Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
6 ก.ย. เวลา 06:11 • หนังสือ
#6 9️⃣ การเปลี่ยนแปลงที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง — บทที่4️⃣การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงตามปกติ(1)
💟 ผู้แปล คุณ♾️อุดม
.4️⃣. : การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงตามปกติ
อืม . . . เดี๋ยวก่อนนะ ผมต้องเตือนคุณเกี่ยวกับบางอย่าง
ผมมักจะพูดอะไรซ้ำๆหลายครั้ง
โปรดอย่าหงุดหงิดเมื่อการสนทนาของเราดำเนินไป โดยคิดว่า “เขาไม่ได้พูดแบบนี้ไปแล้วหรือ❓” ใช่ครับ ผมอาจจะพูดไปแล้วจริงๆ
บริษัทโฆษณาในนิวยอร์กบอกว่า คนทั่วไปจะไม่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดของข้อความใดๆจนกว่าจะได้ยินมัน 5-6 ครั้ง ผมไม่รู้ว่านี่เป็นความจริงหรือไม่ แต่ผมรู้ว่าตัวผมเองแทบจะไม่เคยเข้าใจข้อความทั้งหมดเกี่ยวกับอะไรก็ตาม —โดยเฉพาะความนัยและผลกระทบที่แท้จริง— ในครั้งแรกที่ได้ยิน ดังนั้นผมแค่อยากบอกว่าผมจะพูดบางสิ่งซ้ำ 2-3 ครั้ง บางทีอาจถึง 4 ครั้ง
ผมจะพยายามทำให้การพูดซ้ำของผมน่าสนใจ . . . แต่ผมจะขอให้คุณมีความอดทนกับผมในเรื่องนี้ ให้เข้าใจผมสักหน่อย หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนในรูปแบบวงกลม ไม่ใช่เส้นตรง นั่นคือรูปแบบที่ผมเลือกเพราะผมต้องการให้แน่ใจว่าผมชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้เกี่ยวกับทุกสิ่งที่ผมต้องการแบ่งปัน และบางครั้งการพูดซ้ำก็ช่วยให้ผมรู้สึกมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น เข้าใจนะครับ❓
ตอนนี้ . . . อย่างที่ผมได้พูดไปก่อนหน้านี้ ผมไม่รู้ว่าอะไรได้เปลี่ยนแปลงไปในชีวิตของคุณบ้าง แต่ผมรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นสร้างความปั่นป่วน ผมมั่นใจในเรื่องนี้ เพราะอะไรน่ะหรือ❓ #เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดสร้างความปั่นป่วน_แม้แต่การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ดังนั้นอย่าได้รู้สึกไม่พอใจตัวเองมากนักถ้าสถานการณ์เช่นนี้ “กระทบคุณจริงๆ” #มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะรู้สึกแบบนั้น ที่จริงแล้ว บ่อยครั้งการเปลี่ยนแปลงสามารถสร้างได้มากกว่าความปั่นป่วน มันสามารถก่อให้เกิดอารมณ์มากมาย วิธีที่คุณประสบกับการเปลี่ยนแปลง—ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายและความทุกข์ หรือช่วงเวลาแห่งสันติและความคิดสร้างสรรค์—ขึ้นอยู่กับอารมณ์ที่คุณมีในช่วงเวลานั้น
#การเปลี่ยนแปลงเกือบทั้งหมดก่อให้เกิดความกลัว คุณรู้ไหม❓ ผมหมายถึง ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลง “แย่ๆ” เท่านั้น แต่การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นก็ด้วย
คุณตัดสินใจแต่งงาน—และเกิดความกลัวในทันที จะเกิดอะไรขึ้นถ้าความรักไม่ยั่งยืน❓ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเลือกคู่ครองผิดคน❓
คุณรับงานใหม่ที่ดีกว่ามาก—และเกิดความกลัวในทันที จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณทำไม่ได้อย่างที่บอกว่าทำได้ตอนสมัครงาน❓ จะเกิดอะไรขึ้นถ้างานนี้มันไม่ใช่❓
คุณจัดเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นใหม่—และเกิดความกลัวในทันที จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคู่ของคุณไม่ชอบเมื่อเขาหรือเธอกลับมาบ้าน❓ บางทีคุณควรจะจัดทุกอย่างให้กลับไปเหมือนเดิมและคุยกันก่อน...
บางคนแม้แต่จะเปลี่ยนทรงผมก็ยังกลัว จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันดูทึ่ม❓ ฉันจะสูญเสียสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันมีไปหรือเปล่า❓
นี่มันบ้าไปแล้ว แต่นี่คือวิธีที่เราคิด เราทำแบบนี้ คุณทำ และผมก็ทำ พวกเราทุกคนทำเรื่องพวกนี้ #เพราะความเหมือนเดิมคือความสบายใจ_แม้แต่ความเหมือนเดิมที่กำลังฆ่าเรา แม้แต่ความเหมือนเดิมที่ทำให้เราเบื่อจนน้ำตาไหล แต่มีคนเคยพูดไว้ว่า : ชีวิตเริ่มต้น ณ จุดสิ้นสุดของพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone) ของคุณ
นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่ควรจำไว้ #ชีวิตเริ่มต้น_ณ_จุดสิ้นสุดของพื้นที่ที่ทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย
ดังนั้นถ้าคุณกำลังรู้สึกไม่สบายใจในตอนนี้ จงรู้ไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณคือการเริ่มต้น ไม่ใช่การสิ้นสุด
เอาล่ะ มันคือการสิ้นสุด เราไม่ต้องหลอกตัวเอง บางสิ่งที่สำคัญได้จบลงแล้ว
บางสิ่งที่มีความหมายได้หยุดลง บางสิ่งที่เคยมีอยู่ในชีวิตของคุณได้หายไป สลายไป ระเหยไป ก็แค่นั้นเอง บางทีอาจเป็นคน บางทีอาจเป็นความฝัน
บางทีอาจเป็นการสิ้นสุดของความรู้สึกปลอดภัยของความรู้สึกมั่นคงของคุณ บางทีเราอาจกำลังพูดถึงมากกว่าแค่การสูญเสียแฟน หรือการเปลี่ยนงาน บางทีสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณตอนนี้อาจคุกคามมากกว่านั้น
โอเค งั้นเรามาเรียกมันตามที่มันเป็นกัน เราไม่ต้องมาเล่นตลกกันที่นี่ คุณรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ ดังนั้นเรามาพูดกันตามตรง แต่เมื่อพูดแบบนั้นแล้ว นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอก . . .
#ไม่ว่าอะไรที่เพิ่งจบลง...
#มันก็คือการเริ่มต้นด้วยเช่นกัน
ตอนนี้จำไว้นะ คุณกำลังฟังจากคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่บนถนนเป็นเวลาหนึ่งปี คุณกำลังคุยกับคนที่สูญเสียทุกอย่าง งาน ภรรยา ครอบครัว ทุกสิ่งที่เขาเคยมีหรือหวงแหน แม้แต่รถของผมก็ถูกขโมย ตรงกลางถนนในพอร์ตแลนด์ โอเรกอน กลางดึก ผมไม่มีบ้านอยู่แล้ว ผมกำลัง “ตั้งแคมป์” อยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเพื่อนสักพักจนกว่าจะจัดการชีวิตใหม่ได้... เมื่อผมออกไปข้างนอกในเช้าวันหนึ่งก็พบว่าเชฟวี่ อิมพาลาคันเก่าๆของผมหายไป
หายไปแล้ว
ข้าวของส่วนตัวที่เหลืออยู่ทั้งหมดของผมอยู่ในรถคันนั้น ตอนนี้ผมไม่มีอะไรเลย ไม่เหลืออะไรเลย ผมมีแค่เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ ของใช้โกนหนวดไม่กี่อย่างและของที่ผมเอาเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ ผมหมายถึง แค่นั้นเลยจริงๆ
ดังนั้นผมรู้จักเรื่องการสิ้นสุดดี #และผมได้เห็นสิ่งที่ผมคิดและรู้สึกว่าเป็นการสิ้นสุดของทุกสิ่ง #ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ผมได้แต่ฝันไว้ ดังนั้นผมรู้สึกว่าอย่างน้อยที่สุดผมก็ได้รับสิทธิ์ที่จะปลูกฝังความคิดนี้ลงในความคิดของคุณ บางทีมันอาจจะเร็วเกินไป —อาจจะเร็วเกินไปมาก— ที่จะพูดถึงการก้าวไปสู่การเริ่มต้นใหม่
และบางทีสภาพชีวิตของคุณอาจจะยังไม่เอื้ออำนวยในตอนนี้ แต่ก็ไม่เร็วเกินไปที่จะปลูกเมล็ดพันธุ์ลงไปสักเมล็ด เราทุกคนได้ยินมันมาแล้วเป็นร้อยครั้ง และดูเหมือนจะเป็นเรื่องซ้ำซากที่จะพูดมันอีกครั้งตอนนี้ แต่. . . เอาเถอะ ยังไงผมก็ต้องพูดถึงมันอยู่ดี . . .
“#ทุกประตูที่ปิดลง
#จะมีอีกบานที่เปิดออก”
ผมไม่สนว่าคุณสูญเสียอะไรไป—งานของคุณ บ้านของคุณ คู่สมรส เครดิต (ความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ) ความฝัน ความหวัง แม้แต่สุขภาพ . . . ผมไม่สนว่าคุณสูญเสียอะไรหรือมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรงบ้าง #คุณสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ทั้งหมดได้_และประสบความสำเร็จที่ยิ่งกว่าเดิมได้
ผมสัญญากับคุณได้เลย
มันได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นความจริงหลายครั้งแล้วในชีวิตผมจนผมเลิกที่จะกังวลเมื่อสิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนแปลง ผมแค่มองดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ตอนนี้ ความคิดเรื่องบางสิ่งที่แตกต่างไปทำให้ผมสนใจ มันไม่ได้ทำให้ผมกลัวอีกต่อไป
แม้แต่สิ่งที่น่ากลัวก็ไม่ได้ทำให้ผมกลัวอีกต่อไป เช่น การสูญเสียบัญชีเกษียณอายุเกือบทั้งหมดในช่วงวิกฤตการเงินช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี ’08 ผู้คนวิ่งวุ่นตะโกนไปมาว่า “โอ้ พระเจ้า❗ โอ้ พระเจ้า❗” และความคิดเดียวที่ผมมีก็คือ “ได้มาง่าย ก็เสียไปง่าย มันสมบูรณ์แบบแล้ว ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ผมเคยอยู่บนถนนมาครั้งหนึ่งแล้ว ผมทำได้อีก”
ผมต้องยอมรับว่า เมื่อคุณได้ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกเป็นเวลาหนึ่งปี มุมมองของคุณก็เปลี่ยนไป #แต่คนเราไม่จำเป็นต้องผ่านประสบการณ์ที่สุดโต่งขนาดนั้นเพื่อให้เกิดปัญญา มันอยู่ที่นั่น อยู่ข้างหลังนั่น ในจิตใต้สำนึกของพวกเราทุกคน #เราทุกคนรู้ทุกสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้—#และเราทุกคนรู้ว่าเรารู้มัน บางคนแค่ไม่เชื่อมัน มัน “ดีเกินกว่าจะเป็นจริง” ดังนั้นเราจึงไม่เชื่อมัน
“ความเชื่อ” ของผมได้กลายเป็น “การรู้” ผมมีชีวิตอยู่มานานพอที่จะรู้ว่าส่วนใหญ่ของสิ่งที่ผมกังวลไม่เคยเกิดขึ้น #ส่วนใหญ่ของสิ่งที่ผมรู้สึกแย่กลับกลายเป็นสิ่งที่ดีกว่า และส่วนใหญ่ของสิ่งที่ผมหวังว่าจะคงเดิมไม่สามารถคงเดิมได้แม้ว่าพวกมันต้องการจะคงเดิม เพราะ #การเปลี่ยนแปลงคือกระบวนการของตัวชีวิตเอง
ผมได้พูดถึงเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ ขอย้ำอีกครั้งตรงนี้ #ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง และเมื่อไม่มีอะไรที่กำลังเปลี่ยนแปลง ก็ไม่มีอะไรที่มีชีวิต #ทุกสิ่งที่มีชีวิตย่อมเคลื่อนไหว และนั่นหมายถึงทุกสิ่งที่เป็นอยู่ แม้แต่หินก็เคลื่อนไหว ลองส่องกล้องจุลทรรศน์ดูหินสิ มองเข้าไปในโครงสร้างระดับโมเลกุล คุณจะพบจักรวาลเล็กๆที่นั่น แสดงคุณลักษณะที่น่าสนใจว่า : ทุกสิ่งกำลังเคลื่อนไหว
#ชีวิตคือการเคลื่อนไหว #การเคลื่อนไหวคือการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งที่อนุภาคระดับโมเลกุลแกว่งผ่านกาลเวลาและอวกาศ (พื้นที่ว่าง) บางสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันคือธรรมชาติของตัวชีวิตเอง
#เคล็ดลับ_ในชีวิตไม่ใช่การพยายามหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลง #แต่เป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลง (นั่นคือสิ่งที่ส่วนที่ 2 ของหนังสือนี้เกี่ยวกับ) จากนั้นมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบที่คุณเลือก แต่ตอนนี้ คุณอยู่ท่ามกลางช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตที่คุณไม่ได้สร้างขึ้น (อย่างน้อยก็ไม่ได้ตั้งใจ) และคุณกำลังจัดการกับอารมณ์ของคุณเกี่ยวกับเรื่องนั้น อารมณ์เหล่านั้นรวมถึงความกลัว ส่วนใหญ่แล้ว ในระดับหนึ่ง และความเศร้า บางที และอาจจะมีความโกรธนิดหน่อย หรืออาจไปถึงขั้นนรกแตกคือโคตรโกรธเลยก็ได้
ผมต้องเชื่อว่าคุณกำลังจัดการกับอย่างน้อยหนึ่งใน 3 อารมณ์นี้ ดังนั้นมาสำรวจเรื่องนี้กัน มาดูความกลัวให้ใกล้ชิดขึ้น
คุณอยากพักสักครู่ก่อนไหม❓ โอเค ถ้าคุณต้องการจุดพักที่ดีที่จะวางหนังสือลงตอนนี้ ตรงนี้แหละ
...ให้พื้นที่หายใจกับตัวเองสักหน่อย...
หายใจเอาสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านเข้าไป แล้วตัดสินใจตอนนี้ว่าคุณต้องการจะอ่านต่อ หรือพักกับมันสักพัก แล้วมาเจอกับผมที่นี่ภายหลัง
ถ้าคุณพร้อมจะอ่านต่อแล้ว ก็เลื่อนลงไปที่ . . .
...
...
...
หนังสือ
จิตวิญญาณ
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
9 การเปลี่ยนแปลงที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย