สรุปหนังสือ พลังพลิกชีวิตของกิจวัตรยามเย็น
ตื่นนอน → เริ่มงาน → เลิกงาน → หมดสภาพ → เข้านอน
วนลูปซ้ำไปทุกวัน...
ถ้านี่คือชีวิตของคุณตอนนี้ แสดงว่าคุณอาจกำลังใช้ชีวิตเหมือน "เครื่องจักร" มากกว่า "มนุษย์"
แม้จะมีงานประจำที่มั่นคง แต่ความรู้สึกเบื่อหน่าย ว่างเปล่า และหมดไฟ กลับค่อย ๆ กัดกินความฝัน ความสุข และแรงบันดาลใจของคุณไปทีละนิด
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่อยากหลุดออกจากวงจรนี้
หนังสือ “พลังพลิกชีวิตของกิจวัตรยามเย็น” โดย รยูฮันบิน คือเข็มทิศที่จะชี้ทางใหม่ให้กับชีวิตของคุณด้วยพลังของ “เวลาหลังเลิกงาน”
หนังสือเล่มนี้ได้ชี้นำแนวทางในการเริ่มทำกิจกรรมที่ตนเองชอบหลังเลิกงาน เหมาะสำหรับพนักงานประจำที่เลิกงานแล้วแต่ก็ยังมีเวลาว่างสามารถนำช่วงเวลาเหล่านั้นมาใช้ได้ รวมถึงผู้ที่กำลังอยากเริ่มธุรกิจส่วนตัวก็สามารถใช้ช่วงเวลานี้ได้
รยูฮันบิน จบจากคณะสัตวแพทย์และเคยทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศเหมือนใครหลายคน แต่ด้วยความอึดอัดที่กดทับในชีวิต เขาจึงตัดสินใจใช้ “เวลาหลังเลิกงาน” ทำในสิ่งที่รักจนค้นพบเส้นทางใหม่ เขากลายเป็นยูทูบเบอร์ นักสอน นักแสดง และนักออกแบบแพลนเนอร์ ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นจากเวลายามเย็นเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน
หนังสือมีทั้งหมด 6 พาร์ท
พาร์ทที่ 1 คำถามที่เปลี่ยนกิจวัตรของคุณไปทั้งสัปดาห์
ให้คุณลองตอบคำถามทั้ง 4
1. ถ้าไม่ใช่วันหยุดจะทำสิ่งที่ชอบไม่ได้หรอ?
>เพราะในแต่ละวันเราจะมีเวลาว่างขั้นต่ำ 3-4 ชั่วโมง สำหรับเดดไลน์ของเราก็คือเวลาเข้านอน
2. ถ้าทำงานนี้ไปตลอดชีวิตฉันจะมีความสุขไหม?
>เพราะไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะมีงานอดิเรกหรืองานอื่นนอกจากสายที่เราจบ
3. แค่เงินเดือนเพียงอย่างเดียวจะวาดอนาคตได้หรือ?
>เป้าหมายการทำงานที่แท้จริงควรเป็นแบบเวลาทำงานก็มีความสุข และเวลาที่ไม่ทำงานก็ยังมีรายได้
4. ถ้าลาออกแล้วจะได้ทำสิ่งที่ชอบไหม?
>ไม่ต้องคิดถึงตอนที่ลาออกแล้วเริ่มทำงานที่เราชอบ ให้เริ่มตั้งแต่วันนี้เลย
Tip การเริ่มหากิจกรรม
• เลือกกิจกรรมที่ผ่อนคลาย
• คำนวณเวลาและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นล่วงหน้า
• ลองทำดูก่อน ถ้าไม่เหมาะกับตัวเองค่อยเลิก
พาร์ทที่ 2 ของขวัญที่ได้รับจากการทำกิจวัตรยามเย็น
• ได้ทำตามความฝัน
• การได้ทำสิ่งที่ชอบหลังเลิกงานช่วยให้ชีวิตและการทำงานมีความสุขขึ้น
• เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ตัวเราเป็นคนเลือกและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
• มีรายได้มากขึ้น
Tip การหางานเสริมที่เหมาะกับตัวเอง
แบบ A ขายความสามารถผ่านคอร์สออนไลน์
แบบ B การทำ Blog เพื่อหารายได้
แบบ C ขายสติ๊กเกอร์ไลน์
แบบ D ขายรูปออนไลน์
แบบ E เปิดช่องยูทูบ
พาร์ทที่ 3 สเต็ปแรกของการสร้างกิจวัตรยามเย็น
ส่วนนี้จะเป็นการเริ่มต้นสำรวจความหมายของชีวิต
ซึ่งปรัชญาแบ่งเป็น 3 ทฤษฎีหลัก ได้แก่
ภววิทยา คือ การครุ่นคิดว่า “อะไรคือความจริงแท้ที่สุด”
ญาณวิทยา คือ การครุ่นคิดว่า “จะรู้ได้อย่างไรว่าถูกต้อง”
คุณวิทยา คือ การครุ่นคิดว่า “อะไรเป็นสิ่งที่มีคุณค่า”
หากเราสามารถตอบทั้ง 3 คำถามนี้ได้ เราก็จะมีกิจกรรมยามเย็นที่สามารถตอบสนองความต้องการทางจิตใจของเราได้
การกำหนดเป้าหมายต้องมีทั้งระยะยาวและระยะสั้นโดยอิงจากภาพรวมของชีวิต ในหนังสือได้แบ่งภาพรวมของชีวิตออกเป็น 8 หมวด ได้แก่ สุขภาพ ความสัมพันธ์ การศึกษาวิชาชีพ คลิปคอนเทนต์ การจัดการเวลา การพัฒนาตัวเอง การเงิน และศิลปะ (บางหมวดหมู่เราสามารถปรับให้เข้ากับกิจกรรมของเราได้) เมื่อกำหนดหัวข้อใหญ่แล้ว ให้เรากำหนดหัวข้อย่อยออกเป็น 8 อย่าง
พาร์ทที่ 4 เทคนิคจัดการเวลาเพื่อสร้างกิจวัตรยามเย็น
จงใส่ใจและจัดการกับเวลา
1. ทำเวลาให้จับต้องได้ เพราะถ้าเราไม่สนใจมันก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเราสนใจมันเวลาก็จะผ่านไปช้า อย่างเช่น เวลาทำท่าแพลงก์
2. เขียน Daily Planner ตัวอย่างหัวข้อที่ใส่ลงไป เช่น เป้าหมายของวันนั้น สิ่งที่ต้องทำ Timeline การดื่มน้ำและการกินอาหาร เป็นต้น
3. ค้นหา Golden time ของเราให้เจอจะทำให้งานของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. ทำ Evening Planner ซึ่งจะเขียนกิจกรรมของเวลาตอนเย็นในทุก ๆ วัน
5. จัดการสิ่งรบกวนอย่างโทรศัพท์ เพราะตอนนี้เราอยู่ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารสามารถเข้าถึงได้ง่าย บางทีเราอาจเผลอค้นหาข้อมูลตามอารมณ์ทำให้เราสูญเสียช่วงเวลาไปได้
พาร์ทที่ 5-6 ขั้นตอนเพื่อจัดการกิจวัตรยามเย็นให้เห็นผลและวิธีรับมือวิกฤตเพื่อปกป้องกิจวัตรยามเย็น
3 ขั้นตอนในการสร้างกิจวัตร คือ
1) การทำให้เล็ก
2) การทำซ้ำในเวลาเดียวกัน
3) การทำให้ได้ตามเวลาที่กำหนด
ข้อคิดที่ได้
•ให้มองว่าชีวิตคือการวิ่งมาราธอน เวลาทำงานไม่ควรทำอย่างหนักในตอนที่มีไฟมาก ๆ แต่ควรทำสิ่งเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ
•มองว่าสิ่งที่กำลังทำเป็นเรื่องสนุกหรือใช้การเสริมแรงบวกโดยการให้รางวัลตัวเองเมื่อทำงานสำเร็จ
•ทำ Habit Tracker เพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำกำลังเดินหน้าอยู่
•ไม่ยึดติดความสมบูรณ์แบบ ถ้าเป้าหมายที่เราทำมันใหญ่หรือยากเกินไปให้ลดมันลงมาเล็กน้อยแล้วลงมือทำต่อ
•หยุดนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ถ้าวันไหนรู้สึกไม่อยากทำให้เริ่มกิจกรรมนั้นแบบง่าย ๆ ก่อนก็ยังดี
•ให้เรียกช่วงที่ท้อแท้ว่า “ช่วงขาลง” แทนการใช้คำว่าหมดไฟ
•อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนที่มีคุณภาพ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นฟู
•สาเหตุที่ไม่สำเร็จมี 2 อย่างคือ 1.คิดแต่ไม่ทำ 2.ทำแต่ใจร้อนเกินไป
•ถ้าจะล้มเลิกจริง ๆ ให้ถามใจตัวเองก่อน เช่น ทำแล้วไม่มีความสุข? ทำแล้วเกิดประโยชน์ระยะยาว? สิ่งที่ทำมีประโยชน์กับคนอื่น?
•ยอมรับการล้มเลิกถ้าสิ่งที่ทำไม่เกิดประโยชน์
สิ่งที่หนังสือแถมให้ในภาคผนวกเพื่อให้การจัดการเวลาของเราดีขึ้น ได้แก่
• Mandal-Art Planner
• Action Planner
• Evening Planner
• Daily Planner
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เพียงแค่การจัดการเวลา แต่คือการจัดการ "ชีวิต"
มันไม่ได้ชวนให้คุณลาออกจากงานวันนี้เพื่อไปทำสิ่งที่รัก
แต่มันบอกว่า คุณสามารถเริ่มทำสิ่งที่รักได้เลย คืนนี้
และจากวันละไม่กี่ชั่วโมงหลังเลิกงาน อาจกลายเป็น “ชีวิตใหม่” ที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อน
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
