Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Productive Girl
•
ติดตาม
10 ส.ค. เวลา 12:00 • หนังสือ
สรุปหนังสือ อยากทำงานดีแบบพี่คนนั้นจัง
ในทุกที่ทำงาน มักจะมี “คนนั้น” ที่ไม่ว่าได้รับมอบหมายงานอะไร ก็ทำได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว และได้ผลลัพธ์เกินความคาดหมาย พวกเขาไม่ได้เก่งเพราะโชคช่วย แต่เพราะมีวิธีคิดและวิธีทำงาน ที่ถูกฝึกฝนและพิสูจน์มาแล้วจากประสบการณ์จริง
หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณ
●
ทำงานได้ฉลาดขึ้น ไม่ใช่เหนื่อยขึ้น
●
ได้รับการยอมรับจากหัวหน้าและทีมงาน
●
ก้าวสู่การเป็น “คนนั้น” ที่ทุกคนอยากร่วมงานด้วย
ผู้เขียน ชังอึนยอง ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ให้กับบริษัทชั้นนำในเกาหลีมาเป็นเวลานานกว่า 14 ปี ได้รับการยอมรับในวงการว่าเป็นคนที่ “ทำงานเก่ง” (high-performer) โดยมักถูกมองว่าเป็นผู้ให้คำปรึกษากับรุ่นน้องในที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ
แต่ชังอึนยองก็เคยเป็นรุ่นน้องเกรด C ร้องไห้หลังเลิกงานเป็นประจำ ปัญหาที่เธอเริ่มเรียนรู้ก็คือ การคุยงานที่ไม่เข้าใจกัน เธอจึงได้สังเกตและเรียนรู้การทำงานของคนทำงานเกรด A จนได้เป็น 30 เทคนิคที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้
หนังสือมีทั้งหมด 5 บท ได้แก่
ส่วนที่ 1 แผนการทำงาน
ส่วนที่ 2 การจัดการเวลา
ส่วนที่ 3 การสื่อสาร
ส่วนที่ 4 เทคนิคการทำงาน
ส่วนที่ 5 มนุษยสัมพันธ์
[ส่วนที่ 1 แผนการทำงาน]
ในบทนี้จะเป็นการตอบคำถามทั้งในแง่ของงานและตัวของเราเอง
1. ทักษะการแก้ปัญหา เป็นพื้นฐานของความสามารถทางอาชีพ มันคือการนิยามปัญหาได้และนำทางเลือกใหม่มาใช้เพื่อแก้ปัญหานั้นๆ ถ้าอยากแก้ปัญหาได้ต้องมี 2 why ได้แก่ “ทำไมต้องทำงานนี้ในตอนนี้” กับ “ปัญหาคืออะไร”
ตามที่ไซมอน ซิเนค ผู้เขียน Start with why ได้กล่าวว่าคนที่โดดเด่นจะคิดว่า ทำไม(Why) >>> อย่างไร(How) >>> อะไร(What) ตามลำดับ
2. ตอบคำถามให้ตรงกับสิ่งที่ถาม โดยเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหัวหน้าสั่งอะไร เข้าใจในสิ่งที่เขาอาจจะไม่ได้พูดออกมา และตอบในสิ่งที่เขาอยากได้ยิน หรือให้นึกถึงผู้บริโภคคนสุดท้ายว่าเราทำงานนี้เพื่อใคร
3. การขอฟีดแบ็ก ให้ส่งรายงานฉบับโครงร่างโดยบอกว่ามีกี่ขั้นตอนแล้วตอนนี้อยู่ที่ขั้นตอนไหน ต่อมาคือการบอกทิศทางและผลลัพธ์ **คนเก่งจะไม่เสียเวลาอธิบายมากเกินไป ให้สรุปออกมา 1-2 ข้อ เพราะหากไปผิดทางจะเสียในการหาข้อมูลใหม่
4. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ในกรณีที่งานมีการประสานกันหลายฝ่ายลองทำความเข้าใจอีกฝ่ายว่ามีความคิดเห็นอย่างไร เพื่อป้องกันความขัดแย้งต่อกัน เพราะเชื่อว่าแต่ละคนมีจุดยืนที่ต่างกัน
[ส่วนที่ 2 การจัดการเวลา]
1. วางแผนงานและเวลาเพื่อตัวเอง โดยเราต้องรู้ความเร็วในการทำงานของตัวเอง ข้อดีและข้อเสีย ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบคนอื่น ถ้าหากเรารู้ว่าทำงานช้าก็อาจจะต้องเริ่มทำงานนี้เร็วกว่าคนอื่น
2. ปฏิเสธให้เป็น ถ้ารู้ว่างานที่จะทำมันหักโหมเกินไป แม้เราอยากจะเป็นคนเก่งแค่ไหน อยากรับงานมากเท่าไหร่ก็อย่าลืมว่าเวลาและพลังงานของเรามีจำกัด ถ้าใช้มันมากเกินไปก็อาจนำไปสู่ภาวะหมดไฟได้
3. ขอเลื่อนเดดไลน์ในกรณีที่ทำไม่ทัน สิ่งสำคัญคือการสื่อสารอย่างอ่อนน้อมโดยต้องแสดงถึงความรู้สึกผิด และแสดงวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
4. งานของวันนั้นต้องเสร็จในวันนั้น ถ้าไม่ใช่งานที่จบที่เราต้องนำไปรายงานใครต่อหรือต้องส่งต่อให้ใครอีกทียิ่งต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันนั้น
5. คนเก่งชอบจด โดยมีเทคนิคคือ ถ้าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเนื้อหาเลยให้จดเนื้อหานั้นทั้งหมด แล้วนำมาสรุปใจความสำคัญ แต่ถ้ารู้เนื้อหาการประชุมในระดับหนึ่งให้จดเฉพาะใจความสำคัญ
[ส่วนที่ 3 การสื่อสาร]
1. ตอบให้ตรงคำถาม หลายครั้งเวลาหัวหน้าถาม เรามักจะเผลอออธิบายคำตอบยืดยาวซึ่งไม่มีคำตอบที่ตรงประเด็นเลย สิ่งที่หัวหน้าต้องการจริงๆก็คือผลลัพธ์ เช่น ทำได้/ทำไม่ได้ เสร็จ/ไม่เสร็จ แล้วค่อยอธิบาย
ถ้าคำตอบมีเนื้อหาเยอะให้สรุปออกมาเป็นข้อๆแล้วอธิบายเหตุผล
ข้อสรุป 1 - เหตุผล
ข้อสรุป 2 - เหตุผล
ข้อสรุป 3 - เหตุผล
2. หลีกเลี่ยงวิธีการพูดแบบถอดจิต เช่น ไม่ใช่ความผิดของฉัน ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้ทำ ทั้งๆที่ทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับเรา เหตุผลที่เราทำแบบนั้นมันเป็นกลไกการป้องกันทางจิต เหมือนการหลบเลี่ยงความรับผิดชอบโดยไม่รู้ตัว
วิธีแก้ไข: กรณีที่เราทำผิดเปลี่ยนการพูดแบบผู้ถูกกระทำเป็นการพูดแบบผู้กระทำ เช่น จะรีบแก้ไข จะรีบใส่เพิ่มนะคะ
ไม่ใช้คำว่า “ดูเหมือน” ให้ตอบแบบตรงคำถาม เช่น ดีครับ ตรวจสอบแล้วค่ะ
3. วิธีถามอย่างเหมาะสม หลายคนน่าจะเคยเจอเหตุการณ์ ไม่รู้เลยถามแต่พอถามไปแล้วเขากลับดุเราที่ถาม เราลองมาหยุดวัฏจักรนี้โดย
<วิธีที่ 1> ถามคนที่สั่งงานแค่ 2-3 ข้อ และต้องเป็นคำถามแบบที่ใส่ความคิดเห็นเราไปแล้ว ไม่ใช่ไปถามความคิดเห็นเขาอย่างเดียว
<วิธีที่ 2> ถามรุ่นพี่ที่เคยทำงานนี้ เกริ่นนำด้วยความยากลำบากในการทำงานนี้และถามแค่ 2-3 ข้อพอ
<วิธีที่ 3> ถามคนที่เก่ง ในกรณีที่ไม่เคยมีรุ่นพี่หรือเพื่อนร่วมงานที่ทำงานนี้ เพราะคนที่เก่งเขาจะมีไอเดียเจ๋งๆให้อย่างแน่นอน
4. อย่าตอบว่า “ไม่รู้” หรือ “ไม่ทราบ” แบบตรงเกินไป มันมีเทคนิคการตอบดังนี้
<กรณีที่ 1> เข้าใจคำถามและรู้เพียงบางส่วน ให้ตอบเท่าที่รู้แล้วจะไปหาข้อมูลเพิ่มเติม
<กรณีที่ 2> เข้าใจคำถาม ไม่ทราบคำตอบ ให้ตอบว่าเข้าใจปัญหาแล้วบอกว่าจะกลับไปตรวจสอบ
<กรณีที่ 3> ไม่เข้าใจคำถาม ให้จดบันทึกคำพูดของอีกฝ่ายแล้วไปหาข้อมูล
[ส่วนที่ 4 เทคนิคการทำงาน]
1. เทคนิคการทำงานแบบคัดลอกแล้ววาง ถ้าเราเห็นว่ามีคนทำงานเก่งให้เราเรียนรู้วิธีการทำงานของเขาแล้วนำมาปรับใช้ในการในการทำงานของเรา
2. เข้าใจทิศทางของงาน เรามาทำความเข้าใจประเภทของหัวหน้า 3 ประเภท
ประเภทที่ 1 หัวหน้าที่มีทิศทางในหัวแต่ไม่พูด
ประเภทที่ 2 หัวหน้าที่ยังไม่มีทิศทางเฉพาะเจาะจง
ประเภทที่ 3 หัวหน้าซึ่งไม่มีทิศทางเลย
สิ่งที่เราควรทำคือ เข้าใจทิศทางของหัวหน้า ส่งรายงานฉบับโครงร่างและพูดอธิบาย
3.เตรียมแผนสำรองเอาไว้บ้าง คนที่ทำงานเก่งจะสร้างความมั่นใจให้ผู้ฟังด้วยแผนที่สมบูรณ์เลยก็คือแผนที่หนึ่งและนำเสนอมุมมองใหม่ในสองหรือสาม
[ส่วนที่ 5 มนุษยสัมพันธ์]
1. เปิดโหมดอดทน หลายครั้งเรามักจะเห็นพนักงานใหม่บ่นอยากลาออก แต่เชื่อไหมว่าเมื่อผ่านไป 2-3 ปีพวกเขาจะเริ่มยอมรับ เทคนิคคือ “กำเนิดช่วงเวลาเป้าหมายและความอดทน” และ “ตั้งเป้าหมายเล็กๆในการอดทน”
2. แสดงให้เห็นถึงการมีอยู่ของเรา เพราะถ้าหัวหน้าทีมหรือผู้บริหารของแผนกไม่รู้แม้แต่ชื่อของเราหรือว่าเราทำงานอะไรไม่มีทางที่เราจะได้ก้าวไปยืนในแถวของระดับ A ได้ สิ่งที่เราควรทำเริ่มจากการเป็นคนที่ทักทายก่อน ทำให้เขาเห็นหน้าเราหลายๆครั้ง ทำงานให้ดีที่สุดจนผลงานเป็นที่ประจักษ์
3. เราอาจถูกเกลียดไม่รู้ตัว บ่อยครั้งเวลาเราทำงานอาจจะเกิดความขัดแย้งระหว่างหัวหน้าหรือคนในทีม สิ่งที่เราควรทำคือการเข้าไปถามถึงเหตุผลที่ทำให้เกิดความขัดแย้งเพราะบางทีเขาไม่ชอบเราเนื่องจากได้รับข้อมูลมาผิดๆ
ในทุกที่ทำงาน มักจะมีใครสักคนที่เรามองแล้วรู้สึกว่า “ทำไมเขาถึงทำงานได้ดีขนาดนั้น” เขาไม่ได้เก่งเพราะโชคช่วย แต่เพราะเขาเข้าใจหัวใจของการทำงานอย่างแท้จริง
หนังสือเล่มนี้คือการถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจาก ชังอึนยอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการโค้ชบุคลากรในองค์กรใหญ่ของเกาหลี ที่ได้ใกล้ชิดกับคนทำงานระดับแถวหน้า เธอจะพาเราค้นพบเคล็ดลับเล็กๆ แต่ทรงพลัง ที่จะเปลี่ยนมุมมองและทักษะการทำงานของเราให้แข็งแรงขึ้น พร้อมก้าวไปเป็น “คนนั้น” ในสายตาใครสักคน
นี่ไม่ใช่เพียงหนังสือสำหรับคนที่อยากทำงานเก่งขึ้น แต่มันคือแรงบันดาลใจให้เรา “ภูมิใจในสิ่งที่ทำ” และ “มีความหมายกับคนรอบตัว”
หนังสือ
ไลฟ์สไตล์
พัฒนาตัวเอง
1 บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Book Zone
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย