“The father of the Great Heathen Army, Husband to a mythical warrior queen, King of Sweden and Denmark and the scourge of Anglo-Saxon England“ บลา บลา บลา
เอ้อ ไหนลองเอาหมวกจากฝ่ายเสื้อผ้ากองละครมา ใส่เขาสัตว์เพิ่มให้มันดิบเถื่อนกว่าเดิมดูซิ เฮ้ยแกรรร มันได้ว่ะ งานนี้รางวัลคอสตูมยอดเยี่ยมแห่งเวที Tony Award, Oscar, Red Carpet ทุกงานต้องกวาดเรียบจนกลายมาเป็นคำติดปากและติดหูติดตาทั่นผู้ชมจนทุกวันนี้แหละ โดยเฉพาะอังกฤษกับฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 8-11 ได้ถึงกับหน้าเงิบกันไปหลายยก จนบรรดานักเขียนนักประวัติศาสตร์ทั้งหลายเรียกยุคนั้นว่า The Age of Vikings อ่ะเฟี้ยวมั้ยล่ะ
ยกตัวอย่างในปีค.ศ. 1066 ขุนนางบุญหนักศักดิ์ใหญ่ชื่อ William, Duke of Normandy
ถูกส่งตัวมาจากเมืองทางเหนือของฝรั่งเศสเพื่อมาสู้รบตบแปะกับอังกฤษจนยึดอำนาจทั้งหมดมาครองได้ แล้วตั้งตนเองให้เป็นกษัตริย์อังกฤษในชื่อใหม่ไฉไลกว่าเดิมว่า King William The Conqueror หรือชื่อไทยว่าพระเจ้าวิลเลี่ยมผู้พิชิต (วิชาประวัติศาสตร์ 102 คราวนี้ครูเพ็ญแขมาสอนให้เราหลับ)
จากนั้นเหตุการณ์ที่พระเจ้าวิลเลี่ยมผู้พิชิตนี้มายึดอังกฤษ ลากยาวถึงสงครามต่อมาในรุ่นหลานเหลนขององค์พ่อก็เริ่มปะทุขึ้นจนเกิดเป็นสงครามร้อยปี A Hundred Years War เมื่อช่วงค.ศ. 1337 - 1453 (โอยปวดกบาลกับตัวเลข) ซึ่งจะขอเม้าใน EP ต่อไป มาเมื่อไหร่แล้วแต่เวลาและถ้าอารมณ์ดี และโยงใยไปถึงวีรสตรี-นักบุญอีกท่านที่ฮิปโปไหว้สาด้วยความเคารพส่วนตัว Jehanne d’Arc (Anglitized ว่า Joan of Arc, Thailandized ว่า โจน ออฟ อาร์ค)
เหตุการณ์นี้เรียกว่า The Seige of Paris นะ ใครว่าง ไม่มีอะไรทำ อยากเพิ่มเซลล์สมองอีก 82,000 เซลล์เชิญไปหาอ่านเพิ่มกันได้ตามลิ้งค์ด้านบน สนุกและได้ความว้าวมากๆ
ก็ต้องขอแจ้งคุณครูด้วยความเคารพนะคะว่ามันมีหลักฐานการค้นพบซากเรือ เหรียญตรา รวมถึงดาบของชาวนอร์สที่จมโคลนมากว่าพันปีที่แคนาดาค่ะครู เดี๋ยวถ้า Ep นี้มีคนอ่านจบเกินสามคนจะมาทำตำนาน spin off ของไวกิ้งส์ท่านอื่นเพิ่มนะ