17 ต.ค. เวลา 22:34 • อาหาร
โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

🥗 “คุณกำลังกินผัก/ผลไม้ผิดวิธีอยู่หรือป่าว นี่คือวิธีที่จะทำให้คุณได้ประโยชน์จากผัก/ผลไม้สูงสุด!”

หลายคนอาจคิดว่ากินผักผลไม้แบบ “สด ๆ” ย่อมดีกว่าแน่นอน
แต่ความจริงแล้ว ผักผลไม้บางชนิดต้อง ผ่านกรรมวิธีเฉพาะ ก่อนถึงจะปลดล็อกสารอาหารให้ร่างกายดูดซึมได้เต็มที่ 💪
วันนี้เรารวม 10 ชนิดที่หลายคน “ไม่ค่อยรู้” ว่าการปรุงเล็กน้อยกลับช่วยเพิ่มประโยชน์ได้มากกว่ากินดิบ!
🥕 1. มะเขือเทศ
ผ่านความร้อนเล็กน้อย เช่น ผัด หรือต้ม จะช่วยเพิ่มการดูดซึม ไลโคปีน (Lycopene) สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็ง
เคล็ดลับ: ผัดกับน้ำมันมะกอกเล็กน้อย จะยิ่งดูดซึมได้ดี
ใครยังไม่มีอุปกรณ์ ⬇️
🥦 2. บรอกโคลี
ไม่ควรต้มจนเปื่อย เพราะความร้อนมากเกินไปทำลาย ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane)
ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็งสำคัญ
เคล็ดลับ: นึ่งแค่ 1–2 นาที คือจุดที่สารอาหารสูงสุด!
ใครยังไม่มีหม้อนึ่ง ⬇️
🧄 3. กระเทียม
อย่าเพิ่งเอาลงทอดทันทีหลังสับ เพราะเอนไซม์ที่เปลี่ยนเป็น อัลลิซิน (Allicin) ต้องใช้เวลา 10 นาที
เคล็ดลับ: สับหรือบดแล้ว “พักไว้ก่อน” แล้วค่อยปรุง
ใครขี้เกียจบดเอง ⬇️
🌽 4. ข้าวโพดหวาน
ความร้อนช่วยเพิ่มสาร ลูทีน และ แซนทีน ซึ่งดีต่อสายตา
เคล็ดลับ: ต้มดีกว่ากินดิบ เพราะสารเหล่านี้เพิ่มขึ้นหลังผ่านความร้อน
🥬 5. ผักโขม/คะน้า
มี ออกซาเลต ที่ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและเหล็ก
แต่การ “ลวกหรือนึ่งสั้น ๆ” จะช่วยลดสารนี้ได้
🍄 6. เห็ด
เห็ดดิบย่อยยากและบางชนิดมีสารพิษอ่อน ๆ
เคล็ดลับ: ผัด หรือต้มก่อนกิน ปลอดภัยและได้สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า
🍠 7. มันฝรั่ง
มันฝรั่งดิบมีสารพิษชื่อ โซลาไนน์ (Solanine)
ต้องต้ม หรือนึ่งให้สุกก่อนเท่านั้น
🟣 8. มันม่วง / มะเขือม่วง / แครอทม่วง
ถ้าต้มในน้ำจะสูญเสียสาร แอนโทไซยานิน
ควร นึ่งหรืออบ เพื่อเก็บสารต้านอนุมูลอิสระไว้ครบ
ใครไม่มีหม้ออบ ⬇️
🌶️ 9. ขิงและขมิ้นสด
ต้มเดือดนานเกินไปจะทำให้สาร จินเจอรอล และ เคอร์คูมิน หาย
วิธีที่ดีที่สุด: ชงในน้ำร้อน 70–80°C แล้วแช่ไว้ 10 นาที
🍌 10. กล้วยน้ำว้า
กล้วยที่มี “จุดดำ” บนเปลือกจะมี TNF (Tumor Necrosis Factor) สูง
ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันและต้านมะเร็ง
💡“บางครั้ง การปรุงให้ถูกวิธี ไม่ได้ทำลายสารอาหาร — แต่ช่วยปลดล็อกสารอาหารเพิ่ม!”
ใครขี้เกียจเตรียมขี้เกียจปรุง ไปวิตามินเสริมโพสก่อนหน้าเล้ยย
โฆษณา