2 มิ.ย. เวลา 11:09 • หนังสือ

Sir Walter Scott บิดาแห่งนิยายอิงประวัติศาสตร์

ในโลกของวรรณกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่เสมอ มีนักเขียนเพียงไม่กี่คนที่สามารถพลิกแนวทางการเล่าเรื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในนั้นคือเซอร์ วอลเตอร์ สก็อตต์ (Sir Walter Scott) นักประพันธ์ชาวสก็อตผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งนิยายอิงประวัติศาสตร์” ด้วยผลงานที่ผสมผสานจินตนาการเข้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต เขาได้สร้างแนวทางการเล่าเรื่องรูปแบบใหม่ที่ทั้งให้ความรู้และความบันเทิง พร้อมสร้างรากฐานให้กับวรรณกรรมแนวประวัติศาสตร์ในยุคต่อมา
เซอร์ วอลเตอร์ สก็อตต์ เกิดปี 1771 ที่เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ เขาเติบโตมากับเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานพื้นบ้าน วรรณคดีโบราณ และประวัติศาสตร์สก็อต ทำให้เขามีความหลงใหลเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตตั้งแต่วัยเยาว์ เขาได้ใช้เวลาในการศึกษาวรรณกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งงานเขียนของเชกสเปียร์ โฮเมอร์ และนักประพันธ์ชาวเยอรมันซึ่งกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานของเขาในภายหลัง
เขาเริ่มต้นอาชีพในฐานะนักกฎหมาย แต่เขาโด่งดังครั้งแรกจากการแปลบทกวีและเก็บรวมรวมตำนานพื้นบ้านของสก็อตแลนด์ ผลงานที่สร้างชื่อในระยะแรกคือ The Minstrelsy of the Scottish Border (1802) ซึ่งรวบรวมบทกวีพื้นบ้านของชาวสก็อตอย่างมีเอกลักษณ์ แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดมาถึงในปี 1814 เมื่อเขาตีพิมพ์นวนิยายเรื่องแรกในแนวอิงประวัติศาสตร์ชื่อว่า Waverley
Waverley (1814) เล่าเรื่องราวของนายทหารหนุ่มชาวอังกฤษที่เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์กบฏ Jacobite ในปี 1745 ซึ่งเป็นเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์สก็อตแลนด์ นิยายเรื่องนี้ถือเป็นต้นแบบของ “นิยายอิงประวัติศาสตร์” อย่างแท้จริง เพราะมันแสดงให้เห็นถึงชีวิตและความขัดแย้งของผู้คนในบริบทของเหตุการณ์จริง โดยมีตัวละครสมมติเป็นตัวดำเนินเรื่อง ผลงานนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และทำให้วอลเตอร์ สก็อตต์ กลายเป็นนักเขียนระดับชาติในทันที
จากความสำเร็จของ Waverley เขาได้เขียนนวนิยายในแนวนี้อย่างต่อเนื่อง จนถูกเรียกรวมกันว่า Waverley Novels ซึ่งประกอบด้วยผลงานสำคัญ อย่างเช่น Rob Roy เรื่องราวของโรบินฮู้ดแห่งสก็อตแลนด์ หรือ Ivanhoe ที่เป็นเรื่องราวชีวิตของเซอร์วิลเฟรดแห่งไอแวนโฮ อัศวินแซ็กซอนในจินตนาการ มีฉากหลังเป็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่ชาวแซ็กซอนและนอร์มันกำลังต่อสู้กันในยุคกลางของอังกฤษ
แม้เขาจะเป็นชาวสก็อต แต่หนึ่งในผลงานที่โด่งดังที่สุดของเขากลับเป็นนิยายที่มีฉากหลังอยู่ในอังกฤษยุคกลาง คือ Ivanhoe (1820) ซึ่งกล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างชาวแซกซอนกับนอร์มันในช่วงศตวรรษที่ 12 โดยมีตัวละครอิงจากบุคคลในตำนาน เช่น โรบินฮู้ด และริชาร์ดใจสิงห์ นี่คือผลงานที่ช่วยฟื้นคืนความสนใจในยุคกลางของยุโรป และยังสร้างภาพจำของ “อัศวิน” แบบในนิยายแฟนตาซีหลายเรื่องในเวลาต่อมา
เซอร์ วอลเตอร์ สก็อตต์ ไม่เพียงสร้างนิยายที่มีฉากหลังเป็นเหตุการณ์ในอดีต แต่เขาคือผู้ที่มอบชีวิตให้กับประวัติศาสตร์ผ่านตัวละครและสถานการณ์ที่สมจริง เขาเสนอภาพของคนธรรมดาในช่วงเวลาสำคัญ ไม่ใช่แค่กษัตริย์หรือแม่ทัพ แต่รวมถึงชาวบ้าน ทหาร และสตรีผู้มีชีวิตในเงามืดของเหตุการณ์ใหญ่นั้นๆ
นอกจากนี้ เขายังมีอิทธิพลต่อวรรณกรรมยุโรปและทั่วโลก นักเขียนอย่าง Victor Hugo , Alexandre Dumas , James Fenimore Cooper และแม้แต่ Leo Tolstoy ต่างได้รับแรงบันดาลใจจากงานของสก็อตต์ ความสามารถในการนำประวัติศาสตร์มาเล่าในรูปแบบของนิยายได้เปิดทางให้นักเขียนรุ่นหลังสร้างสรรค์งานที่มีมิติและลุ่มลึกยิ่งขึ้น
แม้ในช่วงปลายชีวิตผลงานของสก็อตต์จะไม่ได้รับความนิยมเท่าในยุคแรก และเขาต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินอย่างหนัก แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้โลกวรรณกรรมกลับยิ่งใหญ่เกินวัดได้ ผลงานของเขายังได้รับการตีพิมพ์ซ้ำ ศึกษา และดัดแปลงในรูปแบบต่าง ๆ จนถึงปัจจุบันนี้
ในฐานะ “บิดาแห่งนิยายอิงประวัติศาสตร์” มรดกของเขายังคงสืบทอดผ่านนักเขียนและนักอ่านรุ่นต่อรุ่น เป็นเครื่องยืนยันว่า เรื่องเล่าในอดีต เมื่อผ่านการเล่าด้วยหัวใจของศิลปิน ก็ยังคงเปี่ยมด้วยพลังเสมอ
ภาพ : Sir Henry Raeburn
อ้างอิง
Britannica: Sir Walter Scott | Biography & Facts
สารานุกรม Britannica นำเสนอชีวประวัติและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสก็อตต์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา