15 ส.ค. 2022 เวลา 12:00 • ไลฟ์สไตล์
Self-Empathy สกิลที่คนรุ่นใหม่ต้องมี!
6
ปฎิเสธไม่ได้ว่าในยุคสมัยที่ทุกคนต้องตามทันโซเชียล ต้องเกาะติดกระแสทุกอย่าง ทำให้คนได้เห็นชีวิตกันง่ายขึ้นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย จนเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบ ความเครียดกันได้ง่าย
3
เช่นเดียวกับคนรุ่นใหม่และ First Jobber เป็นวัยที่มีความกดดันตัวเองค่อนข้างสูง วันนี้เราเลยจะบอกวิธีการทำ Self-Empathy หรือ การมอบความเมตตาให้ตัวเอง มันคือการที่เราให้ความสำคัญ ฟังความคิด เสียงในใจกับตัวเราเอง
1
ซึ่งสกิลเหล่านี้ฝึกกันไม่ได้ยาก แต่หลายคงทำไม่ได้ ซึ่งวันนี้ XO จะมาขอบอกเล่าเก้าสิบวิธีให้ทุกคนได้รู้จักและดูแลหัวใจตัวเองกันมากขึ้น
  • Step 1 : คุยกับตัวเองให้เหมือนคุยกับเพื่อนสนิทที่รู้ใจ
2
เราต้องลองพูดคุยกับตัวเองเหมือนกับเพื่อนสนิทคนนึง เป็นการบอกเล่าความรู้สึก ประสบการณ์ เรื่องราวต่างๆ ที่เจอมา ทบทวนสิ่งที่ตัวเองได้เจอ ได้ทำสิ่งไหนทุกข์ สิ่งไหนที่ทำให้ยิ้ม สิ่งไหนที่ทำให้มีความสุข
โดยสิ่งนี้จะทำให้เรารู้ว่าวันนี้เราเจอกับอะไรมา เราเก่งมากแค่ไหนที่เราผ่านมันมาได้ สิ่งไหนที่เราทำตัวไม่ดี สิ่งไหนที่ดี จะได้ไว้คอยปรับปรุงหรือชื่นชมตัวเองต่อไป
แนะนำให้ลิสต์หัวข้อเป็น (Bullet Point) เพราะเราเชื่อว่าเมื่อไหร่ที่กลับมารู้สึกดาวน์ ท้อ หรือ ไม่มั่นใจในตัวเอง ได้อ่านสิ่งที่ตัวเองลิสต์ไว้อีกครั้ง คงรู้สึกดีกลับมาไม่น้อย
  • Step 2: จริงๆแล้วเราก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง
1
มนุษย์เราโดยส่วนใหญ่ เวลาเจอคนที่เศร้า ท้อแท้ เหนื่อยใจ และยิ่งเป็นคนที่เรารักเราแคร์ เราจะมี Empathy ให้กับคนๆ นั้นได้ตลอดเวลา ทั้งยังใช้คำพูดปลอบโยนจนกว่าพวกเขาจะดีขึ้นแต่พอเป็นเรื่องของตัวเอง
แต่เรากลับไม่เคยปล่อยให้ตัวเองได้ ความรู้สึกแบบนั้นเลย พอเจอเรื่องแย่มา และรู้สึกเศร้า สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำคือ “ฉันต้องไม่เศร้า อย่าร้องไห้ ห้ามอ่อนแอ” ยิ่งพอเจอเรื่องหงุดหงิดมา “อย่าฉุนเฉียว ห้ามโกรธ มันดูไม่ดี”
1
สิ่งเหล่านี้คือแรงกดดันและการกดความรู้สึกของตัวเองทั้งนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราควรทำเลย คือ เข้าใจและรับรู้ว่า ตัวเราเองก็เป็นมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจและความรู้สึก โกรธได้ เศร้าได้ เสียใจได้เป็นเรื่องธรรมดา
1
  • Step 3: รู้เท่าทันอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง
2
เมื่อรับรู้ว่าตัวเราเองมีความรู้สึกยังไง เช่น อึดอัด โกรธ และเสียใจ เราก็แค่ปล่อยตัวเราให้เป็นไปตามความรู้สึก อยากร้องไห้ก็ร้อง อยากโกรธก็โกรธ
แต่เมื่อเวลาผ่านไปความขุ่นเคืองในใจเราลดลง เราต้องมีสติและมูฟออนทันที อย่าจมปลักกับอารมณ์นานเกินไป เพราะมันอาจจะทำให้เราใช้ชีวิตได้ไม่เต็มที่และไม่มีความสุข
3
  • Step 4: ใจดีกับตัวเองบ้างก็ได้
1
ข้อนี้จัดว่าสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันคือการปลดล็อคความรู้สึกของตัวเองอย่างแท้จริง การเข้าใจตนเอง Self Empathy ได้นั้น เราต้องรู้จักให้อภัยและอ่อนโยนกับตัวเอง
1
อย่าใจร้ายหรือใช้คำพูดรุนแรงกับตัวเองมากเกินไป ต้องรู้จักยืดหยุ่นให้กับความรู้สึกของตัวเอง ไม่ให้ตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไป การปล่อยให้จิตใจและร่างกายของเราได้พัก มันคือ การชาร์จแบตให้ร่างกายอย่างหนึ่ง
1
และควรหมั่นให้กำลังใจตัวเองเสมอว่า “วันนี้เหนื่อยก็พัก ไม่เป็นไร เอาเท่าที่ตัวเองไหว” นี่แหละคือการให้อภัยตัวเองและอ่อนโยนกับตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า (Self-Empathy)
เพราะการเมตตาต่อตนเองเป็นสิ่งสำคัญ มอบให้คนอื่นได้ ก็ต้องมอบให้ตัวเองด้วยเช่นกัน เมื่อเรารู้สึกเหนื่อยล้า หนักใจ ต้องการกำลังใจ ต้องการคนเข้าใจ เราไม่จำเป็นต้องรอ Empathy จากผู้อื่นเสมอไป เราต้องไม่ลืมที่จะให้และดูแลหัวใจตัวเอง พวกเราชาว XO เป็นกำลังใจให้ทุกคนน้า อย่าลืมเอาไปทำตามกันด้วยล่ะ
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา