DHA (Docosahexaenoic acid) เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดยาวในกลุ่มโอเมก้า-3 (Omega-3 long chain polyunsaturated fatty acid) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อสมอง ดวงตา และระบบประสาท โดยเฉพาะในช่วงพัฒนาการของทารกและเด็กเล็ก รวมถึงการทำงานของสมองในผู้ใหญ่ DHA เป็นกรดไขมันหลักที่พบในเยื่อหุ้มเซลล์สมองและจอตา (retina) ซึ่งช่วยคงความยืดหยุ่นของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท ทำให้การส่งสัญญาณประสาทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
🔆ประโยชน์ของ DHA
1.พัฒนาการสมองและความจำ: DHA เป็นส่วนประกอบหลักของสมองประมาณ 15–20% ของกรดไขมันทั้งหมด มีบทบาทต่อการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ และความจำ งานวิจัยหลายฉบับแสดงว่า เด็กที่ได้รับ DHA เพียงพอจะมีคะแนนด้านสติปัญญา (IQ) และสมาธิดีกว่าเด็กที่ได้รับไม่เพียงพอ
2.สุขภาพดวงตา: DHA มีความสำคัญต่อการพัฒนาและคงสภาพของจอประสาทตา ช่วยให้การมองเห็นมีความคมชัดและลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม (age-related macular degeneration) ในผู้สูงอายุ
3.สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด: DHA มีส่วนช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด เพิ่มระดับ HDL (ไขมันดี) และลดการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งส่งผลให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
4.การตั้งครรภ์และพัฒนาการทารก: สตรีมีครรภ์ที่ได้รับ DHA อย่างเพียงพอจะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการด้านสมองและสายตาดีขึ้น งานวิจัยแนะนำให้ได้รับ DHA ประมาณ 200–300 มิลลิกรัมต่อวันในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
5. สุขภาพจิต: DHA ช่วยในการสังเคราะห์สารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (serotonin) จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล โดยเฉพาะในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
World Health Organization (WHO). Diet, Nutrition and the Prevention of Chronic Diseases. European Food Safety Authority (EFSA). Scientific Opinion on the Tolerable Upper Intake Levels for EPA, DHA, and DPA (Omega-3 fatty acids), 2012.