23 พ.ย. เวลา 03:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🦠 ไขปริศนา ‘โรคพุ่มพวง’ (SLE): เมื่อไวรัส EBV ที่หลบซ่อนในร่างกาย อาจเป็นตัวการที่แท้จริง

คุณผู้อ่านเคยจินตนาการไหมครับว่า... ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเรา อาจไม่ใช่เชื้อโรคใหม่ๆ จากภายนอก แต่มันคือ “เพื่อนเก่า” ที่อาศัยอยู่ในตัวเรามาตลอดชีวิตโดยที่เราไม่รู้ตัว?
เรื่องราวนี้เกี่ยวกับไวรัสชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า เอ็บสไตน์-บาร์ (Epstein-Barr Virus - EBV) ไวรัสที่ทำให้เกิด “โรค Kissing Disease" มันธรรมดามากจนคนทั้งโลกกว่า 95% มีเชื้อนี้อยู่ในตัว และส่วนใหญ่ก็อยู่ร่วมกับมันอย่างสงบสุขจนแก่เฒ่า
แต่สำหรับคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง... ไวรัสตัวนี้กลับไม่ได้เป็นแค่เพื่อนบ้านที่เงียบเชียบ แต่มันอาจเป็น “ผู้อยู่เบื้องหลัง” โรคเรื้อรังที่ทรมานและเป็นปริศนาที่สุดโรคหนึ่ง นั่นคือ “โรคลูปัส” (Lupus) หรือที่เราคนไทยรู้จักกันดีในชื่อ “โรคพุ่มพวง”
ทำไมไวรัสที่ใครๆ ก็มี ถึงกลายเป็นมัจจุราชสำหรับบางคน? และมันเกี่ยวข้องอย่างไรกับโรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันหันมาทำลายตัวเอง?
วันนี้ วิทยาศาสตร์ได้เปิดเผย “หลักฐานที่ชัดเจนที่สุด” เท่าที่เคยมีมา และมันกำลังจะเปลี่ยนความเข้าใจของเราต่อโรคนี้ไปตลอดกาล
🕵️‍♀️ ตามล่าหา “สายลับ” ในเม็ดเลือดขาว
โรคลูปัส (SLE) เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองที่ระบบภูมิคุ้มกันเกิดความสับสน แทนที่จะต่อสู้กับเชื้อโรค แต่กลับหันมาโจมตีเนื้อเยื่อของตัวเอง ทั้งผิวหนัง ข้อต่อ ไต และสมอง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ (กว่า 90%) เป็นผู้หญิง และสาเหตุที่แท้จริงก็ยังคงคลุมเครือมาตลอด
จนกระทั่ง วิลเลียม โรบินสัน (William Robinson) และทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ตัดสินใจมองไปที่ “ผู้ต้องสงสัย” ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่างไวรัส EBV
พวกเขาเจาะลึกลงไปในเลือดของผู้ป่วยลูปัส 11 คน และเปรียบเทียบกับคนปกติ 10 คน สิ่งที่พบนั้นน่าตกใจมากครับ:
  • ในคนปกติ: แทบจะไม่พบเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ติดเชื้อ EBV เลย (เจอแค่ 0-3 เซลล์)
  • แต่ในผู้ป่วยลูปัส: พวกเขาพบเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิด B-cells ที่ติดเชื้อ EBV สูงผิดปกติ ถึง 25 เซลล์ ต่อทุกๆ 10,000 เซลล์!
และที่สำคัญกว่าจำนวน คือ “ตำแหน่ง” ที่มันซ่อนตัวอยู่... มันไม่ได้ลอยไปมาเฉยๆ แต่มันเข้าไปฝังตัวอยู่ใน “เมมโมรี่บีเซลล์” (Memory B-cells) หรือหน่วยความจำของภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นเหมือน “หอสมุด” ที่เก็บข้อมูลเชื้อโรคทั้งหมดที่ร่างกายเคยเจอมา
การที่ไวรัสเข้าไปยึดครองหอสมุดแห่งนี้... คือจุดเริ่มต้นของหายนะ
💻 ปฏิบัติการ “แฮก” ระบบภูมิคุ้มกัน
ไวรัส EBV ไม่ได้ทำลายเซลล์ทิ้งครับ แต่มันทำสิ่งที่ฉลาดและร้ายกาจกว่านั้น... มันทำตัวเหมือน “แฮกเกอร์”
ทีมวิจัยค้นพบกลไกที่ซับซ้อนจนน่าทึ่ง:
  • 1.
    ไวรัสสร้างโปรตีนชื่อ EBNA2 ขึ้นมา
  • 2.
    โปรตีนตัวนี้จะเข้าไปจับกับยีน 2 ตัวในเซลล์ภูมิคุ้มกันของเรา (ยีน ZEB2 และ TBX21)
  • 3.
    การจับกันนี้เปรียบเสมือนการ “เขียนโปรแกรมใหม่” ให้เซลล์ทำงานผิดพลาด!
ผลลัพธ์คืออะไร? เซลล์เมมโมรี่บีที่ถูกแฮก จะเริ่มส่งสัญญาณมั่วซั่ว ไปกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่นๆ ให้ตื่นตัวและทำงานอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ควบคุมไม่ได้ สุดท้าย... กองทัพภูมิคุ้มกันที่สับสนก็หันปากกระบอกปืนเข้าหาอวัยวะของร่างกายตัวเอง
“การค้นพบของเราคือกลไกของไวรัสที่พบได้บ่อยมาก... ซึ่งเป็นสาเหตุพื้นฐานของโรคลูปัส” โรบินสันสรุปอย่างมั่นใจ
🧬 ทำไมฉันถึงป่วย แต่คุณไม่ป่วย?
คำถามที่ทุกคนต้องสงสัยคือ: “ถ้า 95% ของเรามีไวรัสนี้ ทำไมทุกคนไม่เป็นโรคพุ่มพวง?”
คำตอบอยู่ที่ “พันธุกรรม” ครับ โรบินสันอธิบายว่า มันคือความโชคร้ายที่ลงตัวระหว่างการติดเชื้อ EBV กับยีนบางอย่างในตัวบุคคลนั้น บางคนอาจมียีนที่ทำให้เซลล์บีของพวกเขามีแนวโน้มจะทำงานผิดพลาดได้ง่ายอยู่แล้ว เมื่อมาเจอกับ “ตัวกระตุ้น” อย่างไวรัส EBV ที่เข้ามาแฮก... ระเบิดเวลาก็ทำงานทันที
มันไม่ใช่ความผิดของใคร แต่มันคืออุบัติเหตุทางชีววิทยาที่เกิดขึ้นในบริบทของพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
🛡️ ความหวังใหม่: จากยามะเร็งสู่วัคซีน
การค้นพบกลไกนี้ ไม่ได้แค่ช่วยให้เราเข้าใจโรค แต่ยังเปิดประตูสู่การรักษาแบบใหม่ที่ตรงจุดยิ่งกว่าเดิม
ยารักษามะเร็ง อาจรักษาลูปัสได้? มีรายงานว่าการรักษาด้วยวิธี CAR T-cell therapy ซึ่งปกติใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว กลับได้ผลดีอย่างเหลือเชื่อในผู้ป่วยลูปัสบางราย ตอนนี้นักวิจัยเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไม... เป็นไปได้ว่า CAR T-cell เข้าไปกวาดล้าง “เซลล์บีที่ติดเชื้อ EBV” (หรือต้นตอของปัญหา) จนหมดเกลี้ยง ทำให้โรคลูปัสเข้าสู่ระยะสงบในระยะยาว (long-term durable remission) ได้
วัคซีนป้องกันลูปัส? และในระยะยาว... ถ้า EBV คือตัวการ การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อตั้งแต่แรกก็น่าจะเป็นคำตอบ การพัฒนา วัคซีนป้องกันไวรัส EBV จึงอาจไม่ได้แค่ป้องกันโรค Kissing Disease แต่ยังอาจป้องกันโรคลูปัส (และโรคแพ้ภูมิตัวเองอื่นๆ เช่น MS) ไม่ให้เกิดขึ้นเลยในคนรุ่นต่อไป!
“วัคซีนมีศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อ EBV และด้วยเหตุนี้จึงอาจป้องกันโรคลูปัสได้ในอนาคต” โรบินสันกล่าว
🏡 เมื่อศัตรูซ่อนอยู่ในเงา
เรื่องราวของไวรัส EBV และโรคพุ่มพวง สอนบทเรียนที่สำคัญให้กับเรา... บางครั้ง โรคภัยไข้เจ็บที่ซับซ้อนและเรื้อรัง อาจไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ที่มองไม่เห็นระหว่างพันธุกรรมของเรา กับไวรัสโบราณที่แฝงตัวอยู่คู่กับมนุษยชาติมานานแสนนาน
สำหรับผู้ป่วยโรคพุ่มพวงในประเทศไทย การค้นพบนี้คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ มันบอกเราว่าเรากำลังเดินมาถูกทางในการค้นหาต้นตอของโรค และในอนาคต เราอาจไม่ได้แค่ “รักษาตามอาการ” แต่เราอาจสามารถ “ถอนรากถอนโคน” โรคนี้ออกไปจากชีวิตได้จริงๆ
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ตัวการที่คาดไม่ถึง: ไวรัส EBV (ไวรัสโรคจูบ) ที่คน 95% มีในตัว อาจเป็นสาเหตุหลักของ “โรคพุ่มพวง” (Lupus)
✅ กลไกการแฮก: ไวรัสไม่ได้ทำลายเซลล์ แต่สร้างโปรตีนไป “เขียนโปรแกรม” เซลล์ความจำภูมิคุ้มกัน (Memory B-cells) ใหม่ ให้ทำงานผิดพลาดและโจมตีร่างกายตัวเอง
✅ ทำไมบางคนถึงป่วย: ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของแต่ละคน หากมียีนที่เสี่ยงอยู่แล้ว การติดเชื้อ EBV จะเป็นตัวจุดชนวนโรค
✅ ความหวังใหม่: การค้นพบนี้อธิบายว่าทำไมการรักษาด้วย CAR T-cell (ยามะเร็ง) ถึงได้ผลกับลูปัส และชี้ว่า “วัคซีน EBV” ในอนาคต อาจช่วยป้องกันโรคพุ่มพวงได้
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
ถ้าในอนาคตมีวัคซีนป้องกันไวรัส EBV ที่อาจช่วยป้องกันโรคพุ่มพวงได้... คุณจะเลือกฉีดให้ลูกหลานของคุณไหมครับ? และคุณคิดว่าเราควรตรวจหาไวรัสนี้ในผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเองทุกคนหรือไม่? ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลยครับ
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Younis, S., et al. (2025). Epstein-Barr virus reprograms autoreactive B cells as antigen-presenting cells in systemic lupus erythematosus. Science Translational Medicine. https://www.science.org/doi/10.1126/scitranslmed.ady0210

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา