11 มิ.ย. เวลา 11:41 • หนังสือ

Henry Wadsworth Longfellow ผู้บุกเบิกวรรณกรรมอเมริกันด้วยถ้อยคำแห่งกวี

ในโลกของวรรณกรรมอเมริกันยุคศตวรรษที่ 19 ชื่อของ เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์ (Henry Wadsworth Longfellow) คือหนึ่งในนักกวีที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด ด้วยบทกวีที่อ่อนโยน เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก และแฝงปรัชญาชีวิต เขาคือเสียงแห่งกวีนิพนธ์ที่สร้างสะพานเชื่อมระหว่างโลกเก่าในยุโรปกับวิญญาณของโลกใหม่ในอเมริกา
คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์ เกิดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1807 ที่เมือง พอร์ตแลนด์ (Portland) ในรัฐเมน (Maine) สหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) เขาเติบโตในครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและวัฒนธรรม บิดาของเขาเป็นนักกฎหมายผู้มีชื่อเสียง และครอบครัวของเขามีรากฐานมาจากผู้ตั้งถิ่นฐานกลุ่มแรกของอเมริกา
เฮนรีเข้าเรียนที่วิทยาลัยโบว์ดินเมื่ออายุเพียง 15 ปี ซึ่งในเวลานั้นมีเพื่อนร่วมชั้นที่โด่งดังเช่น นาธาเนียล ฮอว์ธอร์น (Nathaniel Hawthorne) หลังสำเร็จการศึกษา เขาได้รับการเสนอให้เป็นอาจารย์ด้านภาษาสมัยใหม่โดยมีเงื่อนไขว่าเขาต้องเดินทางไปศึกษาต่อในยุโรปก่อน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการหล่อหลอมวรรณศิลป์ในแบบยุโรปเข้าสู่จิตวิญญาณของเขา
เขาใช้เวลากว่าสามปีในยุโรป (1826–1829) ศึกษาภาษาละติน ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี เยอรมัน และดัตช์ พร้อมสำรวจวรรณกรรมคลาสสิกของแต่ละชาติ สิ่งที่เขาได้รับจากการเดินทางนี้ ไม่เพียงเป็นความรู้ทางภาษาเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจในการประพันธ์ที่เต็มไปด้วยความละเอียดอ่อนแบบยุโรป
เมื่อกลับสู่สหรัฐอเมริกา เขาดำรงตำแหน่งอาจารย์สอนภาษาที่โบว์ดิน และต่อมาย้ายไปเป็นศาสตราจารย์ด้านภาษาสมัยใหม่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขาได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการศึกษาภาษาในอเมริกา พร้อมไปกับการเริ่มต้นอาชีพกวีอย่างจริงจัง
ผลงานของเฮนรี เป็นที่ชื่นชอบทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ เพราะเขาใช้ภาษาที่ไพเราะ อ่านเข้าใจง่าย และแฝงแง่คิดลึกซึ้ง เขามีความสามารถในการนำเรื่องเล่าหรือตำนานโบราณมาถ่ายทอดใหม่ด้วยภาษากวีที่ซาบซึ้ง
ผลงานที่โดดเด่น เช่น
  • “A Psalm of Life” (1838) — บทกวีสร้างแรงบันดาลใจ ที่กล่าวถึงการมีชีวิตอย่างมีคุณค่า
  • “The Song of Hiawatha” (1855) — มหากาพย์ที่บอกเล่าเรื่องราวของชนพื้นเมืองอเมริกันด้วยฉันทลักษณ์แบบฟินแลนด์
  • “Paul Revere’s Ride” (1860) — บทกวีประวัติศาสตร์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักชาติ
  • “Evangeline” (1847) — เรื่องรักโศกสะเทือนใจที่เกิดขึ้นในฉากหลังของการอพยพชาวแอคาเดีย
ในสมัยของเขา เฮนรีเป็นกวีที่ขายดีมากที่สุดในอเมริกา และยังเป็นหนึ่งในนักเขียนอเมริกันคนแรกที่ได้รับความนิยมในยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษ เขายังเป็นกวีอเมริกันคนแรกที่มีรูปปั้นของตนเองตั้งอยู่ใน เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (Westminster Abbey) ประเทศอังกฤษอีกด้วย
แม้ชีวิตด้านอาชีพจะรุ่งเรือง แต่ชีวิตส่วนตัวของเฮนรีกลับแฝงด้วยความโศกเศร้า เขาแต่งงานสองครั้ง ภรรยาคนแรกเสียชีวิตจากการแท้งลูก ส่วนภรรยาคนที่สองเสียชีวิตอย่างน่าสลดจากอุบัติเหตุไฟไหม้ในบ้าน ขณะเธอกำลังปิดซองจดหมายด้วยขี้ผึ้งละลาย
เฮนรีไม่เคยฟื้นคืนจากความเจ็บปวดในใจนี้ได้อย่างแท้จริง แต่เขาแปรเปลี่ยนความเศร้าเป็นบทกวีที่ลึกซึ้งและสะเทือนใจ เช่น บทกวี “The Cross of Snow” ซึ่งเขาเขียนขึ้นหลังจากภรรยาเสียชีวิตนานถึง 18 ปี
เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1882 ที่เมืองแคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เขาทิ้งไว้ซึ่งผลงานกวีนิพนธ์ที่ส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมอเมริกันอย่างลึกซึ้ง เป็นเสียงของความสงบ สง่างาม และศรัทธาต่อชีวิต
แม้ว่าในยุคหลัง บางนักวิจารณ์จะมองว่าเขาใช้ภาษาง่ายเกินไป หรือมีเนื้อหาที่โรแมนติกจนไม่สะท้อนความขัดแย้งของสังคมเท่ากับนักเขียนรุ่นต่อมา แต่ความสามารถในการ “เข้าถึงหัวใจ” ของคนอ่านคือสิ่งที่ทำให้เฮนรีเป็นอมตะ
เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์ ไม่ได้เป็นเพียงกวีผู้ประพันธ์บทกวีไพเราะเท่านั้น แต่เขาคือ "หนึ่งในผู้บุกเบิกวรรณกรรมอเมริกัน" ที่ทำให้ภาษาอังกฤษของโลกใหม่มีน้ำเสียงเฉพาะตัวของมันเอง เขาหยิบยกวรรณกรรมจากโลกเก่า มาปรับให้กลมกลืนกับดินแดนใหม่ด้วยศิลปะแห่งถ้อยคำ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ใช่แค่ “กวีของประชาชน” ในยุคของเขา แต่ยังเป็นมรดกของกวีนิพนธ์อเมริกันที่ส่งอิทธิพลยาวนานจวบจนปัจจุบัน
ภาพ : Julia Margaret Cameron

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา