Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Inside Your Mind
•
ติดตาม
29 ก.ย. 2023 เวลา 03:05 • ไลฟ์สไตล์
รู้จัก Eustress ความเครียดที่สามารถเพิ่มพลังบวกให้กับชีวิต
‘จริงอยู่ที่ความเครียดนั้นทำให้เราทุกข์ใจ แต่หากความเครียดนั้น สามารถให้พลังบวกกับเราได้ละ มันจะเป็นยังไง’
ในชีวิตประจำวัน ความเครียดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนชีวิตจากความทุกข์ที่มาจากความรับผิดชอบที่ใหญ่เกินกว่าน้ำหนักและส่วนสูงของคน และเส้นทางความสำเร็จที่คิดว่า โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่กลับกลายเป็นเปลือกทุเรียนแทน จนผู้คนแทบไม่เชื่อเลยว่า มันจะมีความเครียดที่ดีต่อใจเรา
นั้นจึงกลายเป็นนิยามของความเครียดที่จะผูกติดกับความทุกข์จากการไม่ตอบสนองต่อความต้องการและการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังดูดพลังชีวิตไปกับความวิตกกังวลในการจัดการสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและความกลัวต่อสภาพแวดล้อมรอบข้าง จนคุณกลายเป็นคนอ่อนไหวทางอารมณ์ อ่อนแอทางร่างกาย และอ่อนล้าทางจิตใจ
แต่คุณคงไม่เชื่อหรอกว่า ยังมีความเครียดอีกประเภทหนึ่ง ที่สามารถสร้างพลังบวกให้กับเราได้ แม้ในแต่ละวันเราจะพบเจอสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดก็ตาม แต่ความเครียดแต่ละสถานการณ์นั้น จะไม่มอบความตื่นเต้นและแรงบันดาลใจให้กับเราเลยเหรอ ซึ่งความเครียดที่มอบสิ่งเหล่านั้น เรียกว่า Eustress (ยูสเตรท)
‘แล้ว Eustress (ยูสเตรท) คืออะไร’ Inside Your Mind จะมาหาคำตอบให้กับคุณ
[ ยูสเตรท คืออะไร ]
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ความเครียดนั้นถูกแบ่งออกมาเป็น 2 ประเภท โดยประเภทที่เราเชื่อกันมาตลอดว่า ความเครียดคือความทุกข์ที่ดูดพลัง เรียกว่า Distress ส่วนความเครียดที่เป็นพลังบวกนั้น เรียกว่า Eustress โดยผู้ที่แบ่งประเภทของความเครียดและบัญญัติคำว่า Eustress มีนามว่า Hans Selye (ฮันล์ เซลเย่) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อ
โดย Eustress (ยูสเตรท) มีความหมายว่า ความเครียดที่ส่งผลลัพท์เชิงบวกทั้งทางร่างกายและจิตใจในระยะสั้น ที่จะมอบความรู้สึกตื่นเต้นและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา ซึ่งต่างจากความเครียดแบบ Distress ที่จะมอบความรู้สึกวิตกกังวล ความกลัว หรือหนักใจในระยะยาว
[ จะรู้ได้ไงว่า นั้นคือความเครียดแบบยูสเตรท ]
การสัมผัสถึงยูสเตรทนั้น อาจจะเป็นเรื่องยากหน่อย เพราะ ความเคยชินกับนิยามความเครียด กลายเป็นอุปสรรคในการแยกความเครียด จึงต้องฝึกฝนและใช้เวลาในสร้างความตระหนักรู้ในตัวเอง (Self-Awareness) ผ่านสถานการณ์ตรงหน้า ซึ่งการรับรู้ยูสเตรทนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ดังต่อไปนี้
1. การเปลี่ยนแปลงในชีวิต
การเปลี่ยนแปลงในชีวิตเปรียบเสมือนความก้าวหน้าไปเผชิญกับอะไรใหม่ๆ หรือเลื่อนสถานะอีกระดับหนึ่ง ซึ่งยูสเตรทมักจะถูกกระตุ้นไปพร้อมกับการปรับตัว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การได้เลื่อนตำแหน่ง การได้อยู่ในความสัมพันธ์อีกระดับหนึ่ง การเลี้ยงลูก เป็นต้น
2. หาความท้าทายเล็กๆ น้อยๆ
ความท้าทายกับภัยอันตรายจะแตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่ เมื่อเราเกิดความเครียด เรามักจะรู้สึกว่ามันเป็นภัยอันตรายแก่เรา แต่หากเราเปลี่ยนความคิดว่ามันเป็นการท้าทาย ที่เราได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ หรือทดสอบศักยภาพของเรา เช่น ลองเล่นรถไฟเหาะ ลองขับรถ ล่องแก่ง รวมถึงการออกกำลังกาย ก็เรียกยูสเตรทได้เหมือนกัน
3. พบเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ
ประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นก้าวแรกที่เข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นชินหรือเราไม่เคยปฏิบัติสิ่งนี้มาก่อน ซึ่งแน่นอนว่า มันสร้างความตื่นเต้น ส่งผลดีในการเติมเต็มแรงบันดาลใจและประสบการณ์ในการเผชิญสิ่งนี้ในครั้งต่อไป เช่น การออกเดทครั้งแรก การไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก การทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงมากขึ้น เป็นต้น
[ การตอบสนองต่อ Eustress ]
การรับรู้ถึงความเครียดแบบยูสเตรทถือว่า ช่วยให้คุณระบุและประเมินความเครียดในแต่ละวันได้ เพียงแค่พยายามมองว่า ในสถานการณ์ตรงหน้านั้น เป็นความท้าทายมากกว่าภัยอันตราย ซึ่งต้องพัฒนาการตอบสนองความเครียด ดังต่อไปนี้
1. การพูดให้กำลังใจตัวเอง
หากความเครียดกำลังบั่นทอนจิตใจและร่างกายคุณอยู่ การพูดปลอบโยนตัวเอง ถือว่าเป็นสิ่งเราควรจะได้รับอย่างมาก โดยคุณอาจจะหาสิ่งที่คุณทำสำเร็จหรืออย่างน้อยมันได้คืบหน้าแล้ว เช่นวันนี้งานคืบหน้าไปมากหรือการได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ถึงแม้จะหลงสายรถเมล์ เป็นต้น แม้มันจะสำเร็จหรือไม่ ก็สามารถนำมาปลอบโยนตัวเองว่า อย่างน้อยคุณวันนี้คุณก็ได้ทำสิ่งนั้นแล้ว
2. มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ควบคุมได้
ในยุคปัจจุบันที่สื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลกับเรา เรามักจะมองข้ามสิ่งที่อยู่รอบตัวเราอยู่เสมอ จนลืมไปว่า สิ่งที่อยู่รอบตัวเรานั้นสามารถต่อยอดและพัฒนาตัวเราได้ ซึ่งหากเรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เราควบคุมได้ มันจะสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้กับเราได้ง่ายขึ้น
3. ปรับกรอบความคิด
Kelly McGonigal (เคลลี่ แม็คโกนิกาล) นักจิตวิทยาด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้เปิดเผยใน Ted Talk ว่า การมองความเครียดเป็นสิ่งที่แย่เป็นความคิดที่ผิดพลาดมาก และเธอได้ศึกษาว่า การที่เชื่อว่าความเครียดเป็นความทุกข์นั้น ส่งผลลัพท์กับผู้คนเป็นอย่างมากด้วย
เธอจึงแนะนำว่า ต้องพัฒนากรอบความคิด โดยการยอมรับและมองความเครียดนั้นเป็นประโยชน์ ก็จะสามารถรับมือกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าแทนที่จะกลัวมัน แม้หลังจากนั้น จะส่งผลอะไรต่อคุณบ้าง แต่อย่างน้อย มันก็เป็นประโยชน์ในอนาคตที่จะพัฒนาทักษะความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงได้
บทความนี้ ไม่ได้ต้องการเปลี่ยนนิยามความเครียดแต่อย่างใด ถึงยูสเตรท จะเป็นความเครียดที่ดีก็ตาม แต่ถ้ามันอยู่กับเราไปนานๆ ก็สามารถเป็นความทุกข์ได้ และความท้าทายหากไม่ได้ปฏิบัติกับมันอย่างปลอดภัย ก็จะกลายเป็นภัยอันตรายได้เหมือนกัน
โดยเราแค่อยากให้ทุกคนมองว่า ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต หากไม่มีความเครียด ชีวิตเราก็อาจจะเหี่ยวเฉาและไม่มีสิ่งกระตุ้นให้เราบรรลุความสำเร็จได้
“ฉะนั้น จงรับมือและฝึกฝนในการจัดการกับความเครียดดีกว่ามานั่งวิตกและปล่อยให้ค้างเติ่งไปงั้นๆ ”
Writer By Purin Ausawateerageat
Resources:
https://bit.ly/3t79QaC
https://bit.ly/457GIgE
พัฒนาตัวเอง
จิตวิทยา
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย