Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Doctor Near you (หมอใกล้คุณ)
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 11:34 • สุขภาพ
การวัดความดันโลหิต ( blood pressure measurement )
ความดันโลหิต คือหนึ่งในสัญญาณชีพที่สำคัญที่สุด เป็นตัวชี้วัดสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่เข้าถึงง่าย แต่หลายคนอาจยังสับสนกับวิธีการวัดที่หลากหลาย ตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงตลอดวัน และเกณฑ์ที่ใช้ในการวินิจฉัย บทความนี้จะไขทุกข้อสงสัยเพื่อให้คุณเข้าใจและจัดการความดันโลหิตของตนเองได้อย่างถูกต้อง
★
อุปกรณ์วัดความดันโลหิต: เลือกแบบไหนดี? และแม่นยำแค่ไหน?
การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในการได้ค่าความดันโลหิตที่น่าเชื่อถือ
■
เครื่องวัดที่ต้นแขน (Upper Arm Cuff) : มาตรฐานที่สุด
-- หลักการ --
เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ในทางการแพทย์ โดยวัดความดันจากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ต้นแขน (Brachial artery) ซึ่งอยู่ใกล้หัวใจ ทำให้ค่าที่ได้มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือสูงสุด
-- ความแม่นยำ --
สูงที่สุด หากเลือกขนาดผ้าพันแขน (Cuff) ได้เหมาะสมกับรอบแขนและวัดอย่างถูกวิธี
-- คำแนะนำ --
สำหรับการใช้งานที่บ้าน ควรเลือกเครื่องวัดแบบอัตโนมัติที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางการแพทย์ (เช่น AAMI, BHS, ESH) และควรวัดในท่านั่งที่ผ่อนคลาย วางแขนบนโต๊ะให้ผ้าพันแขนอยู่ระดับเดียวกับหัวใจ
■
เครื่องวัดที่ข้อมือ (Wrist Cuff): สะดวกแต่ต้องระวัง
-- หลักการ --
วัดความดันจากหลอดเลือดแดงที่ข้อมือ (Radial artery) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าและอยู่ไกลจากหัวใจมากกว่า
-- ความแม่นยำ --
มีความแปรปรวนสูงและแม่นยำน้อยกว่าแบบวัดที่ต้นแขน ปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าคลาดเคลื่อนคือตำแหน่งของข้อมือขณะวัด หากข้อมือไม่อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ ค่าที่ได้จะผิดเพี้ยนไปอย่างมาก (สูงไปถ้าข้อมืออยู่ต่ำกว่าหัวใจ และต่ำไปถ้าอยู่สูงกว่าหัวใจ)
-- คำแนะนำ --
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้เครื่องวัดที่ต้นแขนได้ (เช่น แขนใหญ่หรือเล็กเกินไป) หากจำเป็นต้องใช้ ควรยกข้อมือให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจเสมอ และปรึกษาแพทย์เพื่อเปรียบเทียบค่ากับเครื่องวัดมาตรฐาน
■
นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) และอุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ: เทคโนโลยีแห่งอนาคต
-- หลักการ --
ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Photoplethysmography (PPG) โดยใช้แสงสีเขียวส่องไปที่ผิวหนังเพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของปริมาตรเลือดที่ข้อมือ แล้วใช้ AI หรืออัลกอริทึมในการคำนวณ "ประมาณการ" ค่าความดันโลหิต ไม่ได้เป็นการวัดโดยตรงแบบใช้แรงบีบ (Cuff-based)
-- ความแม่นยำ --
ยังไม่ถือเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ในการวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูง แม้บางรุ่นจะได้รับการรับรองจากองค์กรอาหารและยาในบางประเทศ แต่ยังจำกัดการใช้งานเฉพาะกลุ่ม และมักต้องมีการเทียบค่า (Calibration) กับเครื่องวัดมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ ความแม่นยำยังเป็นประเด็นที่ต้องมีการวิจัยและพัฒนาเพิ่มเติม
-- คำแนะนำ --
สามารถใช้เพื่อติดตาม "แนวโน้ม" ความดันโลหิตในภาพรวมได้ แต่ไม่สามารถใช้แทนเครื่องวัดมาตรฐานเพื่อการวินิจฉัยหรือปรับยาได้โดยเด็ดขาด
★
วัดความดันบ่อยแค่ไหน? และวิธีไหนเหมาะกับคุณ?
ความถี่และวิธีการวัดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล
■
การวัดที่โรงพยาบาล/คลินิก (Office BP)
👨⚕️คืออะไร: การวัดโดยบุคลากรทางการแพทย์ เป็นการตรวจคัดกรองพื้นฐาน
👨⚕️ข้อจำกัด: อาจเกิดภาวะ "ความดันสูงตอนเจอหมอ" (White Coat Hypertension) ที่ค่าความดันจะสูงกว่าปกติเมื่ออยู่ที่โรงพยาบาลเนื่องจากความตื่นเต้น หรือในทางกลับกันอาจเกิด "ความดันแฝง" (Masked Hypertension) ที่ค่าความดันปกติที่โรงพยาบาลแต่สูงเมื่ออยู่บ้าน ซึ่งทั้งสองภาวะนี้การวัดเพียงครั้งเดียวที่โรงพยาบาลอาจตรวจไม่พบ
■
การวัดความดันโลหิตที่บ้าน (Home Blood Pressure Monitoring - HBPM)
Home BP monitoring
👨⚕️คืออะไร: การวัดความดันด้วยตนเองที่บ้านตามช่วงเวลาที่กำหนด
👨⚕️ความจำเป็น: แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังวินิจฉัยหรือรักษาโรคความดันโลหิตสูง ช่วยให้ได้ข้อมูลค่าความดันในสภาวะแวดล้อมจริง ตัดปัจจัยเรื่อง White Coat Hypertension และช่วยให้แพทย์ประเมินการตอบสนองต่อการรักษาได้ดีขึ้น
👨⚕️วิธีปฏิบัติมาตรฐาน: วัดวันละ 2 ช่วงเวลา คือ ตอนเช้า (หลังตื่นนอนและปัสสาวะ ก่อนทานยา/อาหาร) และตอนเย็น (ก่อนทานยา/อาหารเย็น) โดยแต่ละครั้งให้วัด 2 รอบ ห่างกัน 1 นาที แล้วจดบันทึกค่าเฉลี่ย ควรทำต่อเนื่อง 5-7 วันก่อนพบแพทย์
■
การตรวจวัดความดันโลหิต 24 ชั่วโมง (Ambulatory Blood Pressure Monitoring - ABPM)
ABPM
👨⚕️คืออะไร: การติดเครื่องวัดความดันอัตโนมัติแบบพกพา ซึ่งจะวัดความดันเป็นระยะๆ (เช่น ทุก 15-30 นาทีในตอนกลางวัน และทุก 30-60 นาทีในตอนกลางคืน) ตลอด 24 ชั่วโมง
👨⚕️ความจำเป็น: ถือเป็น "มาตรฐานสูงสุด" (Gold Standard) ในการวินิจฉัย แพทย์จะพิจารณาให้ทำในกรณีที่
●
ค่าความดันที่วัดที่บ้านและโรงพยาบาลต่างกันมาก
●
ควบคุมความดันได้ไม่ดีแม้ใช้ยาแล้ว
●
ประเมินความดันโลหิตช่วงกลางคืน (Nocturnal BP)
●
ในกรณีพิเศษ เช่น กลุ่ม Fragile HT , High fluctuation ที่สงสัยโรคบางอย่างโดยเฉพาะ
Wireless ABPM
★
ค่าความดันโลหิต "ปกติ" มีความแปรปรวนตลอดวัน
ค่าความดันโลหิตไม่ใช่ตัวเลขที่คงที่ แต่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามกิจกรรมและสภาวะของร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
●
ขณะพัก (At Rest): ค่าความดันในอุดมคติคือต่ำกว่า 120/80 mmHg
●
ขณะทำกิจกรรม (Activity): เป็นเรื่องปกติที่ความดันจะสูงขึ้นขณะออกกำลังกาย เดินเร็ว หรือทำงานบ้าน
●
ขณะมีความเครียด (Stress): ความเครียด, ความโกรธ, ความตื่นเต้น สามารถทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นได้ชั่วคราว
●
ความแปรปรวนระหว่างวัน (Diurnal Variation): โดยปกติแล้ว ความดันโลหิตจะมีรูปแบบที่ค่อนข้างชัดเจน คือจะเริ่มสูงขึ้นตอนตื่นนอนในตอนเช้า, สูงคงที่ในช่วงกลางวัน และจะค่อยๆ ลดต่ำลง 10-20% ในขณะหลับ สิ่งนี้เรียกว่า "Nocturnal Dip"
★
เกณฑ์วินิจฉัย "โรคความดันโลหิตสูง" จากการวัดแต่ละแบบ
-- ตรวจที่โรงพยาบาล -- เฉลี่ย ≥140/90 mmHg
-- ตรวจที่บ้าน -- เฉลี่ย ≥135/85 mmHg
-- ตรวจวัด 24 ชม. --
เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ≥130/80 mmHg
ช่วงกลางวัน เฉลี่ย ≥135/85 mmHg
ช่วงกลางคืน เฉลี่ย ≥120/70 mmHg
👨⚕️ประเด็นสำคัญ: Nocturnal Dip
การที่ความดันโลหิตลดลงไม่ถึง 10% ในตอนกลางคืน (เรียกว่า "Non-dipper") หรือกลับสูงขึ้นกว่าตอนกลางวัน (เรียกว่า "Reverse dipper") ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่สัมพันธ์กับความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งภาวะนี้สามารถตรวจพบได้จากการทำ ABPM เท่านั้น
⚠️ ควรพบแพทย์เมื่อไร ?
●
ค่าความดันสูงมาก: หากวัดได้ค่าความดันสูงกว่า 180/120 mmHg แม้จะไม่มีอาการ ก็ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก, หายใจลำบาก, ปวดศีรษะรุนแรง, ตามัว หรือแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเป็นภาวะความดันโลหิตสูงฉุกเฉิน (Hypertensive Crisis)
●
ค่าความดันสูงต่อเนื่อง: หากวัดความดันที่บ้าน (HBPM) ได้ค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ (≥135/85 mmHg)
●
อาการน่าสงสัย: แม้ค่าความดันจะไม่สูงมาก แต่หากมีอาการเวียนศีรษะ, ปวดศีรษะบ่อยๆ, เหนื่อยง่ายผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
●
เพื่อประเมินความเสี่ยง: หากคุณยังไม่เคยตรวจความดันโลหิตอย่างจริงจัง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง (อายุมาก, อ้วน, มีประวัติครอบครัว, สูบบุหรี่, เป็นเบาหวาน) ควรเริ่มตรวจเพื่อประเมินค่าพื้นฐานของตนเอง
การทำความเข้าใจเรื่องความดันโลหิตและการวัดอย่างถูกวิธี คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของคุณ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการตรวจติดตามและดูแลรักษาที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
สุขภาพ
การแพทย์
ความรู้รอบตัว
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ความดันโลหิตสูง ( HT )
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย