นมโอ๊ต สรุปว่าดีจริงหรือแค่การตลาด
นมโอ๊ตกลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในคาเฟ่และซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างรวดเร็ว
หลายคนเลือกแทนนมวัวเพราะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่มีกลูเตน ไม่มีแลคโตส หรือเพราะติดภาพลักษณ์สุขภาพดี
แต่คำถามคือ นมโอ๊ตดีจริงหรือเป็นแค่การตลาด?
นมโอ๊ตคืออะไร
นมโอ๊ตทำจากข้าวโอ๊ตผสมน้ำผ่านกระบวนการบดและกรอง
บางยี่ห้ออาจเติมน้ำมันพืชหรือกัมเพื่อให้เนื้อสัมผัสใกล้เคียงนมวัว
ปกติจะมีทั้งสูตรไม่หวาน สูตรเติมน้ำตาล
และสูตรเสริมแร่ธาตุ วิตามินให้ใกล้เคียงกับนมวัว
เปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการกับนมวัว
การรีวิวจากวารสารโภชนาการระบุว่า
นมโอ๊ตมีโปรตีนต่ำกว่านมวัวมาก (ประมาณ 2.4 กรัม/240 มล. เทียบกับนมวัว 7.92 กรัม)
และมีค่า DIAAS (คะแนนกรดอะมิโนที่ย่อยได้) เพียง 57 เท่านั้น ในขณะที่นมวัวอยู่ที่ 116
นอกจากนี้ปริมาณพลังงานและคาร์โบไฮเดรตของนมโอ๊ตจะสูงกว่านมวัว
ขณะเดียวกันปริมาณไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลต่ำกว่า
ชุดข้อมูลเปรียบเทียบจากงานวิจัยเดียวกันระบุว่า
ต่อหนึ่งแก้ว 240 มล.
นมโอ๊ตแบบเสริม (Oatly) ให้พลังงานประมาณ 84 กิโลแคลอรี
โปรตีน 2.4 กรัม ไขมัน 1.68 กรัม คาร์โบไฮเดรต 15.6 กรัม และใยอาหาร 1.92 กรัม
ขณะที่นมวัวให้พลังงาน 153.6 กิโลแคลอรี
โปรตีน 7.92 กรัม ไขมัน 9.36 กรัม และคาร์โบไฮเดรต 11 กรัม
จากข้อมูลนี้จะเห็นว่านมโอ๊ตมีคาร์โบไฮเดรตสูงและโปรตีนต่ำกว่า
สรุปความแตกต่างหลัก
- ●โปรตีน: น้อยกว่านมวัวมาก และกรดอะมิโนสำคัญอย่างลิซีนต่ำ
- ●คาร์โบไฮเดรตและใยอาหาร: มากกว่านมวัว เฉพาะสูตรที่เสริมใยอาหาร
- ●ไขมันอิ่มตัวและโคเลสเตอรอล: ต่ำกว่าเพราะไม่มีไขมันสัตว์
- ●แร่ธาตุ/วิตามิน: สูตรเสริมจะเติมแคลเซียม วิตามิน D2 วิตามิน B2 และ B12 ส่วนสูตรไม่เสริมจะขาดสารอาหารเหล่านี้
แม้นมโอ๊ตจะมีประโยชน์บางด้าน แต่ก็มีจุดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน
จุดเด่นของนมโอ๊ต
- ✓เหมาะกับผู้แพ้แลคโตสและมังสวิรัติ: นมโอ๊ตไม่มีแลคโตสและผลิตจากพืช
- ✓ใยอาหารและเบต้ากลูแคน ช่วยลดคอเลสเตอรอลและควบคุมระดับน้ำตาล
- ✓นมโอ๊ตที่ผ่านการเสริมสารอาหารจะมีแคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน A, B2, B12 และ D
- ✓การผลิตนมโอ๊ตใช้ทรัพยากรน้อยกว่า เช่น ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 29% ของนมวัว ใช้พื้นที่เพียง 16% และใช้น้ำเพียง 1.3% ของปริมาณที่ใช้ในการผลิตนมวัว
- ✓ระดับออกซาเลตต่ำ เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องนิ่วในไต เพราะมีออกซาเลตต่ำกว่านมถั่วบางชนิด
ข้อจำกัดที่ควรรู้
ถึงแม้นมโอ๊ตจะมีจุดเด่นหลายด้าน แต่ก็มีจุดอ่อนที่ควรพิจารณา
- 1.โปรตีนต่ำ: คนที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหรือเด็กวัยเจริญเติบโตอาจไม่ได้รับโปรตีนเพียงพอ หากดื่มนมโอ๊ตแทนนมวัวควรเสริมโปรตีนจากแหล่งอื่น
- 2.คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง: นมโอ๊ตมีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 14-16 กรัมต่อแก้ว บางยี่ห้อเติมน้ำตาลเพิ่ม ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาล
- 3.การดูดซึมแร่ธาตุบางชนิดน้อยลง: กรดไฟติกในข้าวโอ๊ตอาจรบกวนการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก
- 4.จำเป็นต้องอ่านฉลาก: สูตรไม่เสริมจะขาดวิตามิน B12, D และแคลเซียม จึงควรเลือกสูตรเสริม และตรวจสอบปริมาณน้ำตาลหรือสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น
ดื่มนมโอ็ตได้ ไม่ผิด แต่อย่าลืมสารอาหารอื่นที่จำเป็น
สรุป
นมโอ๊ตเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ลดสารก่อภูมิแพ้และช่วยรักษ์โลก
แต่ไม่ใช่นมมหัศจรรย์ โปรตีนต่ำกว่าและต้องอาศัยการเสริมวิตามินและแร่ธาตุเพื่อให้ทัดเทียมกับนมวัว
ความเข้าใจที่ว่าทุกสูตรดีต่อสุขภาพจึงอาจเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาต่อ
ควรเลือกสูตรไม่หวาน เสริมสารอาหาร และดูแลโภชนาการโดยรวมให้สมดุล
การดื่มนมโอ๊ตจะเป็นประโยชน์เมื่ออยู่ในบริบทของการรับประทานอาหารที่หลากหลาย ไม่ใช่การแทนที่อาหารทั้งหมด
หากคุณกำลังคิดว่านมโอ๊ตคือตัวช่วยชีวิตที่ดีที่สุด
บางทีอาจต้องคิดใหม่
ไม่ใช่ว่านมโอ๊ตไม่ดี
แต่อาหารจะดีและมีประโยชน์
ต่อเมื่อได้เข้าไปทำหน้าที่ในร่างกายเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#นมโอ๊ต
#แพ้นมวัว
#โปรตีนจากพืช
#อาหารทางเลือก
#ใบเลี้ยงเดี่ยวhealthy
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
