26 ก.ย. เวลา 07:52 • หนังสือ

#12 9️⃣ การเปลี่ยนแปลงที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง — บทที่ 9️⃣ :

มีอารมณ์อยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
💟 ผู้แปล : คุณ♾️อุดม
9️⃣.#มีอารมณ์อยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
ณ ตอนนี้ คุณกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น และไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณกำลังมีอารมณ์บางอย่างเกี่ยวกับมัน อาจเป็นอารมณ์ที่รุนแรง อาจเป็นอารมณ์ที่คุณกำลังมีปัญหาในการจัดการ
อารมณ์นี้เองที่กำลังสร้างประสบการณ์ ณ ขณะนี้ของคุณ ประสบการณ์นี้คือสิ่งที่คุณเรียกว่าความเป็นจริงของคุณ
ทำไมคุณถึงมีอารมณ์มากมายเช่นนี้❓ ทำไมคุณถึงโกรธ หรือกลัว หรือเศร้าขนาดนี้❓
ส่วนใหญ่เป็นเพราะคุณ ก็เหมือนคนส่วนมากนั่นแหละ ที่ไม่ได้มองจากความจริงที่ปรากฏ (Apparent Truth) เมื่อกำลังคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบัน (ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า) หากคุณทำเช่นนั้น ทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก แต่คนส่วนใหญ่มักมองจากความจริงที่พวกเขาจินตนาการขึ้น (Imagined Truth) เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่หลงเชื่อ★
(★หลงเชื่อว่าสิ่งที่กำลังคิดจินตนาการอยู่นี้ คิดเองเออเองอยู่นี้ คือความจริงที่แท้จริง ไม่ใช่ความจริงที่เกิดจากจินตนาการของตน –ผู้แปล)
สิงโตปรากฏขึ้นจากที่ไหนสักแห่งและคำราม คุณรู้สึกกลัวจนตัวแข็ง—เพราะคุณจินตนาการว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกทำร้าย
ถนนบนภูเขาหักมุมกระทันหันและคุณพบว่าตัวเองกำลังขับรถอยู่บนขอบถนนด้านนอก มีหน้าผาลึก 3,000 ฟุตอยู่นอกหน้าต่าง คุณรู้สึกหวาดกลัว—เพราะคุณจินตนาการว่าหากผิดพลาดเพียงครั้งเดียว คุณอาจเสียชีวิตได้
ผู้ชมกำลังรอการปรากฏตัวของคุณสำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญ คุณรู้สึกเป็นอัมพาต—เพราะคุณจินตนาการว่าคุณมีโอกาสที่จะออกไปทำให้ทุกคนผิดหวังและทำให้ตัวเองดูโง่
คู่สมรสจากไปอย่างกะทันหัน หรือคุณถูกเลิกจ้าง หรือคุณสูญเสียบ้าน คุณรู้สึกช็อก โกรธ อับอาย และในไม่ช้าก็ . . . กลัว
ทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นฐานของความจริงที่คุณจินตนาการขึ้น (Imagined Truth) ซึ่งคือ #ความคิดที่ว่า นี่เป็นสิ่ง “แย่” ว่าคุณจะ “ไม่มีความสุข” ว่ามี “การต่อสู้” มากมายรออยู่ข้างหน้า หรืออะไรก็ตาม
การรู้สึกกลัวเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ แน่นอน เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่คุณกำลังมีประสบการณ์ถึงมันอยู่ มันเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องละอาย มันเป็นเรื่องปกติมาก เป็นวิธีที่เราถูกเลี้ยงดูมา เราถูกบอกว่าความกลัวมีอยู่จริง ความกลัวเป็นของจริง
แต่ #ความจริงที่แท้ (Actual Truth) คือ #ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความกลัว จริงๆแล้ว ไม่มีอารมณ์ใดๆเลย นอกจากหนึ่งอารมณ์เท่านั้น อารมณ์อื่นๆทั้งหมดเป็นเพียงการห่อหุ้มใหม่ #มีเพียงหนึ่งอารมณ์_หนึ่งพลังงานในจักรวาลเท่านั้น : หนึ่งพลังงาน หนึ่งอารมณ์ที่เราเรียกมันว่า “#ความรัก 💟” เมื่อคุณรู้เช่นนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
ผมรู้ว่าทั้งหมดนี้อาจฟังดู “เพ้อเจ้อ” หรือ “นิวเอจ” (ความรู้ยุคใหม่) สำหรับคุณ แต่เมื่อคุณรู้ว่าทำไมจึงมีเพียงความรักเท่านั้น ทุกอย่างจะชัดเจนและชีวิตของคุณจะรู้สึก—ผมขอใช้คำนี้ได้ไหม❓—#หายดี จำไว้ว่า #ประสบการณ์ถูกสร้างขึ้นจากอารมณ์ ดังนั้นการเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นการแสดงออกของอารมณ์ที่เรียกว่า "ความรัก" #สามารถเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิตของคุณได้
แต่การเปลี่ยนแปลงจะเป็นการแสดงออกของความรักได้อย่างไร❓ เราเพิ่งพูดไป และได้พูดมาสักพักแล้วว่า ความกลัวคืออารมณ์ที่คนส่วนใหญ่รู้สึกเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง—แม้แต่การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น❓ ผมกำลังบอกจริงๆหรือว่า #ความกลัวไม่มีอยู่จริง❓
ใช่ นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังพูด เพราะว่า (และนี่คือการเปิดเผยที่น่าอัศจรรย์)... #ความกลัวคือการแสดงออกของความรัก
#หากคุณไม่รักตัวเอง_คุณจะไม่กลัวเพื่อตัวเอง คุณจะไม่กลัวสิ่งใดเลย เพราะคุณจะไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะไม่แม้แต่สนใจว่าคุณจะมีชีวิตรอดหรือไม่ “สัญชาตญาณการเอาตัวรอด” คือวิธีที่ธรรมชาติแสดงออกถึงความรัก
#หากคุณไม่รักผู้อื่น_คุณจะไม่กลัวเพื่อผู้อื่น หรือกลัวว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคนอื่น เพราะคุณจะไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ธรรมดามาก* ใช่ไหมล่ะ❓ (*ไม่ซับซ้อนเลยสักนิด เรียบง่ายสุดๆ) และด้วยตรรกะที่ไม่มีที่ติ #เราจึงเห็นว่าความกลัวและความรักเป็นสิ่งเดียวกัน #เพียงแต่แสดงออกต่างกัน เช่นเดียวกัน #อารมณ์อื่นๆทุกอารมณ์คือความรักในรูปแบบอื่น มีเพียงหนึ่งอารมณ์ อารมณ์นั้นคือ “ความรัก” ที่แสดงออกในพันรูปแบบที่แตกต่างกัน
นี่คือความจริงที่แท้ (Actual Truth) เมื่อเราพูดถึงความจริงที่แท้นี้มากขึ้นในภายหลัง แนวคิดทั้งหมดนี้จะเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์มากขึ้น แล้วคุณจะเห็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในความสามารถของคุณที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้อย่างสงบ
แต่ตอนนี้ ให้เราทำตามที่ผมแนะนำ มาดูความจริง 2 ประเภทจาก 3 ประเภท :
ความจริงที่ปรากฏ (Apparent Truth) และ ความจริงที่จินตนาการ (Imagined Truth) นี่เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องทำ (ความเข้าใจ) เพราะนี่คือ #กุญแจสำคัญของทุกสิ่ง
ดังนั้น . . . อย่างที่ผมกำลังพูด . . .
. . . คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในความจริงที่พวกเขาจินตนาการเมื่อสิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลง #โดยถูกกดไว้ที่นั่นด้วยอดีตของพวกเขา ความจริงที่จินตนาการนี้ให้กำเนิด #ความคิด ซึ่งก่อให้เกิดอารมณ์ ซึ่งสร้างประสบการณ์—ที่ดูเหมือนจะเป็นความจริงสำหรับพวกเขา แต่ที่จริงแล้ว มันคือความจริงที่บิดเบือน(Distorted Reality)
นี่นำเรากลับมาสู่จุดที่คุณอาจอยู่ในตอนนี้
เพราะสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกับคุณ—การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับคุณโดยที่คุณไม่ได้เลือก ที่เพียงแค่เกิดขึ้นจากที่ไหนสักแห่งอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย—คุณโกรธ หรือเศร้า หรือคับข้องใจ หรือผิดหวัง หรือหมดศรัทธา หรือ “ทั้งหมดที่กล่าวมา” . . . ทั้งหมดนี้เพราะคุณกลัว และคุณกลัว . . . ทั้งหมดนี้เพราะคุณกำลังรัก #คุณรักตัวเอง (แม้ว่าคุณจะไม่คิดว่าคุณรักตัวเองก็ตาม) และ #คุณรักชีวิต (แม้ว่าคุณจะบอกว่าคุณเกลียดมันอยู่ในตอนนี้)
#คุณกลัวที่จะแลกอดีตที่คุณรู้จักกับอนาคตที่คุณไม่รู้จัก กลัวว่าอะไรบางอย่าง (ที่ไม่รู้จัก) อาจจะเกิดขึ้น กลัวว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นอย่างไร และกลัวว่าคุณอาจจะไม่มีวันพบสถานการณ์แบบนี้อีก (งานแบบนี้ คนแบบนี้ บ้านแบบนี้) ว่าคุณอาจจะไม่มีวันมีประสบการณ์แบบนี้อีก
เอาเถอะ คุณอาจจะไม่พบสถานการณ์แบบนี้อีก—แต่คุณอาจจะมีประสบการณ์แบบนี้อีกก็ได้ (ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะไม่ได้อยู่กับคู่ครองคนเดิมอีก แต่คุณอาจจะมีประสบการณ์เดียวกัน —ประสบการณ์แห่งความสุขและความยินดี— กับคู่ครองคนอื่น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าคุณเชื่อในอะไร: ความจริงที่คุณจินตนาการ หรือ ความจริงที่ปรากฏ)
จำไว้ว่า #ประสบการณ์แห่งความสุขไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับเพราะเรามั่นใจอย่างยิ่งว่ามันเกี่ยวข้อง ทว่าไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ภายนอกกับประสบการณ์ภายใน ยกเว้น(ก็แต่) #ในหัวของคุณ
ความสามารถของคุณในการรู้จักความสุขไม่ได้เชื่อมโยงกับคนคนนี้หรือที่ทำงานแห่งนั้น ตัวอย่างเช่น คุณแค่คิดว่ามันเชื่อมโยง ความจริงที่ปรากฏและความจริงที่จินตนาการไม่เหมือนกัน ไม่มีวันเหมือน
Ever.
ไม่มีวัน
#เหตุการณ์ไม่มีความหมายในตัวมันเอง เหตุการณ์คือเหตุการณ์ และ #ความหมายคือความคิด #ไม่มีอะไรมีความหมายนอกจากความหมายที่คุณให้มัน และความหมายที่คุณให้กับสิ่งต่างๆไม่ได้มาจากเหตุการณ์ สถานการณ์ เงื่อนไข หรือสภาวะใดๆภายนอกตัวคุณ การให้ความหมาย (หรือการให้นิยาม) เป็นกระบวนการจากภายในทั้งหมด (หรือ #เป็นกระบวนการที่เกิดจากความคิดทั้งหมด)
Entirely.
เน้นย้ำว่า : #ทั้งหมด
 
 
*
Know Your Self as Light.
Bigger even, than Breath.
Larger even, than the Whole.
Quieter even, than the Quiet that holds You.
จงรู้ (ว่า) ตัวตนของเจ้า (เป็น) ดั่งแสงสว่าง
ยิ่งใหญ่กว่า แม้กระทั่งลมหายใจ (ที่เป็นดั่งชีวิต)
กว้างใหญ่กว่า แม้กระทั่งองค์รวม
เงียบกว่า แม้กระทั่งความเงียบที่โอบอุ้มเจ้า
Know Your Self as Held.
Softer even, than as before;
Deeper even, than any Darkness.
จงรู้ (ว่า) ตัวตนของเจ้าดั่งถูกโอบอุ้ม
อ่อนโยนกว่า แม้กระทั่ง (ความอ่อนโยน) ก่อนหน้า
ลึกล้ำกว่า แม้กระทั่งความมืดใด
When the Lightbody of You
breathes without borders
knows not
even of the concept
or of any bounds at all
เมื่อร่างแสงสว่างของเจ้า
หายใจโดยไร้พรมแดน
ไม่รู้จักแม้กระทั่ง
ความคิดเรื่อง
หรือขอบเขตใดๆ (ทั้งสิ้น)
When you Know Your Self
as only Light
summoning the Mystery
to move through You
เมื่อเจ้ารู้ (ถึง) ตัวตนของเจ้า
(ว่าเป็น) ดั่งแสงสว่างเท่านั้น
เรียกร้อง (อัญเชิญ) ปริศนาธรรม
ให้ไหลผ่านตัวเจ้า
exquisite, innocent instrument
of the long
long eternity of song
เครื่องดนตรีอันวิจิตร ไร้เดียงสา
แห่งบทเพลง
อันยาวนานแห่งนิรันดร์
then
แล้วจึง
Know Your Self as
Life’s greatest Laughter;
Life’s greatest Lover,
beckoning the Mystery
รู้ตัวตนของเจ้าดั่ง
เสียงหัวเราะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต
นักรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต
จงเรียกร้อง (รวบรวม) ปริศนาธรรม
come hither. . .
มาเถิด . . .
*
—'จงรู้ตัวตนของเจ้าดั่งแสงสว่าง'©2006 เอ็ม แคลร์
—‘Know Your Self as Light’©2006 Em Claire
โฆษณา