Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ
•
ติดตาม
22 พ.ค. เวลา 07:24 • หนังสือ
Le Otto Montagne ผู้หยั่งรากแห่งยอดเขากับผู้แสวงหาแห่งแปดขุนเขา
ในโลกของ Le Otto Montagne (แปดขุนเขา) นวนิยายรางวัล Premio Strega ปี 2017 โดย เปาโล คอญเนตติ ผู้อ่านจะได้พบกับเรื่องราวอันเงียบสงบ ทว่าเปี่ยมพลังของมิตรภาพ ความผูกพัน และการแสวงหาความหมายชีวิตผ่านตัวละครสองขั้วที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ปีเอโตร ผู้แสวงหา และ บรูโน ผู้หยั่งราก
นิยายเรื่องนี้ไม่เพียงพาผู้อ่านไต่ขึ้นไปสู่ขุนเขาในเทือกเขาแอลป์ หากยังพาเรากลับเข้ามาภายในใจตนเอง ด้วยคำถามอันเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งว่า “ผู้ที่ไปเยือนภูเขาทั้งแปด จะรู้จักยอดเขาเดียวได้เท่ากับผู้ที่อยู่กับมันตลอดชีวิตหรือไม่?”
คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ บรูโน เขาเกิดและเติบโตในหมู่บ้านกรานา (Grana) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา ชีวิตของเขาผูกพันกับภูเขาลูกนั้นอย่างแยกไม่ออก เขารู้จักทุกซอกทุกมุม ทุกเสียงของสายลม กลิ่นของดิน และการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ภูเขาไม่ใช่เพียงแค่บ้าน แต่เป็นส่วนหนึ่งของตัวตนเขา บรูโนเลือกที่จะสืบทอดวิถีชีวิตดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ทำงานหนักด้วยสองมือ ยึดมั่นในสิ่งที่เขารู้จักและคุ้นเคย นั่นคือการเป็นคนเลี้ยงวัวบนภูเขาสูง
ยอดเขาสำหรับบรูโนนั้นคือโลกทั้งใบของเขา คือความสุข ความสบายใจ ความมั่นคง รวมถึงชะตากรรมที่เขายอมรับ เขาโอบกอดความเกรี้ยวกราดและความอ่อนโยนของธรรมชาติ แม้ว่านั่นจะหมายถึงความโดดเดี่ยวและความยากลำบากก็ตาม เขามองเห็นคุณค่าในความเรียบง่ายและความมั่นคงที่ผืนดินมอบให้ เขาคือผู้ที่พบ "ยอดเขาสูงสุด" ของตนเองและเลือกที่จะปักหลักอยู่ที่นั่น
เขาคือผู้ที่ “หยั่งราก” อยู่กับธรรมชาติ ไม่ใช่เพราะไม่กล้าก้าวออกไป แต่เพราะเขารู้ว่าสำหรับเขาแล้ว ความหมายของชีวิตไม่ได้อยู่ที่ “ไกลแค่ไหน” แต่อยู่ที่ “ลึกเท่าใด”
ในทางตรงกันข้าม โลกภายนอกหุบเขาแห่งนี้ ปิเอโตร เด็กชายที่เติบโตมาในเมืองมิลาน เป็นลูกชายของครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อของเขาเป็นชายเงียบขรึม ผู้หลงใหลในการปีนเขาอย่างสุดหัวใจ และมักออกเดินทางสู่เทือกเขาแอลป์เสมอ ขณะที่แม่ของปีเอโตรเป็นคนอบอุ่น ใจดี และพยายามถักทอความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ค่อย ๆ แตกแยกด้วยวิธีที่อ่อนโยนที่สุด
ในช่วงวัยเด็ก ปีเอโตรมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นกับพ่อ พ่อเป็นคนเข้มงวด เย็นชา และคาดหวังให้เขารักธรรมชาติและภูเขาเหมือนกัน แต่เด็กชายกลับรู้สึกต่อต้าน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจึงหมกมุ่นกับภูเขามากนัก ทำไมการเดินป่าหลายชั่วโมงจึงมีความหมายมากกว่าการอยู่บ้านกับครอบครัว
เด็กชายจากเมืองมิลานได้มาสัมผัสชีวิตบนภูเขาในช่วงฤดูร้อน และได้พบกับบรูโน มิตรภาพของทั้งสองก่อตัวขึ้นท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มจากความแตกต่าง ปีเอโตรเป็นเด็กเมือง พูดมาก อยากรู้อยากเห็น ส่วนบรูโนเป็นเด็กเงียบ พูดน้อย ชอบทำมากกว่าอธิบาย แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งคู่สามารถเชื่อมโยงกันได้ผ่านความเงียบ ผ่านธรรมชาติ และการใช้เวลาร่วมกันในความเรียบง่ายของภูเขา
ทั้งสองได้เดินบนเส้นทางที่ขนานกัน เมื่อโตขึ้น ปิเอโตรออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทือกเขาหิมาลัยในเนปาล เพื่อค้นหาความหมายของชีวิตและตัวตนของเขา เขาได้รู้จักกับคำสอนของพระภิกษุชาวเนปาลที่ว่า "คนที่ออกเดินทางไปรอบๆ ภูเขาทั้งแปด จะรู้จักยอดเขาเดียวได้ลึกซึ้งเท่ากับคนที่อาศัยอยู่บนยอดเขานั้นเพียงแห่งเดียวหรือไม่?" ปรัชญานี้กลายเป็นสิ่งนำทางชีวิตเขาเชื่อว่าการได้เห็นโลกจากหลายมุมมอง จะทำให้เข้าใจโลกและตัวเองได้มากขึ้น ปิเอโตรออกเดินทางไปตาม "แปดขุนเขา" เพื่อค้นหาสิ่งที่ขาดหายไปในใจ
ขณะที่ปิเอโตรทำงานและออก "แสวงหา" คำตอบในโลกกว้างนั้น บรูโนยังคง "หยั่งราก" อยู่กับภูเขาลูกเดิม ไม่เคยย้ายออกจากหมู่บ้าน นอกจากไปทำงานก่อสร้างบ้างเป็นครั้งคราว แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่กับธรรมชาติ สร้างบ้าน เลี้ยงวัว และพยายามฟื้นฟูฟาร์มของครอบครัว
แม้ทั้งสองใช้ชีวิตคนละแบบ แต่เมื่อกลับมาเจอกัน ก็เหมือน "ต่อบทสนทนาเดิมที่ยังไม่จบ" มิตรภาพของพวกเขาไม่ได้ขาดหายไป มันเปลี่ยนไปตามช่วงวัย และยังลึกซึ้งขึ้นด้วยการยอมรับความต่างของกันและกันมากขึ้น
คนหนึ่งเลือกที่จะหยั่งรากลึกลงไปในผืนดินที่คุ้นเคย อีกคนเลือกที่จะโบยบินไปสำรวจโลกกว้าง แต่มิตรภาพอันแน่นแฟ้นของพวกเขากลับเป็นดั่งเส้นด้ายที่มองไม่เห็น คอยเชื่อมโยงทั้งสองไว้ด้วยกันเสมอ
พ่อของปิเอโตรคือบุคคลสำคัญที่เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างเด็กชายทั้งสอง ความรักที่พ่อมีต่อภูเขาคือมรดกที่ส่งต่อไปยังปิเอโตร และคือสิ่งที่ทำให้เขาได้พบกับบรูโน การที่ปิเอโตรและบรูโนร่วมกันสร้างบ้านบนภูเขาตามความฝันของพ่อปิเอโตรหลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้วนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการสานต่อความทรงจำ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่มิตรภาพของพวกเขาได้ถูกทดสอบและหล่อหลอมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
บ้านหลังนั้นเป็นที่ที่บรูโนกลับมาใช้ชีวิตอย่างเต็มตัว เป็นพื้นที่ปลอดภัยของเขา ส่วนปีเอโตรแม้จะจากไป แต่ก็ยังรู้ว่ามี “ที่แห่งหนึ่ง” ที่เขาเชื่อมโยงกับใครบางคนที่เข้าใจเขาอย่างแท้จริง แม้จะพูดกันน้อยเหลือเกิน
แม้บรูโนจะดูเข้มแข็ง แต่แท้จริงแล้วเขาอ่อนไหวอย่างยิ่ง เขาพยายามอย่างหนักที่จะรักษาครอบครัว ธุรกิจ และชีวิตในหมู่บ้านที่ห่างไกล แต่กลับต้องเจอกับความล้มเหลวซ้ำซ้อน ทั้งการแตกร้าวกับภรรยา ปัญหาเรื่องเงิน และการรู้สึกถูกทิ้งไว้ข้างหลังในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ในที่สุด บรูโนก็เผชิญกับความล้มเหลวทางธุรกิจ โรงฟาร์มที่เขาลงทุนหนักไม่ประสบความสำเร็จ สูญเสียครอบครัว กลายเป็นคนอยู่ลำพัง และถอยลึกเข้าสู่ความเงียบ จนกระทั่งไม่มีใครเข้าไปถึงเขาได้อีก แม้แต่ปีเอโตร เพื่อนรักของเขา
ปิเอโตรได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับหิมะถล่มที่หุบเขาแอลป์อยู่เรื่อยๆ ต่อมาก็ได้รับข่าวร้ายจาก ลอร่า เพื่อนของทั้งสองคน ว่าบรูโนได้หายตัวไป
ปิเอโตรและลอร่าได้พยายามตามหาบรูโน ท่ามกลางกองหิมะสูง 8 เมตร บนหุบเขา ได้มีการขอความช่วยเหลือในการตามหาบรูโนหลายหน แต่สิ่งที่พบกลับเป็นความว่างเปล่า และซากปรักหักพังของบ้านที่ปิเอโตรและบรูโนช่วยกันสร้างขึ้นมา การตายของบรูโนกลายเป็นหมุดหมายสำคัญในชีวิตปีเอโตร เพราะมันทำให้เขาตระหนักว่า การเดินทางทั้งหมดที่เขาเคยทำ ไม่ได้พาเขาไปไกลจากบรูโนเลย มีบางสิ่งที่บรูโนรู้มาตลอด สิ่งที่เขาเองอาจยังไม่เข้าใจทั้งหมดจนถึงวาระสุดท้าย
เขาเข้าใจว่า สิ่งที่บรูโนมีนั้นลึกซึ้ง และมั่นคงกว่าทุกยอดเขาที่เขาเคยไปเยือน เขาอาจไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับภูเขาลูกเดียว แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ปีเอโตรอาจเพิ่งเข้าใจว่า สิ่งสำคัญในชีวิต ไม่ใช่จำนวนของขุนเขาที่เราไต่ขึ้นไป แต่คือการที่เรากลับมารู้คุณค่าของมันในใจเรา
สุดท้ายปิเอโตรได้ตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้ง เขาได้กลายเป็นคนๆ เดียวกับพ่อของเขา ที่เขาเคยไม่เข้าใจในวัยเยาว์ เขาได้เลือกเส้นทางของผู้แสวงหาต่อไป
Le Otto Montagne คือบทกวีแห่งชีวิตของชายสองคนที่รักกันในแบบของเพื่อนแท้ แม้จะไม่เคยเข้าใจกันทั้งหมด และแม้เส้นทางของพวกเขาจะขนานกันตลอดไป แต่ในระยะห่างนั้นกลับมีความผูกพันอันลึกซึ้งซ่อนอยู่
ในท้ายที่สุด ความหมายชีวิตของปีเอโตรและบรูโนไม่ได้อยู่ที่ว่าใครไปไกลกว่ากัน หรือใครหยุดอยู่กับที่ได้นานกว่า แต่อยู่ที่ว่า ทั้งคู่ได้ “ซื่อสัตย์” กับเส้นทางของตนเอง
การตายของบรูโนไม่ใช่การ “หายไป” หากเป็นการ “หยั่งลึก” ลงในภูเขา กลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่เขารักและภักดีต่อมาทั้งชีวิต แม้เขาจะไม่อยู่แล้ว แต่บรูโนยังคงเป็นร่องรอยในหุบเขา เป็นความทรงจำในใจปีเอโตร และเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบในใจผู้อ่าน
“คนที่ออกเดินทางไปรอบๆ แปดขุนเขา จะรู้จักยอดเขาเดียวได้ลึกซึ้งเท่ากับคนที่อาศัยอยู่บนยอดเขานั้นเพียงแห่งเดียวหรือไม่?”
ภาพ : Nicola Magrin
ประวัติศาสตร์
ความรู้รอบตัว
หนังสือ
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Reader's Musing บันทึกของนักอ่าน
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย