Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ
•
ติดตาม
22 พ.ค. เวลา 03:26 • หนังสือ
The Alchemist ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน ว่าด้วยบทบาทของโชคชะตาและการตัดสินใจ
“เมื่อคุณปรารถนาสิ่งใดอย่างแรงกล้า ทั้งจักรวาลจะร่วมมือช่วยให้คุณได้สิ่งนั้น” นิยาย The Alchemist ของ Paulo Coelho ไม่ใช่แค่นิยายผจญภัย แต่คือบทเรียนชีวิตที่ว่าด้วย “การตามหาความฝัน” ผ่านตัวละครเอกอย่าง ซานติอาโก เด็กหนุ่มเลี้ยงแกะชาวสเปนผู้ละทิ้งชีวิตที่เรียบง่าย เพื่อออกเดินทางตามหาขุมทรัพย์ที่ปรากฏในความฝัน
คำถามคือการเดินทางครั้งนั้นเป็นเพราะ “โชคชะตา” ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว หรือเป็นผลจาก “การตัดสินใจ” ที่เขาเลือกจะลงมือทำ?
คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ซานติอาโกเริ่มฝันถึงขุมทรัพย์ที่ถูกฝังอยู่ใกล้พีระมิดในอียิปต์หลายๆครั้ง ทำให้เขาเกิดความสงสัยว่า ความฝันนี้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน หรือมีความหมายมากกว่าที่คิด และนี่คิดจุดเริ่มต้นของ “Personal Legend” หรือ “พรหมลิขิตส่วนตัว” ของเขา
“Personal Legend” หรือ “พรหมลิขิตส่วนตัว” ซึ่งคือจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตของแต่ละคน เป็นสิ่งที่จักรวาลกำหนดไว้ให้แต่แรก เป็นเปลวไฟที่ซ่อนอยู่ในหัวใจเรา นี่คือแนวคิดของ “โชคชะตา” แบบที่ Paulo Coelho นำเสนอไม่ใช่สิ่งที่เราต้องยอมรับ อย่างหมดหนทาง แต่คือเสียงกระซิบที่รอให้เรากล้าที่จะฟังและเดินตาม
ซานติอาโกไม่ได้รู้เส้นทางทั้งหมดล่วงหน้า เขาเพียง “รู้สึก” ว่าต้องเดินทาง ความฝัน การพบคนแปลกหน้า การเจออุปสรรค และการถูกทดสอบ คือเครื่องมือของโชคชะตาที่ส่งสัญญาณเตือนว่าเขาอยู่ถูกทางหรือไม่
แม้จะมีสัญญาณจากโชคชะตา แต่ The Alchemist ก็ไม่ได้วาดภาพว่าทุกอย่างจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ การเดินทางของซานติอาโกเต็มไปด้วยบททดสอบ และในทุกช่วงเวลาเขาต้อง “เลือก” เสมอ
ตอนเริ่มเดินทาง เขาต้องตัดสินใจที่จะขายฝูงแกะทั้งหมด เพื่อเริ่มเดินทางไปยังแอฟริกา โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรรอเขาอยู่ข้างหน้า เมื่อเดินทางมายังประเทศใหม่ เขาก็ถูกชายคนหนึ่งโกงเงิน ซานติอาโกก็ได้ทำงานที่ร้านขายผลึกที่เมืองนั้น เพื่อเริ่มต้นตั้งตัวใหม่อีกครั้ง
มีหลายครั้งที่ซานติอาโกคิดที่จะยอมแพ้แล้วกลับบ้าน แต่แรงใจของเขาก็ผลักดันให้เดินทางต่อ เมื่อเดินทางไปทะเลทราย จนถึงโอเอซิส เขาได้พบรักกับหญิงชาวโอเอซิสที่ชื่อว่า ฟาติมา ณ จุดนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ซานติอาโกเกิดความลังเลในใจ ว่าเขาจะยุติการเดินทางแล้วอยู่กับหญิงที่เขารักหรือไม่ เพราะเขามีความรู้สึกว่า ฟาติมา คือ "ขุมทรัพย์ของหัวใจ"
แต่ตัวของฟาติมานั้น ได้สนับสนุนการเดินทางของเขา ให้เขาเดินทางตามหา Personal Legend ของตัวเอง เพราะเธอเชื่อว่า "ความรักที่แท้จริงจะไม่รั้งเราไว้จากพรหมลิขิตของเรา" ฟาติมามองว่าสิ่งนี้เปรียบเสมือนบททดสอบความรักของเขาเช่นกัน คำพูดและการยอมรับของฟาติมาทำให้ซานติอาโก ตัดสินใจเดินหน้าต่อ แม้หัวใจจะรู้สึกผูกพันกับเธออย่างลึกซึ้ง และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เขาแสดงให้เห็นว่าเขากล้าที่จะเชื่อในพรหมลิขิตของตัวเอง และไว้วางใจว่าความรักจะรอเขาอยู่เมื่อเขากลับมา
หลังจากเดินทางผ่านทะเลทรายมาจนเกือบถึงพีระมิด ซานติอาโกมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าเขาใกล้จะเจอขุมทรัพย์ตามที่ฝันไว้ เขาขุดลงไปยังพื้นทรายด้วยความมุ่งมั่น แต่ทันใดนั้น เขากลับถูกกลุ่มโจรจับตัว พวกมันเข้าใจผิดว่าซานติอาโกต้องซ่อนบางสิ่งมีค่าจึงขุดลงดิน พวกมันจึง ปล้น และเฆี่ยนตีเขาอย่างหนัก เพื่อบังคับให้สารภาพว่าขุมทรัพย์อยู่ที่ไหนในขณะที่ถูกทำร้าย ซานติอาโกพยายามอธิบายว่าเขาไม่ได้มีอะไรเลย นอกจาก “ความฝัน” ว่าจะเจอขุมทรัพย์ใต้พีระมิด โจรคนหนึ่งหัวเราะเยาะและพูดประมาณว่า:
"แกมันโง่ ฉันเองก็เคยฝันเหมือนกันว่าใต้ต้นไม้ในโบสถ์เก่าในสเปนมีขุมทรัพย์ แต่ฉันไม่โง่พอจะเดินทางข้ามโลกเพราะความฝันแค่นั้น"
ซึ่งประโยคดังกล่าว ไปจุดประกายความคิดของซานติอาโกว่า จริงๆแล้ว ขุมทรัพย์ที่เขาเดินทางข้ามประเทศ ผ่านทะเลทรายมาตั้งไกล แท้จริงอยู่ที่โบสถ์เก่าในสเปน บ้านเกิดของเขา ที่ที่เขานอนฝันถึงขุมทรัพย์เป็นครั้งแรก
แม้เขาจะเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถูกปล้น และเจ็บปวดทางกาย แต่เขาไม่เสียศรัทธาในสิ่งที่หัวใจของเขานำทาง เขาไม่ยอมแพ้ และไม่สาปแช่งโชคชะตา ตรงกันข้าม เขา ใช้เหตุการณ์นั้นเป็นเบาะแสสุดท้าย ที่ไขปริศนาแห่งการเดินทางทั้งหมด
หากมองเผินๆ อาจจะมองว่าการเดินทางทั้งหมดนี้เสียมากกว่าได้ แต่หากซานติอาโกไม่ "ตัดสินใจ" ที่จะออกเดินทาง เขาอาจะเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตลอดชีวิตก็ได้ เขาอาจจะไม่ได้พบเจอผู้คนใหม่ๆ ไม่ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับโลกนี้ และเขาอาจจะไม่ได้พบเจอกับ "ขุมทรัพย์ของหัวใจ" ของเขา ณ โอเอซิสก็ได้
The Alchemist ชี้ให้เห็นว่า “โชคชะตา” คือโอกาส และ “การตัดสินใจ” คือพลังที่เปลี่ยนโอกาสนั้นให้กลายเป็นความจริง Paulo Coelho ไม่ได้สอนให้เรารอให้โชคดีตกใส่ แต่สอนให้ “กล้าเลือก” แม้จะไม่แน่ใจ สอนให้เชื่อในเสียงหัวใจแม้โลกจะค้าน และย้ำว่า เมื่อเรากล้าเดินตามฝันอย่างแท้จริง โลกทั้งใบจะช่วยพาเราไปถึง
“โชคชะตาอาจเรียกเรา เราคือตัวแปร และหน้าที่เราคือต้องตอบรับเสียงของมัน”
ภาพ : source unknown
หนังสือ
ความรู้รอบตัว
ประวัติศาสตร์
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Reader's Musing บันทึกของนักอ่าน
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย