Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Witly. - เปิดโลกวิทย์แบบเบา ๆ
•
ติดตาม
18 มิ.ย. เวลา 12:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
👥 PTSD ไม่ได้มีแค่ในสงคราม เมื่อบาดแผลทางใจเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน
เวลาได้ยินคำว่า PTSD คุณนึกถึงภาพอะไรครับ? หลายคนคงนึกถึงทหารในสนามรบ หรือผู้รอดชีวิตจากสงคราม แต่คุณรู้ไหมว่าความจริงแล้ว “สนามรบ” ที่สร้างบาดแผลลึกจนกลายเป็น PTSD นั้น สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ และซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากกว่าที่คิด
ความเชื่อที่ว่าคุณต้องเผชิญเหตุการณ์นั้น “โดยตรง” ถึงจะเจ็บปวดได้ เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนครับ เพราะในยุคนี้ เพียงแค่คุณ “เห็น” หรือ “ได้ยินเรื่องราว” ที่เลวร้ายซ้ำๆ ผ่านหน้าจอ ก็อาจเพียงพอที่จะสร้างบาดแผลทางใจได้แล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภาวะเปราะบางอยู่เดิม เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือมีประวัติคนในครอบครัวป่วยทางจิตเวช
วันนี้ เราจะมาสำรวจโลกอันซับซ้อนของสาเหตุเหล่านี้ เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมเรื่องนี้จึงใกล้ตัวเราทุกคน
💔 บาดแผลจากวัยเยาว์: เมื่อคนที่ควรปกป้องกลับทำร้าย
หนึ่งในสาเหตุที่หยั่งรากลึกและรุนแรงที่สุด คือการถูกทารุณกรรมในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย, อารมณ์ หรือทางเพศ การถูกทำร้ายหรือทอดทิ้งจากคนที่ควรจะมอบความรักและความปลอดภัยให้ สามารถสร้างบาดแผลที่ส่งผลกระทบยาวนานไปหลายสิบปี
ในช่วงวัยที่สมองและตัวตนกำลังก่อร่างสร้างตัว การทารุณกรรมสามารถบิดเบือนพัฒนาการของระบบประสาทและฮอร์โมนได้ ผลการศึกษาในปี 2021 พบว่าการถูกทารุณกรรมทาง “อารมณ์” โดยเฉพาะ มีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่เคส PTSD ที่รุนแรงที่สุด และกว่า 30% ของเด็กที่ถูกทำร้าย จะป่วยเป็น PTSD ไปตลอดชีวิต
โศกนาฏกรรมนี้ยังสร้างปัญหาเรื่อง “ความไว้ใจ” อย่างรุนแรง เมื่อต้นแบบของความปลอดภัยกลับล้มเหลว ผู้รอดชีวิตบางคนจึงอาจต้องต่อสู้กับการอนุญาตให้ใครสักคนเข้ามาในชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล
🏥 โศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝัน: จากอุบัติเหตุสู่ห้องฉุกเฉิน
บาดแผลทางใจไม่จำเป็นต้องเกิดจากความตั้งใจของใครเสมอไป อุบัติเหตุ, การเจ็บป่วยรุนแรง หรือการเฉียดตาย คือประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างมหาศาล เพราะมันคือการสูญเสียการควบคุมร่างกายและจิตใจอย่างสิ้นเชิง
ในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนัก มีข้อมูลว่าประมาณ 30% ของผู้ป่วยอาการหนักต้องเผชิญกับภาวะ PTSD หลังการรักษา เช่นเดียวกับผู้ป่วยมะเร็ง, ผู้ที่ถูกตัดอวัยวะ หรือผู้ที่เคยรักษาตัวในห้อง ICU
ความทรงจำอันเจ็บปวดนี้จะคอยควบคุมสิ่งที่คุณรู้สึกว่า “ทำได้” หรือ “ทำไม่ได้” ในใจลึกๆ การต้องกลับไปอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายเดิมอาจกระตุ้นให้เกิด Flashback ที่รุนแรง จนรู้สึกเหมือนกำลังจะตายอีกครั้ง
👶 วันที่ควรยินดีที่สุด กลับกลายเป็นวันที่เจ็บปวดที่สุด
หนึ่งในความทรงจำที่น่าปวดใจที่สุด อาจเกิดขึ้นในวันที่ควรจะมีความสุขที่สุด นั่นคือ “วันคลอดลูก” ภาวะ PTSD หลังคลอด (Postnatal PTSD) อาจเกิดจากการคลอดที่ยากลำบาก, การผ่าตัดฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์กระทบกระเทือนอื่นๆ ระหว่างการคลอด
เพราะเหตุการณ์เลวร้ายนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ ตัวของทารกเองจึงอาจกลายเป็น “ตัวกระตุ้น” (Trigger) ที่ทำให้หวนนึกถึงความเจ็บปวดนั้นได้ สิ่งนี้สร้างอุปสรรคใหญ่หลวงในการสร้างความผูกพันกับลูกน้อย
แรงกดดันจากสังคมที่คาดหวังให้พ่อแม่มีความสุข อาจทำให้บางคนไม่กล้าขอความช่วยเหลือเพราะละอายใจ แต่การยอมรับและขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ คือโอกาสที่ดีที่สุดในการก้าวข้ามบาดแผลและเริ่มต้นชีวิตครอบครัวอย่างแท้จริง
⛓️ บาดแผลที่มองไม่เห็น: เมื่อร่างกายและจิตใจถูกล่วงละเมิด
การถูกล่วงละเมิดทางเพศ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทิ้งบาดแผลลึกและนำไปสู่ PTSD ในอัตราที่สูงอย่างน่าตกใจ โดยผู้รอดชีวิตกว่า 45% มีอาการของ PTSD รวมถึงความรู้สึกละอายใจ, แปลกแยก และรู้สึกผิด
ความรู้สึก “โทษตัวเอง” (Self-blame) เป็นสิ่งที่พบได้บ่อย ในทางจิตวิทยา นี่อาจเป็นความพยายามของจิตใจที่จะทวงคืน “การควบคุม” กลับมา การโทษตัวเองทำให้ผู้รอดชีวิตรู้สึกว่าเหตุการณ์นั้นมีความยุติธรรมจอมปลอมซ่อนอยู่ และช่วยให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นโดยผลักอันตรายมาไว้ที่ตัวเอง แต่มันไม่เคยช่วยลดทอนความเจ็บปวดในระยะยาวได้เลย
🖤 การสูญเสียที่ไม่มีวันหวนกลับ
ในกรณีที่ไม่มีคำตอบหรือไม่มีการกระทำใดที่สามารถป้องกันเหตุการณ์เลวร้ายได้ ความทุกข์ทรมานจาก PTSD อาจยาวนานขึ้น การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของคนรัก คือหนึ่งในนั้น
เมื่อคนที่เรารักซึ่งเป็นส่วนสำคัญของชีวิตจากไปอย่างไม่คาดฝัน ผลกระทบทางอารมณ์จึงรุนแรงมหาศาล ความเศร้าโศกนั้นหนักหนาพอแล้ว แต่ลองจินตนาการว่าถ้าคุณต้องเห็นภาพเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ หรือเห็นวินาทีสุดท้ายของพวกเขาอย่างละเอียด ผ่านความคิดที่ควบคุมไม่ได้ มันจะเจ็บปวดแค่ไหน
👮 ‘แนวหน้า’ ไม่ใช่แค่ทหาร: อาชีพที่ต้องแบกรับความเสี่ยง
นอกจากเหตุการณ์เฉพาะเจาะจงแล้ว ยังมีกลุ่มอาชีพที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้ายและความเป็นความตายของผู้อื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเกิดเป็นบาดแผลสะสม กลุ่มคนเหล่านี้คือบุคลากร "ด่านหน้า" ที่แท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ, ทหาร, แพทย์และพยาบาลห้องฉุกเฉิน, นักดับเพลิง, ผู้คุมในเรือนจำ หรือแม้แต่นักข่าวสายอาชญากรรม การต้องเห็นภาพความรุนแรงหรือรับฟังเรื่องราวที่สะเทือนขวัญเป็นประจำ ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงสูงอย่างยิ่งในการเกิด PTSD ซึ่งมักถูกมองข้ามไปเพราะถูกมองว่าเป็น “ส่วนหนึ่งของงาน”
🏡 ในสังคมไทย
วัฒนธรรม "เรื่องในบ้านอย่าให้คนนอกรู้" และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ความเกรงใจ” ที่ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาไม่สบายใจกับปัญหาของเรา อาจเป็นกำแพงที่หนาที่สุดที่ทำให้ผู้ที่เผชิญเหตุการณ์เหล่านี้ ไม่กล้าที่จะขอความช่วยเหลือ
การสร้างความตระหนักรู้ว่าสาเหตุของ PTSD นั้นหลากหลายและใกล้ตัวกว่าที่คิด จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการทลายกำแพงนั้นลง และสร้างสังคมที่พร้อมจะรับฟังและช่วยเหลือกันและกันมากขึ้น
💡 เพราะความเข้าใจคือสิ่งสำคัญ ลอง ‘บันทึก’ โพสต์นี้เก็บไว้อ่าน หรือถ้าอยากให้เพื่อนๆ ได้มุมมองใหม่ๆ ไปด้วยกัน การ ‘แชร์’ ก็เป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลยครับ!
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ สาเหตุหลากหลายกว่าที่คิด: PTSD ไม่ได้เกิดจากสงครามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทารุณกรรม, อุบัติเหตุ, การเจ็บป่วย, การคลอดบุตร, การถูกล่วงละเมิด และการสูญเสีย
✅ ไม่ต้องเจอเองก็เจ็บได้: เพียงแค่การได้เห็นหรือได้ฟังเรื่องราวที่เลวร้ายอย่างสุดขีด ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นให้เกิด PTSD ได้ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัล
✅ ร่างกายและความทรงจำเชื่อมโยงกัน: เหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง เช่น การคลอดบุตรที่ยากลำบาก สามารถทำให้บุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้อง (เช่น ลูกน้อย) กลายเป็นตัวกระตุ้นความทรงจำที่เจ็บปวดได้
✅ อาชีพก็คือความเสี่ยง: มีกลุ่มอาชีพที่ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์สะเทือนขวัญเป็นประจำ เช่น ตำรวจ, ทหาร, แพทย์ฉุกเฉิน, ผู้คุม และนักข่าว ซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการเกิด PTSD
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
หากเรื่องราวของวันนี้มีประโยชน์ แล้วทำให้คุณอยากรู้เรื่องอื่นๆ อีก ผมก็ดีใจมากเลยครับ ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" เล็กๆ น้อยๆ ของคุณ คือพลังสำคัญที่ทำให้ผมมีกำลังใจค้นคว้าแล้วก็เอาเรื่องราววิทยาศาสตร์น่ารู้แบบนี้มาเล่าให้ฟังกันอีกเรื่อยๆ และยังเป็นการช่วยสร้างพื้นที่ความรู้ดีๆ ให้กับสังคมของเราด้วยครับ
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
เรื่องราวเหล่านี้ ทำให้คุณมองคนรอบข้างหรือเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคมเปลี่ยนไปบ้างไหมครับ?
การเข้าใจถึงสาเหตุที่หลากหลาย คือก้าวแรกของการมอบความเข้าอกเข้าใจให้แก่กันและกัน ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองกันได้ในคอมเมนต์เลยครับ
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Harvey, A. (2025). Coping with PTSD. Psychology Now, 8, 16-20.
วิทยาศาสตร์
สุขภาพจิต
จิตวิทยา
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Psy.Know
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย