โครงการพระไตรปิฎกฉบับธรรมชัย

๑.
แนวคิดและขั้นตอนการดำเนินงาน
ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ความสะดวกในการเดินทางในยุคปัจจุบัน ทำให้สามารถรวบรวมคัมภีร์ใบลานบาลีทุกสายจารีตที่ยังคงมีอยู่ในโลกให้ได้มากที่สุด และนำเนื้อหาของใบลานแต่ละชุดมาเทียบเคียงกัน ตรวจชำระโดยความร่วมมือของนักวิชาการ ทั่วโลก ให้ได้เป็นเนื้อหาพระไตรปิฎกฉบับที่ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด มีขั้นตอนการดำเนินงานโดยย่อ ดังนี้
๑.สำรวจแหล่งคัมภีร์ใบลานบาลีที่มีอยู่ในประเทศต่าง ๆ
๒.ทำความร่วมมือกับเจ้าของคัมภีร์ใบลานถ่ายเป็นภาพดิจิทัล
๓.คัดเลือกคัมภีร์ใบลานแล้วนำเนื้อหามาพิมพ์เป็นฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์
แปลงตัวอักษรของคัมภีร์ใบลานทุกสายจารีตเป็นอักษรโรมันเพื่อความสะดวกในการเทียบเคียงกัน
๔. สร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับการเทียบเคียงเนื้อหาคัมภีร์ใบลานสายจารีตต่าง ๆ เนื้อหาที่ไม่ตรงกันจะปรากฏเป็นแถบสีขึ้นมา
๕. ให้นักวิชาการบาลีมาตรวจชำระเป็นฉบับร่างที่ ๑
๖. ส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญบาลีที่เป็นบรรณาธิการหลักตรวจชำระเป็นฉบับร่างที่ ๒
๗.ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างนักวิชาการจนได้ข้อสรุปเป็นฉบับสมบูรณ์
๘.จัดพิมพ์เป็นหนังสือออกเผยแพร่
๙.นำข้อมูลฉบับสมบูรณ์ขึ้นบนอินเทอร์เน็ตให้ นักวิชาการทั่วโลกสามารถมาใช้ได้ โดยมีโปรแกรมค้นหาคำและอื่น ๆ ให้ใช้งานได้สะดวก
๑๐. เมื่อพบเนื้อหาที่สนใจ สามารถดึงภาพถ่ายดิจิทัลคัมภีร์ใบลานของเนื้อหาตรงส่วนนั้นทั้ง ๒๐ ฉบับขึ้นมาดูได้ด้วยตนเอง ขยายใหญ่เล็กได้ตามใจชอบ
๑๑.สามารถเรียกข้อมูล เหตุผล หลักฐานในการวินิจฉัยเลือกใช้คำนั้นขึ้นมาดูได้
๑๒.หากมีความเห็นอะไรต่อเนื้อหาหรือคำที่ใช้ในที่ นั้น ๆ สามารถเปิดช่องหน้าต่างของคำ ๆ นั้น แล้วพิมพ์ความเห็นของตนลงไปได้ นักวิชาการท่านอื่นที่มาดูเนื้อหาในส่วนนั้นภายหลัง จะเห็นสัญลักษณ์เหนือคำนั้น ทำให้รู้ว่ามีความเห็นของนักวิชาการท่านอื่นเขียนอยู่ และสามารถเปิดดูและให้ความเห็นเพิ่มเติมขึ้นอีกได้
1
๑๓.ความเห็นที่เป็นประโยชน์จะถูกนำมาใช้ในการตีพิมพ์ครั้งต่อไป พระไตรปิฎกฉบับธรรมชัยนี้จึงเป็นการนำพระไตรปิฎกเข้าสู่ยุคการสืบทอดด้วยระบบดิจิทัลอย่างเต็มตัว ซึ่งอำนวยความสะดวกให้นักวิชาการทางพระพุทธศาสนาทั่วโลกสามารถเข้าถึงเนื้อหาพระไตรปิฎกและแหล่งข้อมูลคัมภีร์ใบลานทุกสายจารีตได้โดยสะดวกด้วยระบบออนไลน์
มีแหล่งอ้างอิงเนื้อหาในพระไตรปิฎกบาลีที่มีความถูกต้องสูง อ่านพระไตรปิฎกฉบับธรรมชัยเพียงฉบับเดียวก็ทำให้รู้เนื้อหาของพระไตรปิฎกทั้งฉบับ PTS ของอังกฤษ ฉบับฉัฏฐสังคีติของเมียนมา ฉบับสยามรัฐของไทย และฉบับพุทธชยันตีของศรีลังกา เพราะเนื้อหาส่วนที่แตกต่างกันของฉบับต่าง ๆ ที่มีความสำคัญจะระบุไว้ในหมายเหตุของฉบับธรรมชัย
และพระไตรปิฎกฉบับธรรมชัยนี้ยังเป็นเวทีกลางในการรวบรวมความคิดความรู้ความสามารถของนักวิชาการทั่วโลกมาแบ่งปันกัน ร่วมกันพัฒนาข้อมูลพระไตรปิฎกให้สมบูรณ์ที่สุด นำไปสู่ความก้าวหน้าในการศึกษาวิจัยพระพุทธศาสนาเถรวาท และเกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
๒ .
การดำเนินงานจริง
โครงการพระไตรปิฎกฉบับธรรมชัย เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหลวงพ่อธัมมชโย ผู้สถาปนาวัดพระธรรมกาย
ในช่วงแรกเป็นการจัดตั้งคณะทำงาน ทางโครงการฯ ได้รวบรวมนักวิชาการ อาทิ พระมหาวรท กิตฺติปาโล, ดร. เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารโครงการฯ ดร.บรรเจิด ชวลิตเรืองฤทธิ์ เป็นผู้ประสานงานนักวิชาการ ดร.สุชาดา ศรีเศรษฐวรกุล เป็นหัวหน้าแผนกสร้างฐานข้อมูลจากคัมภีร์ใบลานแต่ละฉบับของทุกสายจารีต พระสมเกียรติ ยสินฺโท, ดร. เป็นหัวหน้าแผนกสารสนเทศ เป็นต้น
และได้เดินทางไปศรีลังกาเพื่อทำความร่วมมือกับสถาบัน Sri Lanka International Buddhist Academy (SIBA) และได้หารือกับศาสตราจารย์จี. เอ. โสมรัตเน อธิการบดี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการตรวจชำระ พระไตรปิฎกบาลี เป็นผู้ตรวจชำระพระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถาวรรค (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕) ในขณะเป็น นักวิจัยหลังปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ศาสตราจารย์โสมรัตเนสนใจโครงการนี้มาก
บอกว่าเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์มาก จะเป็นหลักไมล์สำคัญทางการศึกษาวิจัยพระพุทธศาสนาเถรวาท ตนพร้อมจะมาทำงานโครงการนี้เต็มเวลา ทางโครงการฯ จึงได้เชิญท่านมาเป็นผู้อำนวยการร่วมของโครงการฯ และทำงานเต็มเวลาที่วัดพระธรรมกาย และทางโครงการฯ ยังได้เชิญนักวิชาการบาลีทั้งจากไทย เมียนมา ศรีลังกา มาทำงานเต็มเวลาเกือบ ๒๐ ท่าน
ในด้านการรวบรวมภาพถ่ายคัมภีร์ใบลานนั้น ทางโครงการฯ ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับสถาบัน SIBA ณ กรุงแคนดี ประเทศศรีลังกา โดยสมเด็จพระสังฆนายก นิกายสยามวงศ์ ทรงเป็นประธานในพิธี เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
และได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงฆ์ ๓ แห่งของเมียนมา มีสมเด็จพระสังฆนายก ประเทศเมียนมาเป็นประธาน และมีอธิบดีกรมการศาสนา เมียนมา เป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ถ่ายภาพดิจิทัลคัมภีร์ใบลานบาลีที่เก็บรักษาอยู่ในหอสมุด วิจัยเมียนมา โดยทางโครงการฯ ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ในการถ่ายภาพ การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ จนถ่ายภาพคัมภีร์ใบลานบาลีทั้งพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา และคัมภีร์สัททาวิเสส (ไวยากรณ์) ที่เก็บรักษาใน หอสมุดทั้งหมด รวม ๖,๗๕๘ คัมภีร์
ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับหอสมุดแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนลาวและหน่วยงานทางการศึกษาในกัมพูชา เป็นต้น ถ่ายภาพคัมภีร์ใบลานบาลีในลาว และในกัมพูชา การถ่ายภาพคัมภีร์ใบลานในประเทศไทยก็ดำเนินไปอย่างกว้างขวาง ครอบคลุม จนขณะนี้ทางโครงการฯ ได้ถ่ายภาพคัมภีร์ใบลานบาลีไปแล้วรวมจำนวน ๑๐,๕๑๑ คัมภีร์ ถือเป็นแหล่งรวมภาพถ่ายคัมภีร์ใบลานบาลีที่มากที่สุดในโลก
ในวันที่ ๒๘-๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔ หลังจากทำงานมาได้ ๑ ปีเศษ เริ่มเห็นกรอบการทำงานชัดขึ้น จึงได้เชิญนักวิชาการทางพระพุทธศาสนาชั้นนำของโลกมาเป็นที่ปรึกษาโครงการ อาทิ
๑. ศาสตราจารย์ ออสการ์ วอน ฮินนูเบอร์ จาก เยอรมนี
๒. ศาสตราจารย์ ริชาร์ด กอมบริช จาก ม.อ็อกซ์ฟอร์ด อังกฤษ
๓. ศาสตราจารย์ พี. บี. มีกัสกุมบูระ จาก ศรีลังกา
๔. ศาสตราจารย์ วาย. กรุณาทสะ จาก ศรีลังกา
๕. ศาสตราจารย์ ปีเตอร์ แมสฟีลด์ จาก อังกฤษ และเชิญมาร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ Pali Tipitaka Workshop (The 1st Advisory Board Meeting) เพื่อหารือกำหนดวิธีการทำงานที่ชัดเจนขึ้น ที่ประชุมได้ให้ความเห็นที่มีประโยชน์มาก เช่น ให้เลือกคัมภีร์ใบลานมาสายจารีตละ ๕ ชุด รวม ๔ สายจารีตเป็น ๒๐ ชุด ก็เพียงพอที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ เพราะถ้าจะใช้คัมภีร์ใบลานทั้งหมดหลายร้อยชุด ปริมาณงานจะมากเกินไป จนยากจะทำให้เสร็จได้
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ดร. อเล็กซานเดอร์ วีน ได้มาทำงานเต็มเวลาเป็นบรรณาธิการหลักของโครงการฯ โดยการแนะนำของศาสตราจารย์ กอมบริช
ในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ ทางโครงการฯ ได้เชิญที่ปรึกษาโครงการฯ มาประชุม The 2nd Advisory Board Meeting ร่วมกันอีกครั้งเพื่อหารือรายละเอียดต่าง ๆ ในประเด็นที่พบเพิ่มเติม และได้จัดการประชุมวิชาการ The Pali Tipitaka Conference on The Transmission of Dhamma: from the Buddha’s Time to the Present Day ในงานเปิด ตัวพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย เล่ม ๑ ฉบับสาธิต (Pilot Version)
ซึ่งตีพิมพ์เป็นตัวอย่างให้ทุกคนได้เห็นแนวทางการทำงานของ โครงการฯ ที่ชัดเจนขึ้น ในการประชุมวิชาการครั้งนี้ นอกจากที่ปรึกษาโครงการตั้งแต่การประชุมครั้งแรกแล้ว มีนักวิชาการทางพุทธศาสนาระดับโลกมาร่วมบรรยายให้ความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ ศาสตราจารย์โรเบิร์ต เกอเธน นายกสมาคมบาลีปกรณ์ อังกฤษ ศาสตราจารย์มาร์ค แอลลอน จาก ม.ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ศาสตราจารย์มาซาฮิโระ ชิโมะดะ จาก ม.โตเกียว ญี่ปุ่น เป็นต้น
หลังจากนั้น ศาสตราจารย์ฮินนูเบอร์ผู้เชี่ยวชาญการตรวจชำระคัมภีร์บาลี-สันสกฤตแถวหน้าสุดของโลกยังได้กรุณามาร่วมทำการประชุมเชิงปฏิบัติการกับทีมนักวิชาการโครงการฯ เป็นระยะ เพื่อสรุปแนวทางการทำงาน อาทิ แนวทางการตรวจชำระหลักของโครงการ การวิเคราะห์ศัพท์ยากที่มีปัญหา วิธีการเขียนหมายเหตุ การใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ เป็นต้น
การถ่ายภาพคัมภีร์ใบลาน เป็นไฟล์ดิจิทัลที่เมียนมา
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ศาสตราจารย์โสมรัตเน ได้ลาออกจากโครงการฯ ไปเป็นศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง แต่ยังคงเป็นที่ปรึกษาโครงการฯ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ดร.ยามานากะ ยูกิโอะ ได้มาทำงานเป็นบรรณาธิการหลักอีกท่านหนึ่งของโครงการฯ โดยการแนะนำของศาสตราจารย์ฮินนูเบอร์ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ดร.ชาคริต แหลมม่วง ได้ทำงานเป็นบรรณาธิการหลักอีกท่านหนึ่งของโครงการฯ
การพิมพ์สร้างฐานข้อมูลจากคัมภีร์ใบลานในเมียนมา
การพิมพ์สร้างฐานข้อมูลจากคัมภีร์ใบลานในศรีลังกา
ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ พระมหาพงศ์ศักดิ์ ฐานิโย, ดร. และ ดร.ละอองดาว นนทะสร ได้ทำงานเป็นบรรณาธิการหลักของโครงการฯ
ในด้านการสร้างฐานข้อมูลจากคัมภีร์ใบลานที่คัดเลือกแล้วนั้น ทางโครงการฯ ได้ไปตั้งฐานการทำงานที่ประเทศกัมพูชา เมียนมา ศรีลังกา รวมทั้งในประเทศไทย และค่อย ๆ เพิ่มทีมงานขึ้น ทำให้งานคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว การทำฐานข้อมูลนั้นความถูกต้องมีความสำคัญมาก ทางโครงการฯ จึงได้วางระบบการทำงานโดยให้ใบลานแต่ละหน้ามีผู้ป้อนข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์ ๒ คน ทำงานแยกกัน
เมื่อแต่ละคนตรวจทานข้อมูลของตนจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำข้อมูลของทั้ง ๒ คนมาเทียบกันโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์ที่ทางโครงการฯ จัดทำขึ้น เนื้อหาที่ไม่เหมือนกันก็จะปรากฏเป็นแถบสี แสดงว่าต้องมีคนใดคนหนึ่งพิมพ์ผิดก็จะได้รับการตรวจแก้จนถูกต้อง
จากนั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญการอ่านคัมภีร์ใบลานในอักษรนั้น ๆ ตรวจความถูกต้องอีก ๑ รอบ ความถูกต้องของข้อมูลจึงสูงมาก ยิ่งเมื่อนำข้อมูลของใบลาน ๒๐ ชุดมาเทียบเคียงกัน ข้อความที่ไม่ตรงกันก็จะปรากฏเป็นแถบสี ซึ่งหากมีจุดที่สงสัยนักวิชาการที่ตรวจชำระก็สามารถเรียกภาพถ่ายใบลานนั้น ๆ ขึ้นมาตรวจดูอีกครั้งทำให้ความถูกต้องของฐานข้อมูลสมบูรณ์
ในด้านงานสารสนเทศนั้น ดร.สุมัชญา หาญสุขวรพาณิช ก็ได้มาเสริมทีมทำให้การพัฒนาโปรแกรมคืบหน้าสมบูรณ์ขึ้น
เมื่องานทุกด้านพร้อม ทางโครงการฯ จึงวางกำหนดการตีพิมพ์พระไตรปิฎกออกเผยแพร่ รวมทั้งนำข้อมูลพระไตรปิฎกทั้ง ๔๕ เล่ม ขึ้นบนระบบอินเทอร์เน็ต ดังนี้
ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนสนับสนุนช่วยเหลือโครงการฯ ในด้านต่าง ๆ จนงานก้าวหน้ามาถึงปัจจุบัน ทางโครงการฯ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ คำแนะนำ และการสนับสนุนจากท่านเจ้าภาพ นักวิชาการและชาวพุทธทั่วโลกต่อไป เพื่อรักษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระเถรานุเถระและชาวพุทธในอดีตได้มีความวิริยอุตสาหะรักษาสืบทอดมาถึงรุ่นของเราให้มีความถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด เป็นประทีปธรรมแก่ชาวโลกไปตลอดกาลนาน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา