19 พ.ค. เวลา 12:00 • หนังสือ

EP3. สัมภาษณ์รอบสุดท้าย“สวยก็เป็นเรื่องนึง แต่สติเป็นเรื่องที่หนึ่ง”

“ไม่ใช่คนที่ตอบสวยที่สุดจะได้งาน
แต่เป็นคนที่ ‘กรรมการเห็นภาพว่า…ถ้าเกิดเรื่องขึ้นบนเครื่อง คุณคือคนที่จัดการได้’”
จากวันแรกที่วิ่งลากส้น (รองเท้าไม่ใช่ปาก) กลางสวนสิริกิติ์
ฝ่าฝูงชะนีหรู ลูกคุณหนูเนี้ยบ พร้อมแรงบันดาลใจและเหงื่อหนึ่งลิตรถ้วน
ฉันก็กระเตงร่างอันบอบช้ำ เข้าสู่สนามด่านสุดท้าย —
Final Interview ณ สนามบินดอนเมือง
พูดตรง ๆ…
รอบนี้คือรอบที่ทำให้หลายคน กลับบ้านแบบสงสัยในตัวเองเป็นเดือน ว่าคำตอบไหนไม่ถูกใจ ระคายหูกรรมการ วนลูปไปมา เพราะมันไม่ได้วัดแค่ความเก่ง
แต่มันวัดว่า คุณ “ใช่” มั้ย กับอาชีพที่ต้องดูแลชีวิตคนอื่นบนความสูง 40,000 ฟุต
วันนั้น...ฉันไม่ได้ลากกระเป๋าขึ้นเครื่อง แต่ลากรองพื้นเข้าห้องสัมภาษณ์ (หนาสุด)
ผู้สมัครเหลือไม่ถึง 20 คน
แต่ละคนแต่งเรียบหรู ดูแพงแบบมีงบ
บรรยากาศเงียบมากจนได้ยินเสียงรองพื้นสั่น (แกร๊ก)
การเดินเข้าห้อง = นับแต้มตั้งแต่นาทีนั้น
ในห้องมีกรรมการ 3 คน
คนขวา : สดใสเป็นกันเองลุคพี่สาวในฝัน
คนกลาง : บรรยากาศมาคุพร้อมรอยยิ้มที่บอกว่า “ฉันกำลังดูเธอแบบ frame by frame อยู่ค่ะ”
คนซ้าย : พี่ลูกเรือที่อยู่บนบิลบอร์ดบนถนนวิภาวดี (น่ารักทั้งภายนอกและภายใน)
Step 1 :เข้าห้องแบบเนียนๆยังไงให้ไม่ดู “ลุกลี้ลุกลนเหมือนกำลังจะโดนเชือด”
ก่อนเข้าห้อง ต้อง “เคาะเบาๆ 2 ที”
แล้ว เปิดประตูเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม่ให้ตัวเองลื่น
เดินเข้าไป ยิ้มแบบไม่ปลอม แต่ก็ไม่เวอร์
เพราะแอร์ที่ยิ้มทั้งวันแบบไม่หยุดพักมีอยู่จริง...แต่เขาเรียกว่า “ป้ายโฆษณา” แถว ถนนวิภาวดี (ไม่รู้ปัจจุบันเอาลงหรือยัง)
Step 2: ทักกรรมการแบบไม่หงอ ไม่ห้าว
“สวัสดีค่ะ...ชื่อ...นะคะ”
น้ำเสียงกลาง ๆไม่เอียงซ้าย ไม่เอียงขวา และที่สำคัญ...ไม่เอียงปาก เหมือนทำหน้าหวานใส่กล้องโพลารอยด์ และทักทายพอสังเขป อย่าแอ๊บอินางเอ้ย
Step 3: คำถามแรกที่เจอ แต่ละคนไม่ซ้ำกัน
“ถ้าติดเกาะ แล้วมีของให้เลือก 3 อย่าง ได้แก่: ไฟฉาย, กระจก, ผ้าใบ — จะเลือกอะไร?”
เอาดีๆ
นี่สัมภาษณ์แอร์หรือคัดลูกทีม The Hunger Games?
ชะนีหายใจเข้าลึกๆ
คิดเร็วแบบ AI ในร่างสาวบางซื่อ
แล้วตอบชัดว่า...
"เลือกกระจกกับผ้าใบค่ะ เพราะกระจกใช้สะท้อนแสงขอความช่วยเหลือได้
ส่วนผ้าใบสามารถรองน้ำฝนดื่ม หรือใช้เป็นที่กันแดดได้ในระยะยาว
ไฟฉายอาจหมดถ่านได้ค่ะ เลยขอตัดออก”
กรรมการไม่พูดอะไร
แต่พี่คนข้าง ๆ ทำตาโตแบบ “อิ๊—เอ็งเตรียมตัวมาจริง!”
ชะนีมัมแอบกระซิบในใจ…“แม่ศึกษาเวบไซต์มาเด้อ!”
--- สิ่งที่ต้อง “เตรียมตัวไว้ก่อนวันสัมภาษณ์”---
เข้าเว็บไซต์สายการบินทุกหน้า ทั้ง mission / service standard / fleet
อ่านสัมภาษณ์ลูกเรือเก่า ๆ (ห้ามท่องมาเด็ดขาด-อ่านให้เข้าใจ)
ซ้อมตอบคำถามกับกระจก
และที่สำคัญ…ซ้อม “ควบคุมสติ” ตอนที่เจอคำถามที่ไม่ซ้อมไว้
เพราะของจริงบนเครื่อง…ไม่มีสคริปต์ให้ท่อง “ต้องพร้อมทุกวัน” จริง ๆ
Step 4: Group Interview = สนามโชว์ร่างที่แท้ทรู
หัวข้อที่ได้คือ
“ถ้าไฟลต์ดีเลย์ 6 ชั่วโมง ผู้โดยสารเริ่มโวยวาย คุณจะทำยังไง?”
เพื่อน 4K จากสวนเบญที่นั่งข้างๆ พูดคล่องจนนึกว่าเป็นครูฝึก (ท่องมาละสิ..รู้นะ)
บางคนรีบพูด บางคนแก้ปัญหาแบบละครเย็น (ยาวมากกก..กันซีนเพื่อนสุด)
น้องสายคุณหนูอีกคนเสนอ idea จัดกิจกรรมร้องเพลงให้ผู้โดยสาร (ทุ่งลาเวนเดอร์ต้องเข้า)
ตอนนั้นคือพูดน้อย รอให้เพื่อนพูดให้เกือบครบ
แบบ “ไม่รีบ” แต่พูดแค่สั้น ๆ แบบสบายๆ เหมือนไม่เครียด
(เอาจริงๆคือโหยหวนภายใน) ว่า
“รับฟังเขาผู้โดยสารก่อน ไม่ตอบโต้ทันที
และอธิบายสถานการณ์ตามจริงด้วยน้ำเสียงนิ่ง ไม่ลน
เพราะถ้าเราคุมอารมณ์ได้…เราจะคุมสถานการณ์ได้ค่ะ”
พูดจบ ไม่มีใครปรบมือเหมือนรายการ Survivor
แต่ทั้งกรรมการและเพื่อนในกลุ่ม...พยักหน้าเบา ๆ
จำได้ว่ามองเพื่อนร่วมกลุ่มก่อน แล้ว “ยิ้ม” แบบเชื่อว่า “เราทีมเดียวกันและจะผ่านไปด้วยกัน”
เพราะแอร์ที่รอด คือคนที่ช่วยทีมให้รอด ไม่ใช่คนเด่นที่สุดในห้อง
(แลดูดี..แต่ในใจกรี๊ดร้อง)
กรรมการพยักหน้าเบา ๆ (อิชั้นเห็นนะคะ!)
หลังจากนั้นก็กลับบ้าน รอฟังผลอีก 2 อาทิตย์
TIPS : น้องๆที่เดินตามทางนี้
สิ่งที่กรรมการ “มองเงียบ ๆ” แต่ไม่พูด
ท่าทางตอนนั่ง ยืน เดินเข้าห้อง
มีรอยยิ้มระหว่างฟังหรือเปล่า? หรือหน้านิ่งตลอด
ท่าทีตอนคนอื่นพูด? คุณฟังจริงหรือแค่รอพูด
เสียงมั่นใจแค่ไหน? ไม่ต้องดัง แต่ต้องนิ่ง
แววตาเวลาตอบ — มั่นใจหรือสั่น
สายตานี้สำคัญมาก* มั่นใจ แต่ไม่กร้าว ถ่อมตัวแต่ไม่อ่อนแอ
(นี่ คือสิ่งที่สายการบินเบอร์กันดีตัดสินผู้สมัครใน 1 วินาที ตอนยื่น-เอาไว้เล่าบรรยากาศ ให้ฟังแค่นึกถึงก็วาบหลัง...)
“อาชีพแอร์ไม่ได้หาคนพูดเก่งที่สุด
แต่หาคนที่ ‘ใจเย็นได้เร็วที่สุด’ ตอนสถานการณ์ไม่ปกติ
และรู้ว่าต้องทำให้ผู้โดยสาร ‘รู้สึกปลอดภัย’ แม้ตัวเองจะยังไม่แน่ใจเลยก็ตาม”
ขอให้โชคดีในเส้นทางที่เลือก และเป็นกำลังใจให้นะคะ
#แอร์โดฮาเล่าเอาเรื่อง
#ชีวิตจริงของตัวมัมบนฟ้า
EP.4 ลูกเรือไม่ใช่นางแบบ…แต่คือคนที่เทรนให้"แบก"ความปลอดภัยไว้หลังม่าน
ถ้าชอบกดไลค์ให้รัว และกดติดตามให้ไว
เพื่อเป็นกำลังใจจะได้มีแรง..แอบลูกมาเล่าต่อ ❤️”
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ 🙏
โฆษณา