1 มิ.ย. เวลา 16:26 • หนังสือ

The Man in the Iron Mask จากตำนานฝาแฝดของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 สู่วรรณกรรม

ในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส มีไม่กี่เรื่องที่ลึกลับและชวนให้จินตนาการถึงได้เท่ากับเรื่องของ ชายในหน้ากากเหล็ก ชายปริศนาผู้ถูกจองจำในยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา เขาถูกปิดหน้าด้วยหน้ากากเหล็ก และไม่มีใครได้ยินแม้แต่เสียงพูดของเขา นี่คือตำนานที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ และในเวลาต่อมา ตำนานนี้ได้กลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับ อเล็กซองเดอร์ ดูมาส์ (Alexandre Dumas) หนึ่งในนักเขียนชาวฝรั่งเศสผู้ยิ่งใหญ่ ผู้หยิบมันมาปรุงแต่งกลายเป็นวรรณกรรมอมตะใน The Man in the Iron Mask
คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ได้มีบันทึกว่า มีชายคนหนึ่งถูกจองจำอย่างลับ ๆ โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ชื่อจริงหรือความผิดของเขา ชายผู้นี้ถูกขังในคุก Pignerol ก่อนจะถูกย้ายไปยัง Exiles และสุดท้ายคือ Bastille
สิ่งที่ทำให้เรื่องของเขากลายเป็นตำนาน คือคำบอกเล่าว่าเขาต้องสวมหน้ากากเหล็กปิดบังใบหน้าไว้ตลอดเวลา บ้างก็ว่าเป็นหน้ากากกำมะหยี่ที่คลุมตลอดศีรษะ แต่เรื่องเล่าขานในเวลาต่อมา โดยเฉพาะจาก Voltaire นักปรัชญาผู้ต่อต้านระบบกษัตริย์ กลับยืนยันว่ามันคือหน้ากากเหล็กจริง ๆ และที่น่าตกใจกว่านั้น Voltaire เชื่อว่าชายผู้นี้คือ ฝาแฝดของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ชายลึกลับคนนี้ปรากฏอยู่ในเอกสารราชการ ว่าถูกคุมขังเป็นเวลานานกว่า 30 ปี โดยไม่เคยเปิดเผยชื่อจริง ก่อนเสียชีวิตในปี 1703 ผู้คุมอย่าง Bénigne Dauvergne de Saint-Mars ได้รับคำสั่งเคร่งครัดให้ปิดบังตัวตนของเขา และในบางบันทึกกล่าวว่าเขาสวมหน้ากากเหล็กอยู่ตลอดเวลา แม้ข้อเท็จจริงบางแห่งจะระบุว่าเป็นกำมะหยี่
อเล็กซองเดอร์ ดูมาส์ ได้นำเรื่องเล่านี้มาสานต่อเป็น The Man in the Iron Mask ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคสามทหารเสือ เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ อารามิส (Aramis) หนึ่งในอดีตทหารเสือ ค้นพบว่าฝาแฝดของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งมีนามว่าฟิลิปป์ (Philippe) ถูกคุมขังโดยคำสั่งของราชสำนัก ด้วยเหตุผลว่าอาจเป็นภัยต่ออำนาจของกษัตริย์
อารามิสวางแผนที่จะปลดปล่อยฟิลิปป์ เพื่อหวังมากจะทำให้ฝรั่งเศสดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยมีเพื่อนเก่าอย่างพอร์ธอส (Porthos) ร่วมด้วย แต่สุดท้ายแผนการก็ล้มเหลว ฟิลิปป์ถูกจับคุมขังพร้อมหน้ากากเหล็กเหมือนเดิม อารามิสและพอร์ธอสก็เผชิญกับชะตากรรมอันขมขื่น เพื่อนของทั้งสองอีกคนหนึ่งอย่าง ดาร์ตาญ็อง (d’Artagnan) ผู้ที่รับมือกับแผนการเพื่อนตนเอง และเป็นผู้รับใช้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยความซื่อสัตย์ ก็พบว่าความจงรักภักดีอาจไม่เพียงพอจะปกป้องความยุติธรรม
นิยายเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นตำนานที่ผ่านปลายปากกาของอเล็กซองเดอร์ ดูมาส์ ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ คำถามทางศีลธรรม และการสะท้อนโครงสร้างอำนาจอย่างแหลมคม
หน้ากากเหล็กในที่นี้ อาจจะไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ของการจองจำ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการลบล้างตัวตนของมนุษย์ เป็นเครื่องมือของรัฐที่ไม่เพียงจำกัดเสรีภาพทางร่างกาย แต่ยังยึดคืนสิทธิในการเป็นใครของบุคคลนั้นไปด้วย
ฟิลิปป์ในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เหยื่อของแผนการทางการเมือง หากเป็นผู้แบกรับน้ำหนักของคำถามสำคัญที่สุดในชีวิต “เราเป็นใครกันแน่ ในเมื่อเราไม่มีชื่อ ไม่มีหน้า และไม่มีสิทธิจะพูด” ในมุมกลับกัน พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่แม้จะมีอำนาจล้นฟ้า กลับกลายเป็นภาพสะท้อนของอัตตาที่เปราะบาง ผู้พร้อมจะทำลายทุกสิ่งเพื่อปกป้องอัตลักษณ์ของตนเอง
ชายในหน้ากากเหล็กอาจจะไม่มีตัวตนจริง หรืออาจเคยมีอยู่จริงแต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ในวรรณกรรมของอเล็กซองเดอร์ ดูมาส์ เขากลายเป็นมากกว่าตำนาน เขาคือตัวแทนของมนุษย์ที่ถูกทำให้ไร้เสียง คือภาพแทนของผู้คนที่สังคมพยายามลืม แต่ไม่มีวันหายไปจากจินตนาการของผู้คน
ภาพ : source unknown
อ้างอิง
Encyclopaedia Britannica บทความที่สรุปเรื่องราวของชายในหน้ากากเหล็กอย่างละเอียด รวมถึงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับชายคนนี้อื่นๆ บทความเป็นภาษาอังกฤษนะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา