Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Doctor Near you (หมอใกล้คุณ)
•
ติดตาม
22 ก.ค. เวลา 11:13 • สุขภาพ
เจาะลึก LDL : ไม่ได้มีแค่ค่าตัวเลข แต่ "ขนาด" ก็สำคัญ (sdLDL vs lbLDL)
เราทุกคนต่างคุ้นเคยกับ LDL-C (Low-Density Lipoprotein Cholesterol) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว " กองทัพ LDL " นี้ไม่ได้มีทหารขนาดเดียวกันทั้งหมด พวกมันแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยๆ ที่มีขนาดและความหนาแน่นแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความดุร้ายในการทำลายหลอดเลือดของเราอย่างมหาศาล
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ LDL สองชนิดย่อยที่สำคัญ คือ sdLDL และ lbLDL รวมถึง LDL Pattern A และ B ซึ่งเป็นการจำแนกรูปแบบของไขมัน LDL ในเลือดของเราครับ
★
ความแตกต่างของ lbLDL และ sdLDL คืออะไร?
เมื่อเราตรวจเลือดและได้ค่า LDL-C มา ค่าดังกล่าวคือปริมาณคอเลสเตอรอลทั้งหมดที่อยู่ในอนุภาค LDL โดยไม่ได้แยกขนาด แต่ในความเป็นจริง อนุภาค LDL แบ่งได้หลักๆ 2 ชนิด คือ
■
Large buoyant LDL (lbLDL)
เป็นอนุภาค LDL ที่มีขนาดใหญ่ แต่มีความหนาแน่นต่ำ นึกภาพเหมือน "ลูกบอลชายหาด" ที่ลอยฟูๆ อยู่ในกระแสเลือด เราเรียกรูปแบบไขมันที่ส่วนใหญ่เป็นชนิดนี้ว่า LDL Pattern A
■
Small dense LDL (sdLDL)
เป็นอนุภาค LDL ที่มีขนาดเล็ก แต่กลับมีความหนาแน่นสูง นึกภาพเหมือน "ลูกปืนเหล็ก" ที่เล็กแต่หนักแน่น เราเรียกรูปแบบไขมันที่ส่วนใหญ่เป็นชนิดนี้ว่า LDL Pattern B
จริงๆก็ร้ายทั้งคู่นะ แต่ sdLDL ร้ายกว่า 1.6 เท่า
★
ที่มาและกลไก: ทำไมขนาดของ LDL จึงแตกต่างกัน?
ขนาดของ LDL ไม่ได้เกิดขึ้นมาแบบสุ่ม แต่เป็นผลมาจากกระบวนการเมตาบอลิซึมของไขมันในร่างกาย โดยมีปัจจัยสำคัญคือ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) และเอนไซม์ต่างๆ
กลไกเชิงลึก
1. ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง (Hypertriglyceridemia): เมื่อในเลือดมีไตรกลีเซอไรด์สูง จะมีอนุภาคไขมันชื่อ VLDL (Very Low-Density Lipoprotein) ที่อุดมด้วยไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้น
2. บทบาทของ CETP: เอนไซม์ Cholesteryl Ester Transfer Protein (CETP) จะทำหน้าที่แลกเปลี่ยนไขมันระหว่างอนุภาค VLDL และ LDL โดยจะย้ายไตรกลีเซอไรด์จาก VLDL ไปให้ LDL และรับคอเลสเตอรอลจาก LDL กลับมา
3. เกิด LDL ที่อุดมด้วยไตรกลีเซอไรด์: ผลจากข้อ 2 ทำให้ LDL กลายเป็นอนุภาคที่ "อ้วน" ไปด้วยไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride-rich LDL) ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่เสถียร
4. บทบาทของ Hepatic Lipase (HL): เอนไซม์ Hepatic Lipase ที่ตับ จะเข้ามาสลายไตรกลีเซอไรด์ที่อยู่ใน LDL อนุภาคนี้ เมื่อไตรกลีเซอไรด์ถูกสลายออกไป อนุภาค LDL จะสูญเสียแกนกลางส่วนใหญ่ไป ทำให้มัน "ยุบตัว" ลง กลายเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กและหนาแน่นขึ้น หรือ sdLDL นั่นเอง
ดังนั้น ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูงและ HDL-C ต่ำ จึงมีความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับการมี sdLDL หรือ LDL Pattern B ในเลือด ซึ่งเป็นลักษณะที่พบบ่อยในผู้ป่วย Metabolic Syndrome, Insulin Resistance และเบาหวานชนิดที่ 2
★
sdLDL อันตรายกว่า lbLDL จริงหรือไม่?
คำตอบคือ: จริงอย่างยิ่ง
แม้จะเป็น LDL เหมือนกัน แต่ sdLDL (Pattern B) มีคุณสมบัติที่ทำให้มันเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดแดง (Atherogenic) มากกว่า lbLDL (Pattern A) หลายเท่าตัว ด้วยเหตุผลดังนี้
●
ขนาดเล็ก แทรกซึมง่าย: ด้วยขนาดที่เล็กกว่า sdLDL สามารถแทรกซึมผ่านช่องว่างระหว่างเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด (Endothelial cells) เข้าไปในผนังหลอดเลือดชั้นใน (Intima) ได้ง่ายกว่า lbLDL อย่างมีนัยสำคัญ
●
อยู่ในกระแสเลือดนานกว่า: sdLDL มีความสามารถในการจับกับตัวรับ LDL (LDL receptor) ที่ตับได้ไม่ดีเท่า lbLDL ทำให้ตับกำจัดมันออกจากกระแสเลือดได้ช้าลง มันจึงมีเวลาล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดและสร้างความเสียหายได้นานขึ้น (Longer residence time)
●
ถูกออกซิไดซ์ได้ง่าย (Susceptibility to Oxidation): sdLDL มีความไวต่อการถูกสารอนุมูลอิสระโจมตี (Oxidation) มากกว่า เมื่อกลายเป็น Oxidized LDL มันจะกระตุ้นการอักเสบและถูกเซลล์เม็ดเลือดขาว (Macrophages) จับกินอย่างตะกละตะกลามจนกลายเป็น Foam Cell ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของพลัค (Plaque) หรือตะกรันในหลอดเลือด
●
กระตุ้นการอักเสบและลิ่มเลือด: sdLDL ยังสัมพันธ์กับการอักเสบในผนังหลอดเลือดและส่งเสริมภาวะที่ทำให้เลือดแข็งตัวง่ายขึ้น (Prothrombotic state)
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ แม้คนสองคนจะมีค่า LDL-C เท่ากัน แต่คนที่ส่วนใหญ่เป็น sdLDL (Pattern B) จะมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจสูงกว่าคนที่ส่วนใหญ่เป็น lbLDL (Pattern A)
★
ความเชื่อที่อันตราย: "LDL สูงแต่เป็น Pattern A ไม่อันตราย" จริงหรือ?
คำตอบคือ: ไม่จริง
นี่เป็นความเข้าใจผิดที่อันตรายมาก แม้ว่า LDL Pattern A จะมีความอันตรายน้อยกว่า Pattern B เมื่อเทียบกันที่ระดับ LDL-C เท่ากัน แต่ ค่า LDL-C ที่สูง ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก (Major Independent Risk Factor) ของโรคหลอดเลือดหัวใจ
ให้เปรียบเทียบดังนี้
●
LDL-C คือ "ปริมาณรถยนต์บนถนน"
●
LDL Pattern คือ "พฤติกรรมการขับขี่"
การมี LDL-C สูงแต่เป็น Pattern A (lbLDL) ก็เหมือนมีรถยนต์บนถนนจำนวนมาก แต่ทุกคันขับขี่ค่อนข้างเรียบร้อย (ความเสี่ยงระดับหนึ่ง)
การมี LDL-C สูงและเป็น Pattern B (sdLDL) ก็เหมือนมีรถยนต์บนถนนจำนวนมาก และทุกคันขับขี่ปาดไปมาน่าหวาดเสียว (ความเสี่ยงสูงขึ้นมาก)
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น Pattern A หรือ B เป้าหมายแรกยังคงเป็นการควบคุมปริมาณ LDL-C ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ตามระดับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล การทราบว่าเป็น Pattern A อาจช่วยให้สบายใจขึ้น เล็กน้อย แต่ไม่ใช่ใบอนุญาตให้ปล่อยปละละเลยค่า LDL-C ที่สูงได้
★
ข้อมูลเชิงสถิติ: เปรียบเทียบความเสี่ยง CVS Risk (Pattern A vs B)
จากข้อมูลงานวิจัยขนาดใหญ่และ Meta-analysis หลายฉบับ พบว่ากลุ่มที่มี LDL Pattern B มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจสูงกว่ากลุ่ม Pattern A ประมาณ 1.5 - 2.0 เท่า (Relative Risk, RR ≈ 1.5 - 2.0) แม้จะมีค่า LDL-C, อายุ, เพศ และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เท่ากัน
■
ตัวอย่างการคำนวณความเสี่ยงเปรียบเทียบ (Hypothetical Example)
ชายไทย อายุ 55 ปี, ไม่สูบบุหรี่, ไม่เป็นเบาหวาน, ความดันโลหิต 130/80 mmHg (ไม่ได้รับยาลดความดัน), HDL-C 45 mg/dL มีโปรไฟล์อื่นๆ เหมือนกันทุกประการ ต่างกันที่รูปแบบ LDL และระดับ LDL-C
เราจะใช้ Thai CV Risk Score เป็นฐานในการคำนวณความเสี่ยง 10-year CVS risk สำหรับ Pattern A และใช้ค่า Relative Risk (RR) ที่ 1.6 (ค่ากลางๆ) เพื่อประมาณความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับ Pattern B
สมมติฐาน
●
Pattern A Profile: Triglycerides (TG) = 100 mg/dL (สมมติฐานสำหรับโปรไฟล์ที่ดี)
●
Pattern B Profile: เราจะใช้ค่าความเสี่ยงพื้นฐานจาก Pattern A แล้วคูณด้วย RR เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากตัว "Pattern" เอง
Total Cholesterol (TC): TC = LDL-C + HDL-C + (TG/5)
●
LDL 130 -> TC = 130 + 45 + (100/5) = 195 mg/dL
●
LDL 160 -> TC = 160 + 45 + (100/5) = 225 mg/dL
●
LDL 190 -> TC = 190 + 45 + (100/5) = 255 mg/dL
เปรียบเทียบ 10-Year CVS Risk และ Relative Risk (RR)
✓
Case 1 : LDL = 130 ; Non-HDL cholesterol = 195
- 10 year CVS risk -
Pattern A : 7.4 %
Pattern B : 11.8 % (สูงกว่า pattern A ~ 1.6 เท่า)
✓
Case 2 : LDL = 160 ; Non-HDL cholesterol = 225
- 10 year CVS risk -
Pattern A : 9.6 %
Pattern B : 15.4 % (สูงกว่า pattern A ~ 1.6 เท่า)
✓
Case 3 : LDL = 190 ; Non-HDL cholesterol = 255
- 10 year CVS risk -
Pattern A : 12.3 %
Pattern B : 19.7 % (สูงกว่า pattern A ~ 1.6 เท่า)
หมายเหตุ: ค่า %Risk จาก Thai CV Risk Score เป็นค่าประมาณการณ์เพื่อใช้ในการแสดงแนวคิด
●
ที่ LDL 130 mg/dL ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นค่าที่ "พอรับได้" หรือ "คุมได้ดีแล้ว" หากบุคคลนั้นเป็น Pattern B ความเสี่ยงของเขาจะพุ่งขึ้นจากระดับปานกลาง (7.4%) ไปสู่ระดับสูง (11.8%) ทันที
●
ที่ LDL 160 mg/dL ความแตกต่างยิ่งชัดเจน ความเสี่ยงของ Pattern B สูงกว่า Pattern A ถึงเกือบ 6%
●
จะเห็นได้ว่าในทุกระดับของ LDL-C การเป็น Pattern B ทำให้ความเสี่ยงสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางคลินิก การเป็น Pattern B เป็น "Risk Enhancer" ที่สำคัญอย่างยิ่ง
--- สรุปและคำแนะนำ ---
✓
LDL ไม่ได้มีแค่ปริมาณ แต่มีคุณภาพ: การรู้จัก sdLDL (Pattern B) ช่วยให้เราเข้าใจความเสี่ยงได้ลึกซึ้งขึ้น
✓
sdLDL อันตรายกว่าจริง: ด้วยคุณสมบัติที่แทรกซึมผนังหลอดเลือดง่าย, อยู่ในเลือดนาน และถูกออกซิไดซ์ง่าย
✓
อย่าชะล่าใจกับ Pattern A: LDL-C สูงยังคงเป็นอันตรายเสมอไม่ว่าจะรูปแบบใด
✓
การตรวจในปัจจุบัน: การตรวจ LDL subfractions โดยตรง (เช่นวิธี ultracentrifugation หรือ electrophoresis) ยังมีค่าใช้จ่ายสูงและไม่แพร่หลาย เราจึงมักใช้ค่าอื่นเป็นตัวแทน (Surrogate markers)
- อัตราส่วน Triglyceride / HDL-C: หากค่านี้สูง (เช่น > 3.0-3.8) บ่งชี้ว่าน่าจะมี sdLDL เด่น
- ค่า Non-HDL-C: (Total-C ลบด้วย HDL-C) ก็เป็นตัวชี้วัดที่ดีกว่า LDL-C เพียงอย่างเดียวในผู้ที่มีไตรกลีเซอไรด์สูง
✓
การปรับเปลี่ยน Lifestyle คือหัวใจ: การลดน้ำหนัก, การออกกำลังกายสม่ำเสมอ, การลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตแปรรูปและน้ำตาล จะช่วยลดไตรกลีเซอไรด์และเพิ่ม HDL-C ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเปลี่ยน LDL Pattern B ให้เป็น Pattern A
การประเมินปัจจัยเหล่านี้มีประโยชน์ในการพิจารณาเพิ่มความเข้มข้นของการรักษา (เช่น การให้ Statin ที่เข้มข้นขึ้น หรือพิจารณายาเสริม) ในผู้ป่วยที่แม้ค่า LDL-C จะดูไม่สูงมาก แต่มีลักษณะของ Pattern B ชัดเจน เพื่อลดความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่นี้ให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบัน มีแนวโน้มพบว่าความเสี่ยงมีความสัมพันธ์ กับจำนวน particle มากกว่าน้ำหนักที่ถูกบรรทุกไว้
ความรู้รอบตัว
สุขภาพ
การแพทย์
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Lipid : everything that you should know
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย