Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Doctor Near you (หมอใกล้คุณ)
•
ติดตาม
16 ก.ค. เวลา 05:05 • สุขภาพ
เส้นทางไขมันที่สร้างในร่างกายและ VLDL , IDL , LDL (Endogenous Fat Pathway)
ร่างกายของคนเราเปรียบเสมือนเมืองใหญ่ที่ต้องการพลังงานและวัตถุดิบในการทำงานอยู่ตลอดเวลา "ไขมัน" คือหนึ่งในแหล่งพลังงานและวัตถุดิบที่สำคัญเหล่านั้น ไขมันในเลือดมาจาก 2 แหล่งหลัก คือ
1. Exogenous Pathway (ไขมันจากอาหารที่เรารับประทาน)
2. Endogenous Pathway (ไขมันที่ร่างกาย โดยเฉพาะ "ตับ" สร้างขึ้นเอง)
บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจเส้นทางที่ 2 (Endogenous pathway )ซึ่งเป็นวงจรที่ซับซ้อนและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของเรา นั่นคือเส้นทางของไขมันที่ตับสังเคราะห์ขึ้นเอง
★
ส่วนที่ 1: โรงงานผลิตและปัจจัยควบคุม (The Liver & Synthesis Regulation) 🏭
ตับคือโรงงานกลางที่ผลิตไขมัน โดยเฉพาะ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride, TG) และ คอเลสเตอรอล (Cholesterol) เพื่อส่งไปให้เซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกายใช้เป็นพลังงานและส่วนประกอบของเซลล์ แต่ตับจะผลิตไขมันเหล่านี้เมื่อไหร่ และมากน้อยเพียงใด?
■
ปัจจัยกำหนดการสร้างไขมันและไลโปโปรตีนจากตับ
1. สภาวะพลังงานเกิน (Energy Surplus):
นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด เมื่อเรารับประทานอาหารที่ให้พลังงาน โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต (แป้งและน้ำตาล) เกินกว่าที่ร่างกายจะใช้หมดในขณะนั้น ตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานส่วนเกินเหล่านี้ให้กลายเป็นกรดไขมัน (Fatty Acids) และนำไปสร้างเป็นไตรกลีเซอไรด์ ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า De Novo Lipogenesis (DNL)
2. ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin):
หลังมื้ออาหาร ตับอ่อนจะหลั่งอินซูลินซึ่งทำหน้าที่เป็น "สวิตช์เปิด" ของโรงงานผลิตไขมันในตับ อินซูลินจะกระตุ้นเอนไซม์หลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับ DNL และกระตุ้นการสร้างไตรกลีเซอไรด์ (TG)ในทางตรงกันข้าม ภาวะอดอาหารหรือฮอร์โมนกลูคากอน (Glucagon) จะยับยั้งกระบวนการนี้
3. ปริมาณกรดไขมันอิสระ (Free Fatty Acids, FFA):
กรดไขมันที่หลั่งมาจากเซลล์ไขมัน (Adipose tissue) และเดินทางกลับมาที่ตับ ก็เป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างไตรกลีเซอไรด์เช่นกัน ในภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) เซลล์ไขมันจะปล่อย FFA ออกมามากเกินไป ทำให้ตับสร้างไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้น นำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับ (Fatty Liver)
■
การประกอบและปล่อยไลโปโปรตีน (Lipoprotein Assembly):
เมื่อตับผลิตไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลแล้ว จะไม่สามารถปล่อยไขมันเหล่านี้สู่กระแสเลือดโดยตรงได้ เพราะไขมันไม่ละลายในน้ำ (เลือด) ตับจึงต้องบรรจุไขมันเหล่านี้ลงใน "ยานพาหนะ" ที่เรียกว่า ไลโปโปรตีน (Lipoprotein)
-- VLDL (Very Low-Density Lipoprotein) ยานพาหนะลำแรก
ตับจะบรรจุไตรกลีเซอไรด์เป็นหลัก พร้อมด้วยคอเลสเตอรอลจำนวนหนึ่ง ลงในโครงสร้างโปรตีนที่สำคัญคือ Apolipoprotein B-100 (ApoB-100) ซึ่งเปรียบเสมือน "ตัวถังและป้ายทะเบียน" ของยานพาหนะลำนี้
สัดส่วนที่ถูกสร้าง: ปริมาณ VLDL ที่ตับสร้างและปล่อยออกมาจะแปรผันตรงกับปริมาณไตรกลีเซอไรด์ที่มีอยู่ในตับ (Intrahepatic Triglyceride pool) หากมีวัตถุดิบ (TG) มาก ตับก็จะสร้าง VLDL ออกมามากและอาจมีขนาดใหญ่ขึ้น (Large, buoyant VLDL)
ดังนั้น ตับไม่ได้ "เลือก" สร้างไลโปโปรตีนชนิดต่างๆ โดยตรง แต่จะเริ่มจากการสร้าง VLDL เป็นหลัก แล้วไลโปโปรตีนชนิดอื่นๆ เช่น IDL และ LDL จะเป็นผลผลิตที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ VLDL ในกระแสเลือดในลำดับถัดไป
★
ส่วนที่ 2: การเดินทางของไลโปโปรตีน (The Lipoprotein Cascade) 🚗
เมื่อ VLDL ถูกปล่อยออกจากตับ ก็จะเริ่มการเดินทางเพื่อส่งมอบพลังงานให้เซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย ดังนี้
1️⃣ ขั้นที่ 1: VLDL ออกเดินทาง VLDL ที่เพิ่งออกจากตับจะอุดมไปด้วยไตรกลีเซอไรด์ เริ่มเดินทางไปตามกระแสเลือด
2️⃣ ขั้นที่ 2: การส่งมอบไตรกลีเซอไรด์ เมื่อ VLDL เดินทางไปถึงเนื้อเยื่อที่ต้องการพลังงาน เช่น กล้ามเนื้อและเซลล์ไขมัน จะพบกับเอนไซม์ที่ชื่อว่า Lipoprotein Lipase (LPL) ซึ่งเกาะอยู่บนผนังหลอดเลือด เอนไซม์ LPL นี้จะถูกกระตุ้นโดยโปรตีนขนาดเล็กบนผิว VLDL ที่ชื่อ ApoC-II
-- กลไก: LPL จะทำหน้าที่ย่อยสลายไตรกลีเซอไรด์ใน VLDL ให้กลายเป็นกรดไขมันอิสระ (FFA) และกลีเซอรอล ซึ่งเซลล์เนื้อเยื่อจะดูดซึมเข้าไปใช้เป็นพลังงานหรือเก็บสะสมไว้
3️⃣ ขั้นที่ 3: แปลงร่างเป็น IDL (Intermediate-Density Lipoprotein) เมื่อ VLDL สูญเสียไตรกลีเซอไรด์ไปจำนวนมาก มันจะหดตัวเล็กลง มีความหนาแน่นสูงขึ้น และมีสัดส่วนของคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น กลายสภาพเป็น IDL
4️⃣ ขั้นที่ 4: ชะตากรรมของ IDL มีสองเส้นทางหลัก
4.1 กลับสู่ตับ (~50%): IDL ประมาณครึ่งหนึ่งจะถูกกำจัดออกจากกระแสเลือดโดยตับอย่างรวดเร็ว ผ่านตัวรับ (Receptor) ที่รู้จักโปรตีนบนผิว IDL ที่ชื่อ ApoE
4.2 แปลงร่างต่อเป็น LDL (~50%): IDL ที่เหลือจะถูกเอนไซม์อีกตัวที่ตับ คือ Hepatic Lipase (HL) ย่อยสลายไตรกลีเซอไรด์ที่ยังเหลืออยู่ออกไปอีก จนสุดท้าย
5️⃣ ขั้นที่ 5: LDL - ยานพาหนะขนส่งคอเลสเตอรอล LDL คือไลโปโปรตีนที่มีคอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบหลัก (Cholesterol-rich) หน้าที่ของมันคือการนำคอเลสเตอรอลไปส่งให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายที่ต้องการใช้ เช่น ต่อมหมวกไตเพื่อสร้างฮอร์โมนสเตียรอยด์ หรือเซลล์ทั่วไปเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์
-- การเข้าสู่เซลล์: เซลล์เป้าหมายจะมีตัวรับที่เรียกว่า LDL Receptor (LDLR) ซึ่งจะจดจำโปรตีน ApoB-100 บนผิวของ LDL และนำพา LDL เข้าสู่เซลล์
การสิ้นสุดวงจร: 🏁
วงจรจะสมบูรณ์เมื่อ LDL ส่วนเกินถูกกำจัดออกจากกระแสเลือด โดยส่วนใหญ่ (~70%) จะถูกกำจัดโดยตับผ่านทาง LDL Receptor เช่นกัน
การทำงานของ LDL Receptor นี้จึงเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการควบคุมระดับ LDL ในเลือด หากตัวรับนี้ทำงานผิดปกติหรือมีจำนวนน้อย (จากปัจจัยทางพันธุกรรมหรืออื่นๆ) จะทำให้ระดับ LDL ในเลือดสูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจาก LDL ที่ลอยอยู่ในเลือดนานๆ จะถูกออกซิไดซ์ (Oxidized LDL) และเข้าไปสะสมที่ผนังหลอดเลือด ก่อให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)
★
สัดส่วนและอายุขัยในกระแสเลือด 📊⏳
ไลโปโปรตีน ( Lipoprotein ) แต่ละชนิดมีองค์ประกอบและระยะเวลาที่อยู่ในกระแสเลือดแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้บทบาทและผลกระทบต่อร่างกาย
●
VLDL (TG dominant particle)
สัดส่วน TG : Chol : protein = 55-65% : 10-15% : 5-10%
Blood stream half-life = 5-15 นาที
●
IDL (TG & Cholesterol particle)
สัดส่วน TG : Chol : protein = 25-35% : 25-35% : 15-20%
Blood stream half-life = 2-4 ชั่วโมง
●
LDL (Cholesterol dominant particle)
สัดส่วน TG : Chol : protein = 5-10% : 45-50% : 20-25%
Blood stream half-life = 2-4 วัน
--- ข้อสังเกต ---
VLDL: มีอายุสั้นมากเพราะถูกเอนไซม์ LPL จัดการอย่างรวดเร็วเพื่อส่งมอบพลังงาน
LDL: มีอายุขัยยาวนานที่สุดในบรรดากลุ่มนี้ ทำให้มันมีโอกาสที่จะถูกดัดแปลง (เช่น Oxidation) และก่อให้เกิดพยาธิสภาพที่ผนังหลอดเลือดได้มากกว่าชนิดอื่น นี่คือเหตุผลหลักที่ LDL สูงจึงสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ และถูกเรียกว่า "ไขมันตัวร้าย"
--- บทสรุป ---
เส้นทางไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นเองเป็นกระบวนการเมแทบอลิซึมที่ซับซ้อนและมีการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยมีตับเป็นศูนย์กลาง การรับประทานอาหารที่สมดุล
การควบคุมน้ำหนัก และการออกกำลังกาย ล้วนส่งผลโดยตรงต่อ "โรงงาน" ในตับแห่งนี้ ช่วยลดการผลิต VLDL ที่มากเกินความจำเป็น และส่งเสริมการทำงานของระบบกำจัด LDL ให้เป็นไปอย่างปกติ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจที่แข็งแรงในระยะยาว
ครั้งหน้ามารู้จัก HDL lipoprotein กันนะครับ
#ไขมันในเลือด
อ่านบน FB ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/share/p/16Amoqnzhi/?mibextid=wwXIfr
การแพทย์
สุขภาพ
ความรู้รอบตัว
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Lipid : everything that you should know
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย