Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นักลงพุง
•
ติดตาม
23 พ.ย. 2023 เวลา 11:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอนที่ 12: เล่นกับไฟ
เมื่อตอนก่อนผมได้กล่าวไปบ้างแล้วว่า การปฏิบัติธรรมในค่ายลูกเสือช่วยสัปดาห์แรกนั้นเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัส แต่พอเข้าช่วง 7 วันสุดท้าย มันกลับกลายเป็นไปด้วยดีแฮะ ไม่ว่าจะนั่งสมาธิได้นานขึ้น เดินจงกรมก็มีสติอยู่กับตัวตลอด พอเผลอไปนิดนึงก็ตามกลับมาได้ทัน มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ แต่ผมก็ยังเกลียดการนั่งสมาธิตอนเช้าอยู่ดี 555
ในช่วงการนั่งสมาธิตอนกลางวันและช่วงบ่าย พระอาจารย์จักรีก็จะเปิดบันทึกการบรรยายธรรม ของท่านพระอาจารย์พุทธทาส เกี่ยวกับเรื่องอานาปานสตินี่แหละ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ก็จะตรงกับหนังสือ ที่ผมได้มีโอกาสอ่านตอนที่ยังอยู่วัดนครศรีธรรมราช
อาจารย์พุทธทาสท่านก็จะให้เรามีสติติดตามลมหายใจของเราไป จากเข้าจมูกไปจนถึงท้องน้อย แถมท่านยังบอกอีกว่าถ้าเราลืมตามแง้มขึ้นมานิดหน่อย ไม่ต้องปิดสนิทร้อยเปอร์เซ็นต์ สมาธิจะแนบแน่นมากกว่าหลับตาเสียอีก ช่วงแรกๆ ก็ยากอยู่ แต่พอสัปดาห์สุดท้ายผมเริ่มทำได้คล่องเลยล่ะครับ จนมีอยู่คืนนึง
คืนวันนั้นเราไม่ได้ทำวัตรเย็นกันที่ศาลา แต่เราทำกันตรงลานทรายนั้นเลย ยุงเยอะมากๆ จะตบก็ไม่ได้ เพราะชีวิตนักบวชเราจะไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่น แต่ก็เป็นอะไรที่น่าแปลก พอเลยสัก 2 ทุ่มไปแล้ว ยุงจำนวนมากที่เคยมี กลับหายไปหมดอย่างน่าพิศวง อาจจะเป็นเพราะเนื่องจากอยู่ในป่า อากาศกลางคืนเลยค่อนข้างเย็น อันนี้ผมเดานะ
แต่ก็นั่นแหละ พอยุงเริ่มหายไป ใจเราก็สามารถจดจ่อกับลมหายใจได้มากขึ้น พระอาจารย์ก็จะเล่าประสบการณ์การไปเดินธุดงค์ให้พระทั้งหลายฟัง ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนต่างใจจดใจจ่อรอทุกคือ เพราะพระอาจารย์เล่าสนุกมากๆ
ผมก็ฟังพระอาจารย์ไป ในใจผมก็จดจ่ออยู่ที่ลมควบคู่กันโดยไม่ได้หลับตาตามที่ท่านพุทธทาสบอก จากจมูกไปถึงท้องน้อย จากท้องนอกออกมายังจมูก ตามอย่างนี้วนเป็นลูปไปเรื่อยๆ สักพักผมเริ่มเห็นลมหายใจของผม เป็นแสงสว่างสีขาวจางๆ ไล่เรียงจากปลายจมูกไปจดที่ช่องท้องน้อย
ลักษณะการเห็นนี้ ผมไม่ได้เห็นด้วยตานะครับ แต่มันจะรับรู้อยู่ในใจ เหมือนกับเวลาที่เราหลับตา แล้วนึกถึงหน้าคนที่เรารัก เราจะมองเห็นองค์ประกอบของหน้าเขา แม้อาจจะไม่ชัดเจนนัก แต่คุณก็จะรู้ด้วยตัวคุณเองว่า นี่แหละคือหน้าเขาล่ะ ซึ่งลักษณะการเห็นของผม ก็จะเป็นไปด้วยอาการดั่งกล่าวที่ว่ามา นัยตาก็เห็นพระอาจารย์กับแสงเทียน ส่วนในใจก็เห็นเส้นลมหายใจควบคู่กันไป
ตอนนี้ผมยังคงได้ยินเสียงพระอาจารย์อยู่ แต่ใจมันไม่ได้ไปจับใจความแล้ว ว่าท่านกำลังพูดมีเนื้อหาอย่างไร ในใจตอนนี้มันเล่นกับลมอยู่ ยิ่งจดจ่อมันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนมันไปสุดที่ว่า ผมเห็นเส้นทางลมหายใจของผม มีรูปทรงคล้ายๆ กับไม้เท้าของคนแก่ ซึ่งมันจะสูงตรงมาจากด้านล่าง พอด้านบนมันจะโค้งงอหักหัวลง จะต่างกันก็แค่เพียงมันไม่ได้ทำมาจากไม้ แต่มันสว่างจ้าในใจเหมือนมันทำมาจากหลอดไฟนีออนอย่างไรอย่างนั้น
ณ เวลานั้น ผมรู้ได้ทันที ว่าสิ่งที่ผมเห็นอยู่นี้ เขาเรียกว่า "นิมิต"
ในบทบรรยายของท่านอาจารย์ จะมีอยู่ช่วงนึงที่ท่านบอกว่า เมื่อเราตามลมหายใจไประดับนึง ลมหายใจเราจะสว่างขึ้นมาเป็นลำดับ พอมันสว่างคงทีแล้ว จากนั้นเราจะใช้จิตใจของเรา บังคับให้มันเป็นรูปร่างอย่างไรก็ได้ โดยตอนหนุ่มๆ พระอาจารย์พุทธทาสท่านจะสร้าง นิมิต ของท่าน ให้กลายเป็นปลากัด เพราะท่านชอบหนักหนาตอนที่ยังเป็นโยม ส่วนผมเหรอ จะปั้นลมหายใจผมเป็นอะไรดีวะ
สักพักตาผมก็ไปสะดุดอยู่กับแสงเทียนที่ถูกจุดอยู่ข้างๆ พระอาจารย์จักรี ใจผมจับไปที่ไฟทันที ทันใดนั้น ไม้เท้าแห่งลมหายใจ ก็เป็นไปเป็นลูกเพลิงลูกเล็กๆ 🔥
โหยยยย โคตรคูลลลลลล 😳
ตอนนี้ผมไม่ได้ฟังพระอาจารย์อีกแล้ว ผมหลุดเข้ามาอยู่ในมัลติเวิร์ส จักรวาลแห่งลมหายใจอย่างเต็มตัว พอผมเริ่มมันบังคับมันได้ ผมก็ใช้ใจบังคับให้มันกลายเป็นเพลิงสีเขียว เหมือนตอนเด็กๆ ที่เคยเอาลวดทองแดงมาเผาไฟ แล้วมันก็กลายเป็นสีเขียวในบัดดล
ยังๆ ผมยังไม่พอหรอก เปลี่ยนสีได้แล้ว มาดูสิว่าเราจะเปลี่ยนรูปทรงมันได้มั้ย ผมลองเปลี่ยนให้มันเป็นทรงลูกบาศก์ มันก็เป็น พอผมนึกว่าอยากได้ทรงกลม มันก็กลมดังใจ แต่มันยังง่ายไป เปลี่ยนเป็นทรงพีระมิดแม่งเลย ทันใดนั้น เพลิงแห่งมหาพีระมิด ก็ลุกโชติช่วงในจิตใจของผมทันที
สนุกจริงๆ อ่ะ มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ เลยนะ พอเราบังคับจิตใจให้เป็นอะไรได้ทุกอย่าง มันรู้สึกว่าแม้แต่โลกเราก็เปลี่ยนได้ มันได้ฟีลแบบนั้นเลย
ในโลกข้างนอกพระอาจารย์บอกเลิกทำวัตร และปล่อยให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนได้แล้ว แต่ผมยังคงนั่ง "เล่นกับไฟ" ไม่ไปไหนเลย แต่ก็ดีที่ไม่มีใครมาสะกิดให้ผมลุก ผมเลยได้เพลิดเพลินกับมันได้เต็มที่ ผมก็สั่งให้พีระมิดมันขยายใหญ่จนเลยหัวผมไป
อนิจจา หลวงพี่สรวิชญ์แกดับเทียนที่อยู่ข้างหน้า พีระมิดไฟแห่งกีซ่า มันไร้ซึ่งเชื้อเพลิงที่จะเผาตัวมันเองได้อีกแล้ว พอใจผมไปจดจ่อที่ดวงไฟที่ถูกดับ พีระมิดของผมก็พลอยดับตามไปด้วย เสียดายนิดหน่อย แต่อร่อยในดวงจิตเหลือเกิน และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นกับนิมิต หลังจากนั้นก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกเลย 5555
แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมา 11 ปีแล้ว ผมยังคงจดจำความรู้สึกนั้นได้อยู่เลยนะ พีระมิดเป็นแบบไหน ไฟเป็นยัง มันยังคงรู้สึกอยู่ในนั้น แม้จะไม่ได้เห็นเป็นนิมิตในสมาธิแล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมเลยล่ะครับ
ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมจนจบนะครับ แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้านะ
สวัสดี
เรื่องเล่า
พุทธศาสนา
นิยาย
1 บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ชนจิตฺโต
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย