼𝘁 𝗹𝗲𝗮𝘃𝗲 𝗺𝘆 𝗽𝗿𝗲𝘀𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘂𝗻𝘁𝗶𝗹 𝗜 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗺𝗮𝗱𝗲, 𝗮𝗻𝗱 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗿𝗲𝘀𝗽𝗼𝗻𝗱𝗲𝗱 𝘁𝗼, 𝘁𝗵𝗲 𝗛𝗼𝗹𝘆 𝗜𝗻𝗾𝘂𝗶𝗿𝘆."
G : เมื่อเราไปถึงการสำรวจดินแดนแห่งจิตวิญญาณ เราจะพูดคุยถึงเรื่องนั้นกัน แต่ตอนนี้ให้รู้ไว้ว่า : ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดกระบวนการของ “การไต่ถามอันศักดิ์สิทธิ์” นั่นคือการที่ฉันทำการไต่ถามเธอ และเธอตอบคำถามของฉัน
𝗡 : 𝗧𝗵𝗲 𝗛𝗼𝗹𝘆 𝗜𝗻𝗾𝘂𝗶𝗿𝘆?
N: การไต่ถามอันศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือครับ❓
𝗚 : "𝗬𝗲𝘀. 𝗕𝘂𝘁 𝗜 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗹𝗶𝗸𝗲 𝘁𝗼 𝘁𝗲𝗹𝗹 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗹𝗮𝘁𝗲𝗿. 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗺𝗶𝗴𝗵𝘁 𝗯𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗺𝗼𝘀𝘁 𝗶𝗺𝗽𝗼𝗿𝘁𝗮𝗻𝘁 𝗽𝗮𝗿𝘁 𝗼𝗳 𝗼𝘂𝗿 𝗰𝗼𝗻𝘃𝗲𝗿𝘀𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻, 𝗮𝗻𝗱 𝗜 𝘄𝗮𝗻𝘁 𝘁𝗼 𝗽𝘂𝘁 𝘀𝗼𝗺𝗲 𝗯𝘂𝗶𝗹𝗱𝗶𝗻𝗴 𝗯𝗹𝗼𝗰𝗸𝘀 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝗽𝗹𝗮𝗰𝗲 𝗳𝗶𝗿𝘀𝘁."
G : ถูกต้อง แต่ฉันจะบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง และนี่อาจเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการสนทนาของเราในครั้งนี้ แต่ขั้นแรกฉันอยากปูพื้นฐานความเข้าใจให้กับเธอก่อน
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา