78 ปี Godzilla มหากาพย์ราชันสัตว์ประหลาดในโลกภาพยนตร์
ในฐานะหนึ่งในสัตว์ประหลาด ที่ร้อนแรงที่สุดในโลก เป็นเวลา 67 ปีแล้วที่ Godzilla เปิดตัวตอนแรกในปี 1954 ถึง 2021
แม้ว่าเวลาจะผ่านไป ความนิยมของ Godzilla ก็ไม่ลดลง
และทุกคนในโลกก็จำชื่อและภาพลักษณ์ของเขาได้ แม้ว่าเราจะไม่ใช่แฟนหนังก็อตซิลล่าก็ตาม
แต่คุณคิดว่า "Godzilla" เวอร์ชันแรกเป็นรูปร่างของปลาหมึกยักษ์ใช่หรือไม่?
คุณรู้หรือไม่ว่า Godzilla ถูกสร้างขึ้นในบริบทใด?
แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า King Kong ถือเป็นบรรพบุรุษของ Godzilla?
ถ้าหากว่าคุณอยากรู้ หรือไม่อยากรู้ก็ตาม...วันนี้ขอพาคุณผ่านชีวิตของ Godzilla ในตำนานกันสักโพสต์นะครับ
เริ่มกันที่....ที่มาของชื่อก็อตซิล่า
Godzilla เป็นสัตว์ประหลาดที่ผลิตโดย Toho Co., Ltd. ของญี่ปุ่น ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ญี่ปุ่น และเป็นสัตว์ประหลาดที่คลาสสิกและโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของโลก
Godzilla ออกเสียงว่า "โกจิระ" ในภาษาญี่ปุ่นและสร้างขึ้นจากการผสมผสานของกอริลลา (โกริระ) และวาฬ (คุจิระ) ในภาษาญี่ปุ่น
เนื่องจากในขั้นตอนการออกแบบเบื้องต้น Godzilla ถูกอธิบายว่าเป็น "ลูกผสมของกอริลลาและวาฬ" เนื่องจากมีขนาดและแหล่งกำเนิดทางน้ำ
แต่มันถือว่าไร้สาระเกินไปที่จะให้ความรู้สึกเหมือนสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว
ต่อมาแม้ว่าการออกแบบของ Godzilla จะเปลี่ยนไป แต่ชื่อก็มีติดหูอยู่เสมอและได้แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว
ที่มาของก็อตซิล่า
ในบริบทของภาพยนตร์ญี่ปุ่น ต้นกำเนิดที่แท้จริงของ Godzilla นั้นแตกต่างกันไป
แต่โดยทั่วไปแล้วมักถูกอธิบายว่าเป็นสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ และรุนแรง ดุดันไม่เกรงใจใคร ในยุคก่อนประวัติศาสตร์
ที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นและได้รับพลังจากรังสีนิวเคลียร์
แต่เนี่องด้วยประเทศญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่สอง
"นิวเคลียร์" จึงเป็นหัวข้อต้องห้ามในดินแดนแห่งดอกซากุระมาโดยตลอด และไม่สามารถพูดคุยเรื่องแบบนี้กันโดยตรงได้
ในฤดูใบไม้ผลิปี 1954 เรื่องบังเอิญที่สามารถได้เปลี่ยนแปลงสิ่งต้องห้ามทั้งหมดนี้
ในเวลานั้น ผู้สร้างภาพยนตร์ ทานากะ (Tanaka Tomoyuki ) ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากการถ่ายทำครั้งใหม่เนื่องจากเหตุผลทางการเงิน
ระหว่างทางกลับจากอินโดนีเซียไปญี่ปุ่น เขาได้อ่านเกี่ยวกับเหตุการณ์ "Fifth Fulong Maru" เรือได้รับการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนใต้น้ำ
ที่ดำเนินการโดย "Operation Castle" ของสหรัฐอเมริกาบนเกาะบิกินี่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปี 1954 โดยรังสี
ลูกเรือทั้ง 23 คนถูกอาบยาพิษด้วยรังสีนิวเคลียร์
ทานากะจึงตัดสินใจประชดด้วยการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์
แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถแสดง "นิวเคลียร์" ได้โดยตรง เขาจึงสื่อสารกับผู้กำกับ อิชิโร ฮอนดะ และพบว่าอิโนชิโระเป็นทหารเกษียณในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เห็นการโจมตีทั้งหมด
นั่นคือหลังจากการทิ้งระเบิดปรมาณู ฮิโรชิมา
ทั้งสองจึงโจมตีความมันและตัดสินใจเปรียบเทียบอาวุธนิวเคลียร์ว่าเป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่ทำลายไม่ได้
และยกตัวตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง "King Kong" ที่ออกฉายในปี 1933 ยังพิสูจน์ว่าภาพยนตร์เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่ทำลายเมืองสามารถประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และทางศิลปะได้
อย่างไรก็ตาม ทานากะไม่ต้องการให้หนังของเขาเหมือนขโมยมา
ดังนั้นสัตว์ประหลาดควรดูโหดร้ายและแตกต่างออกไป แผนเดิมคือการผสมผสานระหว่างกอริลลากับวาฬ เช่นเดียวกับชื่อ
ต่อมาได้มีการออกแบบหัวสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายเห็ดและแม้แต่ปลาหมึกทะเลลึกขนาดใหญ่ก็ได้รับการออกแบบ
ในท้ายที่สุด อากิระ วาตานาเบะ ผู้กำกับศิลป์ ได้ผสมผสานคุณสมบัติของไทแรนโนซอรัส อิกัวน่า เตโกซอรัส และจระเข้
เพื่อสร้าง คิเมร่าลูกผสม เพื่อเน้นความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ประหลาดกับระเบิดปรมาณู
พื้นผิว(หนัง)ของมันถูกอิทธิพลจากการอยู่รอดของฮิโรชิม่า แรงบันดาลใจจากการเผาไหม้นิวเคลียร์ในร่างกายของบุคคลที่รอดตาย
มาที่....จุดประสงค์ของภาพยนตร์ Godzilla
เรื่องแรกคือ เพื่อประท้วงสงครามและอาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้นความสามารถของมันจึงเกิดจากพลังงานนิวเคลียร์ในร่างกาย โทนสีหลักของภาพยนตร์นั้นจริงจังและน่าเศร้า
ผู้กำกับยังอยากให้คนดูรู้สึกเกรงขามด้วยฟีเจอร์นี้ที่ ผู้คนได้รับอิทธิพลจากคนอื่นมากที่สุด เขาจงใจไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของก็อตซิลล่าในครึ่งแรกของภาพยนตร์
โดยใช้เพียงรอยเท้า การใช้เสียง การโคลสอัพของเท้า และความทุกข์ยากของเหยื่อ การเรียกร้องแบบนี้จึงสร้างความรู้สึกใจจดใจจ่อและลึกลับ.
การเปลี่ยนแปลงของก็อตซิล่า
ข้อมูลต่อต้านสงครามและการแสดงที่สมบูรณ์แบบในขณะนั้น
ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก และภาพวายร้ายของ "ศัตรูของมนุษยชาติ" ของ Godzilla
ก็กลายเป็นเสียงหลักของงานแรกของ Godzilla ภาพหลักนี้เปลี่ยนไปเมื่อ Godzilla ออกฉายประมาณ 10 ปี
ในฐานะที่เป็นซีรีส์ของภาพยนตร์เพื่อความบันเทิง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเริ่มแนะนำสิ่งที่ได้รับความนิยม
และเป็นเรื่องเฉพาะในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากนั้นจึงค่อยๆเปลี่ยนบุคลิกภาพ ทั้งบุคลิกภาพของ Godzilla บนจอแก้วและจอเงิน
อิมเมจใหม่ๆ สัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ ค่อยๆ เข้ามาในภาพยนตร์ของ Godzilla เช่น มอดขนาดยักษ์ สัตว์ร้ายแห่งดอกไม้ Bioranti และศัตรูที่โด่งดังที่สุดคือ Gidola มังกรสามหัว
ในขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์ของ Godzilla ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มันไม่ได้คุกคามมนุษย์อีกต่อไป
แต่กลายเป็นผู้พิทักษ์จากสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ
ข้อความที่ถ่ายทอดในภาพยนตร์เกี่ยวกับ Godzilla ก็เริ่มเปลี่ยนไปเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น แง่มุมทางนิเวศวิทยามีความชัดเจนที่สุดในภาค "Godzilla vs. Hedora"
ศัตรูเกิดจากมลภาวะร้ายแรงของสิ่งแวดล้อม ทำให้ลูกอ๊อดกลายพันธุ์และกลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ Hedora
และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
นอกจากนี้ในเวอร์ชั่นอเมริกาของ Godzilla ก็อตซิลล่ายังถูกแสดงเป็นร่างจุติของพลังธรรมชาติเพราะภัยคุกคามของสงครามนิวเคลียร์
Godzilla ที่ต้องการเป็นสัญลักษณ์ในรุ่นแรกนั้นยากมาก แต่สำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามธรรมชาติที่มนุษย์สร้างขึ้นเหล่านั้น
Godzilla สามารถเพิ่มเติมภัยคุกคามของสงครามนิวเคลียร์ในยุคนี้ ได้ด้วยธีมที่ทันสมัย
ชะตากรรมของก็อตซิล่า
ในภาพยนตร์เรื่องแรก Godzilla เป็นสัตว์ประหลาดที่ดุดันและดุดัน โดยพื้นฐานแล้วจะโจมตีทุกอย่างที่เขาเจอ
แต่ในภาพยนตร์ภาคต่อๆ มา เมื่อเขาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ เขาก็เริ่มแสดงท่าทางที่เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น นอกจากนี้เขามักจะแสดงคุณสมบัติตามข้อเสนอแนะและมาตรฐานทางศีลธรรม
ในปี 1964 เขาได้แสดงวิธีสื่อสารกับสัตว์ประหลาดตัวอื่น รวมถึงการช่วยให้มนุษย์เอาชนะสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ
นอกจากนี้ เขาได้สื่อสารกับมนุษย์หลายครั้งเพื่อขจัดภัยคุกคาม ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ภาพลักษณ์ของความยุติธรรมของ Godzilla ในฐานะ "ราชาปีศาจ" นั้นไม่อาจพลิกกลับได้
ภาพนี้และการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาของอุตสาหกรรมบันเทิงกระตุ้นให้ภาพยนตร์ Godzilla สร้างการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง
อีกทั้ง ละครโทรทัศน์เรื่อง "อุลตร้าแมน" ที่ผลิตโดยผู้กำกับ ที่มีสเปเชียลเอฟเฟกต์ ภาพยนตร์ซีรีส์ Godzilla เออิจิ สึบุรายะ ยังปลุกกระแสลัทธิฮีโร่แปลงร่างครั้งใหญ่ในหมู่เด็กๆ
ในสภาพแวดล้อมนี้ ภาพยนตร์ซีรีส์ Godzilla เริ่มเป็นความบันเทิงสำหรับเด็ก ในงานเหล่านี้ Godzilla เปรียบเสมือนแชมป์มวยปล้ำร่วมกับอุลตร้าแมน
การต่อสู้อย่างดุเดือดกับสัตว์ประหลาดทุกประเภทที่เป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ และเพิ่มแผนการที่ที่น่าสนใจมากมาย
เพื่อทำให้ผู้ชมอายุน้อยได้พออกพอใจ
ต่อมาในปี 1984 Godzilla ถูกเปลี่ยนตำแหน่งเป็นบทบาทผู้ก่อวินาศกรรมคล้ายกับต้นกำเนิดของซีรีส์ กลายเป็นภัยธรรมชาติที่คาดไม่ถึง ซึ่งทำให้มนุษย์สมัยใหม่ภาคภูมิใจในเทคโนโลยีขั้นสูงรู้สึกไร้อำนาจอย่างไม่มีทางต่อต้าน
และยังสะท้อนให้เห็นอารยธรรมมนุษย์อย่างเห็นได้ชัดโดยปริยาย
เดิมทีชาวญี่ปุ่นต้องการยุติ Godzilla ในปี 1995 แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ พวกเขาจึงจำต้องปล่อย "Last Battle of Godzilla" ในปี 2000 เป็นตอนจบ
Godzilla ในบทความนี้มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนและหลากหลาย
กล่าวคื ความหายนะที่ลงโทษอารยธรรมมนุษย์, อมนุษย์ในอดีต, ยักษ์ที่แสดงความโกรธต่อมนุษย์ด้วยเทคโนโลยีบางอย่างที่ล้ำหน้าเกินไป (หรือต่อต้านธรรมชาติ) หรือมนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตไม่สามารถเอาชนะได้
และสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดที่ต้องปรากฏในช่วงวิกฤต
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ความพยายามอย่างกล้าหาญเหล่านี้ล้มเหลวในการสร้างภาพยนตร์ซีรีย์ Godzilla ให้ได้ผลลัพธ์ที่สะดุดตา
และบ็อกซ์ออฟฟิศ Toho ยังประกาศด้วยว่า "Godzilla's Last Battle" จะไม่ถ่ายทำในซีรีส์ Godzilla เป็นเวลา 5-10 ปีหรือถาวร
แต่ตอนนี้เข้าสู่ยุค 2023 Godzilla ได้กลายเป็นที่รักของวงการภาพยนตร์อีกครั้ง
อิมเมจขนาดยักษ์ที่โด่งดังไปทั่วโลกให้พื้นที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับคอมพิวเตอร์ฮอลลีวู้ดสเปเชียลเอฟเฟกต์และภาพยนตร์สุดอลังการ
![[ชตระกูล ศรีสวัสดิ์] คุณปู่อุลตร้าแมน
วันนี้นึกมุกเก่าๆ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 สมาคมนักเขียนการ์ตูนแห่งญี่ปุ่น ได้ออกข่าวมรณกรรมของ ”คุณปู่อุลตร้าแมน” เสียชีวิตลง... ด้วยอาการเลือดออกในสมองและอาการปอดบวมในวัย](https://t1.blockdit.com/photos/2023/07/64bb81d5ee71026468caaa3a_800x0xcover_SwA8evyS.jpg)
และนี่รับประกันความได้เปรียบในการรับประกันบ็อกซ์ออฟฟิศสำหรับซีรีส์นี้
ตอนนี้ ตามที่ Legendary Pictures ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Godzilla เวอร์ชั่นอเมริกาจะมีภาพยนตร์ไตรภาคเป็นของตัวเองและร่วมกับคิงคองสัตว์ประหลาดคลาสสิกอีกตัวหนึ่ง
มันกลายเป็นหนึ่งในชื่อบ็อกซ์ออฟฟิศมากที่สุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของโลกอีกครั้ง และก็อดซิลล่าจะปรากฏบนหน้าจอกันต่อไป
และขอจบด้วยความรู้บางอย่างของ Godzilla ที่ผมพอจะหาได้
1.ปี 1980 การสำรวจจากชาวญี่ปุ่น บุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุด ที่ได้รับการสำรวจในสหรัฐอเมริกาในปี 1980 Godzilla อยู่ในอันดับที่ 3 ในการจัดอันดับ มีเพียงจักรพรรดิ Hirohito ในญี่ปุ่น ที่แซงหน้าเขา
2. Godzilla ทิ้งดาวไว้ที่ "Walk of Fame" ในลอสแองเจลิสในปี 2014
3. ตามเนื้อผ้า Godzilla ถือเป็นผู้ชาย แม้ว่าจะไม่ได้ระบุไว้ในฉาก แต่แฟน ๆ ไม่ต้องการเรียกมันว่า "มัน" เพราะมันบอกเป็นนัยว่า "มัน" เป็นเพียงสัตว์ธรรมดาๆ
4. เสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์ของ Godzilla เกิดจากการขัดสายเชลโลด้วยถุงมือที่เคลือบทาร์เรซิน แต่การผลิตเสียงนี้เป็นความลับมาโดยตลอด
![[The Last karuda] ชิปสมอง Neuralink ของ Elon Musk ได้รับการอนุมัติสำหรับการวิจัยในมนุษย์
บริษัทผลิตสมองบนชิปของ Elon Musk กล่าวว่าบริษัทได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ให้ดำเนินการทดสอบกั](https://t1.blockdit.com/photos/2023/07/64bbba17adcca131a13adedd_800x0xcover_zB6b5GAT.jpg)
ดังนั้นจึงไม่มีบริษัทอื่นใดสามารถสร้างและใช้งานเสียงนี้ได้
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
