Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Productive Girl
•
ติดตาม
28 ก.ย. เวลา 22:50 • หนังสือ
สรุปหนังสือ ความสำเร็จเกิดจากนิสัยเล็กๆ ที่คุณไม่เลิกทำ
เชื่อว่าหลายคนกำลังเผชิญกับเหตุการณ์นี้อยู่นั่นก็คือ ตั้งเป้าหมายแต่ทำได้ไม่นาน ซึ่งจะเห็นได้ชัดตอนช่วงปีใหม่พอเข้าเดือนที่ 2-3 ก็จะล้มเลิกความตั้งใจไปอย่างง่ายดาย โดยให้เหตุผลว่างานเยอะ ไม่มีเวลา มีหลายอย่างที่ต้องทำ หนังสือที่นำมาสรุปในวันนี้จะช่วยให้คุณสามารถดำเนินการตามเป้าหมายที่เคยตั้งไว้โดยใช้เทคนิคที่เรียบง่ายมีเพียงแค่กฎ 3 ข้อ
โทดะ ไดสุเกะ เกิดที่ เมืองโอบานาซาวะ จังหวัดยามากาตะ เมื่อจบการศึกษาก็เข้าสู่วงการทำงานทันที โดยเริ่มต้นทำงานกับบริษัท Dentsu Isobar (ปัจจุบันคือ Dentsu Digital) ในตำแหน่ง Data Analyst เขาสนใจเรื่องจิตวิทยา การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้และวิธีกระตุ้น “การกระทำเชิงบวก” ในคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนานิสัย
หลังจากทำงานกับ Dentsu Isobar โทดะ ไดสุเกะ ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ bondavi เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชันที่ช่วยให้คนสร้างนิสัยที่ดีได้ต่อเนื่อง จุดเด่นของ bondavi คือทุกแอพจะ ไม่มีโฆษณาและใช้ฟรี โดยรายได้หลักมาจาก การบริจาคโดยผู้ใช้ เพื่อไม่ให้สิ่งที่เป็นแรงจูงใจภายนอกมาขัดขวางการสร้างนิสัยดีของผู้ใช้งาน
บทเรียน 3 ข้อ
ข้อที่ 1 จงลดเป้าหมายให้ต่ำที่สุด
ข้อที่ 2 จงหาช่วงเวลาที่เหมาะกับตัวเอง
ข้อที่ 3 จงอย่าสร้างข้อยกเว้น
ข้อที่ 1 จงลดเป้าหมายให้ต่ำที่สุด
[1] กำหนดเวลาในการลงมือทำแค่ 5 นาที เช่น ออกกำลังกาย 5 นาที อ่านหนังสือ 5 นาทีอย่างนี้เป็นต้น มันอาจจะฟังดูน้อย แต่เชื่อมั้ยว่ามันจะทำให้เราลงมือได้อย่างสม่ำเสมอ และถ้าหากเราอยากจะทำต่อก็สามารถทำได้เลย (ไม่แน่เราอาจจะติดลมจนทำได้นานกว่าที่คิด)
[2] อย่ายึดติดภาพจำในวัยเด็ก เช่น เมื่อก่อนเราสามารถอ่านหนังสือสอบ ทำคะแนนได้ดี ออกกำลังกาย สุขภาพดี ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเราอยู่ในโรงเรียน ถูกควบคุมโดยกฎ ระเบียบ คุณครู แต่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่เราจำเป็นที่จะต้องบังคับตัวเองให้ได้
[3] ควรมีเป้าหมาย เพราะมันส่งผลถึงอัตราการสร้างนิสัยได้ ถ้าไม่มีเป้าหมายอัตราการสร้างนิสัยของเราก็จะต่ำมาก ๆ (ข้อนี้เก่งเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตัวเองก็เคยเป็นคนที่ไม่มีเป้าหมาย ชีวิตอยู่ไปวันๆ จำได้ว่าตอนนั้นไม่ค่อยชอบตัวเองเลย)
แรงใจจะทำให้เกิดการลงมือทำ
และการลงมือทำก็ทำให้เกิดแรงใจ
[4] ทุกอย่างควรเริ่มต้นจากตัวเองไม่ว่าจะเป็นเป้าหมาย นิสัย แรงบันดาลใจ ทุกอย่างไม่ควรถูกตัดสินจากใคร มิเช่นนั้นมันจะล้มเหลวได้ง่ายมากๆ
[5] ถ้าเป็นไปได้ให้ “กำหนดรายละเอียดอย่างเฉพาะเจาะจง” คนเราถ้าไม่ใส่ใจรายละเอียดมีความเป็นไปได้สูงว่าเราจะตั้งเป้าหมายเกินตัว สุดท้ายแล้วก็อาจจะไปไม่ถึง
[6] บางครั้งที่เราทำไม่สำเร็จเพราะไม่ได้มีการทบทวนตัวเอง ในหนังสือได้เปรียบเทียบระหว่างคนที่สร้างนิสัยไม่สำเร็จซ้ำๆกับคนที่อกหัก ตอนที่โดนแฟนบอกเลิกเราก็จะตั้งคำถามกับตัวเองว่าฉันทำอะไรผิด แต่ตอนที่เราหยุดทำนิสัยดีๆเรากลับไม่ทบทวนตัวเอง
ข้อที่ 2 จงหาช่วงเวลาที่เหมาะกับตัวเอง
[1] ทุกคนมีเวลาของตัวเอง อย่างเช่นเวลาชีวภาพตามลักษณะ 4 แบบ หมี สิงโต หมาป่า โลมา (อันนี้หนังสือไม่ได้เขียนเอาไว้นะ) แต่จะสื่อประมาณว่าเราควรรู้ว่าตัวเองมีประสิทธิภาพในเวลาไหน
[2] มนุษย์มีโหมดขี้เกียจอยู่ในตัวเอง และมันจะต้องมีวันที่เราหมดแรงจนไม่อยากจะทำอะไรเลย ถ้าวันนั้นมาถึงก็ไม่ต้องโทษตัวเองหรือรู้สึกผิดขนาดนั้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เพราะเรามีเวลาและพลังงานที่จำกัด
[3] กำหนดเวลาเฉพาะในแบบรูปธรรม ตัวอย่างเช่น
• หลังตื่นนอนทันที
• ก่อน/หลังมื้อเช้าและเย็น
• ก่อนนอน
• หลังกลับถึงบ้าน
[4] สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะแก่การลงมือทำ เช่น
• แปะโพสอิทตามสถานที่
• ตั้งเวลาเตือนในช่วงที่คิดว่าทำได้
• วางสิ่งของในสถานที่ที่เราคิดว่าเกิดการลงมือทำ
ข้อที่ 3 จงอย่าสร้างข้อยกเว้น
[1] อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย หนังสือได้เล่าเรื่องราวของคู่รัก 2 คู่ ที่มีจุดร่วมคล้ายกันคือฝ่ายชายจำเป็นต้องทำงานในวันที่มีนัดไปดูดอกไม้ไฟกับผู้หญิง สิ่งที่ต่างกันคือคู่ที่หนึ่งผู้ชายบอกกับผู้หญิงว่าจะไปด้วยกันปีหน้า แต่ฝ่ายชายอีกคู่หนึ่งเลือกที่จะหาวันหยุดพร้อมกับถือไฟเย็นไปหาผู้หญิงแล้วสัญญาว่าปีหน้าจะไปให้ได้
เรื่องนี้เลยสอนให้รู้ว่าไม่ว่าใครก็จะต้องเจอช่วงเวลาที่ยุ่งจนทำไม่ได้ แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยในช่วงเวลานั้น ย่อมมีโอกาสล้มเหลวได้สูงมาก ถ้าเป็นไปได้คือให้ทำอย่างอื่นทดแทนเพราะจะช่วยให้เราทำได้อย่างต่อเนื่อง
[2] ถ้าไม่ทำก็ต้องเริ่มใช้ “กฎรีเซตจำนวนวัน” หมายความว่าหากเราเลิกทำกิจกรรมนั้นๆเพียงแค่วันเดียว เราต้องเริ่มนับเป็นวันที่ 1 ใหม่หมด ไม่ว่าเราจะทำไปแล้ว 29 วันหรือมากกว่านั้นก็ตาม
[3] ทำน้อยได้แต่อย่าหยุดทำ อย่างที่เขียนไปแล้วว่ามันจะต้องมีวันที่เราเหนื่อยมากๆจนไม่อยากทำ สิ่งที่ควรทำก็คือทำงานนั้นแบบน้อยๆ เช่น ตั้งเป้าหมายอ่านหนังสือ 5 นาที เปลี่ยนเป็น 2 นาทีก็ได้ นี่ก็ถือว่าเราได้ลงมือทำแล้ว ส่วนเหตุผลที่ทำเช่นนี้ได้เพื่อป้องกันการรีเซตจำนวนวันตามข้อที่ [2]
หนังสือเล่มนี้สอนเราว่าการเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ตั้งแต่ต้น แต่เริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำได้จริง เมื่อเราลงมือทำซ้ำ ๆ ทุกวัน แม้เพียงเวลาสั้น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนนิสัย สร้างวินัย และทำให้เป้าหมายกลายเป็นความจริงได้ในที่สุด
หนังสือ
ไลฟ์สไตล์
พัฒนาตัวเอง
1 บันทึก
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Book Zone
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย