โยมถาม : ในเมื่ออยู่ต่อไปก็ทุกข์ ถ้าฆ่าตัวตายไปทำไมถึงบาปคะ ?

พระอาจารย์ตอบ :
คนที่คิดอยากจะฆ่าตัวตาย ก็เพราะรู้สึกว่าโลกนี้อยู่แล้วทุกข์ ถ้าตายไปจะได้พ้นจากความทุกข์ แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าเราฆ่าตัวตายไปแล้วทางข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง มันหนักหนาสาหัสกว่านี้อีกมากเลยทีเดียวถามว่า...
ทำไมฆ่าตัวตายถึงบาป ในเมื่อร่างกายก็ของเรา เรามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ จะฆ่าตัวตายมันก็ควรจะเป็นเรื่องของเราเอง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะกฎแห่งกรรมควบคุมพวกเราอยู่ เราไม่ได้เป็นคนสร้างกฎนี้ขึ้นเอง
การฆ่าตัวตายเป็นการพรากชีวิตอย่างหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นชีวิตของเราเองก็ไม่มีสิทธิ์ ลูกของเรา เราก็ไม่มีสิทธิ์ฆ่าเขา ทาสของเรา เราก็ไม่มีสิทธิ์ฆ่าเขา นายทาสไม่ใช่เจ้าของชีวิต ไม่ว่าค่านิยมในสังคมยุคใดจะเป็นอย่างไรก็ตาม กฎแห่งกรรมจะยังเป็นกฎแห่งกรรมอยู่อย่างนั้น
การฆ่าตัวตายนั้นผิดศีลปาณาติบาต เมื่อตายแล้วโอกาสตกนรกมีสูงมากถ้าไม่มีบุญอื่นมาช่วยไว้ หากต้องตกมหานรกขุมที่ ๑ สัญชีวมหานรก จะไปเกิดเป็นสัตว์นรกตัวใหญ่โต มีนายนิรยบาลซึ่งเกิดด้วยอำนาจของกรรมที่ตัวใหญ่กว่า มาจับแขนขาสัตว์นรกตรึงไว้ แล้วใช้ขวานบ้าง มีดบ้าง เลื่อยบ้าง ทั้งสับ เลื่อย เฉือนแขนขาหั่นออกเป็นท่อน ๆ แค่นึกภาพตามก็น่ากลัวมากแล้ว
ถ้าไปเห็นยิ่งน่ากลัว แล้วยิ่งไปเจอเข้ากับตัวคงจะเจ็บปวดทรมานมาก พอทนความเจ็บปวดไม่ไหวก็ตายตกไปในนรก ด้วยอำนาจกรรมเพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็กลับมาเกิดใหม่ทันที แล้วโดนทารุณอยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง ตายเกิด ๆ ทั้งวันไม่หยุด แล้วเวลาในมหานรกนั้นยาวนานมากกว่าเวลาในโลกมนุษย์ ๙ ล้านปี เท่ากับเวลาในมหานรกขุมที่ ๑ เพียง ๑ วัน เท่านั้น แล้วต้องรับกรรมในสัญชีวมหานรกนานถึง ๕๐๐ ปีนรก น่ากลัวมาก
ดังนั้น คิดให้ดีก่อนว่า ตอนนี้ที่เรารู้สึกทุกข์เหลือเกิน จะทุกข์กว่าตกนรกไปถูกจับตรึง เฉือนเนื้อ ตัดแขนตัดขา หั่นเป็นท่อน ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่านานนับล้านปีหรือไม่ แล้วเราควรเลือกแบบใด หากเราฆ่าตัวตายจะเหมือนเราหนีเสือปะจระเข้เป็นฝูงหรือไม่ พอโผล่พ้นน้ำมาก็เจออีกาปากเหล็กจิกกัด ตกกลับลงไปในน้ำเจอปิรันย่ารุมขย้ำ แขนขาหลุดออกเป็นชิ้น ๆ โดนอยู่อย่างนี้ซ้ำ ๆ เป็นล้าน ๆ ปี ไม่คุ้มเลย อย่าไปทำ สมัยนี้ดารา นักร้อง เน็ตไอดอลหลายคนคิดฆ่าตัวตาย
เพราะพวกเขามักจะรู้สึกว่าชีวิตขาดที่พึ่ง อยู่ข้างนอกบ้านเป็นคนมีชื่อเสียง มีคนชื่นชมมากมาย มีแฟนคลับนับล้านคน แต่กลับรู้สึกทุกข์ใจ รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เราไม่รู้เลยว่าเขาบดบังความกลัดกลุ้มใจเอาไว้มากมายเพียงใด ถึงแม้บางคนจะมีทรัพย์สมบัติมากมาย มีกินมีใช้ไม่ขาดแคลน มีชื่อเสียงโด่งดัง มีคนนิยมชมชอบ แต่บ้างก็มีปัญหาภายในครอบครัว บ้างมีปัญหาในที่ทำงาน
บ้างมีปัญหากับคนรอบข้าง พอเกิดความทุกข์ใจหนักเข้าก็ฆ่าตัวตาย หารู้ไม่ว่า ความจริงแล้วถ้าเทียบกับความทุกข์ที่ต้องไปเจอในนรกหลังจากฆ่าตัวตายไปแล้วนั้น เทียบกันไม่ได้เลย ดังนั้น จงรักษาชีวิตของเราไว้ แล้วหมั่นทำความดี ขยายใจให้กว้าง อย่าเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง
ยังมีคนในโลกนี้อีกมากมายที่ทุกข์กว่าเรา เขายังไม่คิดจะฆ่าตัวตายเลย และเขากำลังมองเราด้วยความอิจฉาด้วย เหมือนคนจำนวนมากที่มองดาราเกาหลีฆ่าตัวตายไปด้วยความอิจฉา คนอื่นต่างก็คิดว่าชีวิตของเขาสมบูรณ์แบบ มีทั้งรูปร่างหน้าตางดงาม มีชื่อเสียงเงินทองมากมาย มีคนนิยมชมชอบ
ถ้าเลือกได้ หลายคนอยากจะมีชีวิตอย่างเขาเมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐอเมริกาถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน รัฐบาลล้ม ตาลีบันเข้ายึดประเทศ ประชาชนชาวอัฟกานิสถานตื่นตระหนกกันมาก คนจำนวนมากต้องการหนีออกนอกประเทศเพราะกลัวภัยจะมาถึงตัว
Cr: www.bbc.com
ภาพที่ปรากฎในสนามบินคือเครื่องบินทหารของสหรัฐอเมริกากำลังที่วิ่งยู่บนรันเวย์เพื่อจะเทคออฟ มีผู้คนนับพันวิ่งตามเครื่องบิน บางคนปีนไปอยู่บนปีกเครื่องบิน ทำอย่างไรก็ได้เพื่อจะได้ออกไปจากประเทศนี้ นักบินไม่รู้จะทำอย่างไร ตัดสินใจนำเครื่องวิ่งออกไปช้า ๆ
จนกระทั่งคนวิ่งตามไม่ทัน แล้วจึงทะยานขึ้น แต่ก็ยังมีคนเกาะอยู่บนปีกของเครื่องบิน พอเครื่องบินทะยานสูงขึ้นเรื่อย ๆ แรงลมปะทะตัวเขาจึงตกลงมาตาย สำหรับคนเหล่านั้น การได้ออกนอกประเทศอัฟกานิสถานเพื่อมาอยู่ประเทศอื่นอย่างพวกเรานี้เหมือนกับได้ไปอยู่บนสวรรค์ ตื่นเช้ามาไม่ต้องกลัวว่าจะถูกยิงตาย มีข้าวกิน มีบ้านอยู่ เท่านี้ก็สมบูรณ์พร้อมแล้ว
เพราะฉะนั้น เราไม่ควรเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง ขยายใจเราให้กว้างขึ้นแล้วจะพบว่า มีคนบนโลกนี้อีกมากมาย ที่มองชีวิตของเราด้วยความอิจฉา และรู้สึกว่าชีวิตเราดีกว่าเขามาก
มีคุณหมอรักษาตาชาวไทยท่านหนึ่ง เดินทางไปช่วยรักษาผู้ป่วยโรคต้อหินที่ประเทศพม่า เขามีอาการความดันในตาสูงจนกระทั่งตาบอด ต้องเข้ารับการผ่าตัด พอได้รับการรักษาเสร็จสิ้น ความดันในตาลดลง เขาก็กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
ผู้ป่วยดีใจมาก เขาหวังเพียงให้ตากลับมามองเห็นได้อีกครั้ง เขาไม่กลัวอะไรแล้ว ถึงแม้ต่อไปจะต้องใช้ชีวิตอย่างอดอยากยากจนเพียงใดก็ไม่กลัว
การที่ตาของเขามองเห็นได้นั้นคือพรที่ยิ่งใหญ่ เป็นความใฝ่ฝันสูงสุดในชีวิตแล้ว เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตาย ให้ลองถามตนเองว่า ตาของเรานั้นยังมองเห็นอยู่หรือไม่ แขนขาของเรายังขยับได้หรือไม่ บางคนพิการเดินไม่ได้
เขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างดี มีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วมองเราด้วยความอิจฉาว่าทำไมขาเรายังเดินได้ แขนขาเรายังขยับได้ เราเองมีร่างกายสมบูรณ์ กลับบอกว่าทุกข์มากจนอยากจะละจากโลกนี้ไป เขาคงมองเราด้วยความสงสัยว่า ร่างกายสมประกอบขนาดนี้ แล้วทำไมยังคิดจะจากโลกนี้ไปอีก เขาไม่มีทั้งแขน ไม่มีทั้งขา ตาก็บอดยังไม่คิดจะจากโลกนี้ไปเลย
ดังนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจของเราเท่านั้น ขยายใจตนเองให้กว้าง อย่ายึดมั่นแต่ตนเอง อะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ ที่ทำให้รู้สึกว่าทุกข์มาก ก็ให้มองเลยออกไปให้กว้าง มองทะลุไปให้เห็นคนอื่น ๆ อีกมากมายที่เขายังอยู่ในสถานภาพที่ด้อยกว่าเรา แทนที่จะมัวแต่คิดจะเป็นผู้รับ ก็ให้คิดจะเป็นผู้ให้บ้าง ว่าเราจะช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างไร ถ้าคิดได้อย่างนี้ ใจเราจะเปลี่ยนไปมีความสุขทันที
ให้เราตัดทางเลือกในการฆ่าตัวตายเพื่อจะพ้นทุกข์นี้ออกไปให้หมด เพราะไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย เสมือนเรานั่งอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิ ๓๕ องศาเซลเซียส ทั้งร้อนและอึดอัด รู้สึกว่าอยากจะออกจากห้องนี้เต็มที แต่หารู้ไม่ว่า ข้างนอกนั้นร้อนเหมือนเตาหลอมเหล็ก ถ้าก้าวออกไปแล้ว ทั้งหนัง เนื้อ และกระดูกละลายได้เลยทีเดียว ดังนั้น การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องแน่นอน อย่าไปทำ
เจริญพร.
โฆษณา