12 ส.ค. เวลา 13:30 • สุขภาพ

Active Recovery คืออะไร เมื่อการฟื้นฟูไม่ได้มีแค่นอน

หลายคนเข้าใจผิดว่าการพักหลังออกกำลังกายคือการนอนเฉยๆ
แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่เรียกว่า Active Recovery หรือการฟื้นฟูแบบเคลื่อนไหวเป็นวิธีที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวดีขึ้นและลดอาการปวดเมื่อย
Active Recovery คืออะไร
Active Recovery คือการทำกิจกรรมเบาๆ หลังจากออกกำลังกายหนัก
เช่น เดินเบาๆ ปั่นจักรยานช้าๆ โยคะหรือว่ายน้ำ
โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
และขับสารตกค้างออกจากกล้ามเนื้อ
ประโยชน์ของ Active Recovery
  • ช่วยลดกรดแลคติกออกจากกล้ามเนื้อ จึงลดการสะสมที่ทำให้เกิดความเมื่อยล้าและปวดเมื่อย
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อมากขึ้น จึงช่วยนำสารอาหารและออกซิเจนมาซ่อมแซมเซลล์
  • ลดอาการเจ็บและตึง ช่วยให้กล้ามเนื้อไม่แข็งเกร็ง ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บและช่วยให้ยืดหยุ่นขึ้น
  • ช่วยรักษาระบบการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายยังคงคุ้นเคยกับการออกกำลังกายและลดโอกาสหยุดชะงัก เพราะได้ทำกิจกรรมที่ไม่หนักมาก
Active vs Passive Recovery
การฟื้นฟูแบบพาสซีฟ (Passive Recovery) คือการพักนิ่งๆ
หรือหยุดออกกำลังกายโดยสิ้นเชิง
ซึ่งเหมาะในกรณีที่มีอาการบาดเจ็บหรืออ่อนล้าอย่างมาก
ในทางตรงกันข้าม ถ้าร่างกายยังแข็งแรงและเพียงแค่เมื่อยล้า
การฟื้นฟูแบบ Active Recovery จะช่วยให้กลับมาฟิตได้เร็วกว่า
การเคลื่อนไหวเบาๆ หลังออกกำลังกาย ช่วยให้ฟื้นตัวได้ดีขึ้น
รูปแบบของ Active Recovery
1. Cooldown หลังออกกำลังกาย
หลังการวิ่งหรือยกน้ำหนักหนัก ควรต่อด้วยการเดินหรือปั่นจักรยานช้าๆ 5-10 นาทีที่ระดับ Heart Rate Zone 1 เพื่อให้หัวใจและลมหายใจค่อยๆ ลดลง
2. การเคลื่อนไหวระหว่างเซต
ในการฝึกแบบอินเตอร์วอลหรือเวทเทรนนิ่ง การเดินไปมาหรือการยืดกล้ามเนื้อระหว่างเซตแทนการนั่งเฉยๆ ช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
3. วันพักฟื้น
ในวันพัก ควรทำกิจกรรมเบาๆ เช่น เดินเล่น ปั่นจักรยาน โยกเบาๆ หรือโยคะ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตึง
4. กิจกรรมอื่นๆ
ว่ายน้ำ ไทชิ โยคะ หรือนวดกดจุดแบบโฟมโรลเลอร์เป็นตัวเลือกที่ดี ช่วยผ่อนคลายและเพิ่มความยืดหยุ่น
5. การยืดและนวด
การยืดเหยียดเบาๆ หรือการนวดตัวช่วยกระตุ้นการไหลเวียน และควรจบด้วยความรู้สึกสดชื่น
ข้อควรระวัง
  • อย่าออกแรงหนักจนเกิน 50% ของการออกกำลังกายที่ทำก่อนหน้า เพื่อไม่ให้ร่างกายเหนื่อยซ้ำอีกครั้ง
  • หากมีอาการบาดเจ็บ ควรใช้การฟื้นฟูแบบพาสซีฟ และขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
  • ควรฟังร่างกายตนเอง หากรู้สึกเหนื่อยมากหรือเจ็บปวดควรหยุดพักทันที
การใช้อุปกรณ์เสริม ก็ช่วยทำให้ Active Recovery ได้ผลมากขึ้น
สรุป
Active Recovery ไม่ใช่แค่การพักเฉยๆ
แต่เป็นการฟื้นฟูที่มีการเคลื่อนไหวเบาๆ
เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดกรดแลคติก และลดความตึงของกล้ามเนื้อ
กิจกรรมง่ายๆ อย่างเดินเล่น ว่ายน้ำ โยคะ หรือโฟมโรลเลอร์ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี
สิ่งสำคัญคือไม่หักโหมและฟังสัญญาณจากร่างกาย
การจัดเวลาพักและฟื้นฟูอย่างเหมาะสมจะช่วยให้การออกกำลังกายในระยะยาวมีประสิทธิภาพและปลอดภัยขึ้น
ใครที่ชอบนั่งไถมือถือเฉยๆ ระหว่างพักเซท
หรือเช็คสมาร์ทวอท์ชทันทีหลังวิ่ง
ลองเพิ่ม Active Recovery เข้าไปหลังออกกำลังกาย
คุณอาจได้ผลลัพท์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน
#activerecovery
#การฟื้นฟูแบบเคลื่อนไหว
#เลิกนั่งเฉยตอนพักเซท
#cooldownหลังวิ่ง
#ใบเลี้ยงเดี่ยวhealthy
โฆษณา