26 ก.ค. เวลา 12:07 • สุขภาพ

แพทย์ใช้เกณฑ์ใดในการตัดสินใจรักษาไขมัน ? MACE และการประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจใน 10 ปี

โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Diseases - CVDs) ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลกและของประเทศไทย การเข้าใจถึง "ความเสี่ยง" ของตนเองจึงเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การป้องกันและมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับการประเมินความเสี่ยงที่แพทย์ใช้ ที่เรียกว่า "10-year Cardiovascular Risk" และเป้าหมายสำคัญในการป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เรียกว่า MACE (Major Adverse Cardiovascular Events)
  • MACE คืออะไร? และการป้องกัน 2 รูปแบบ
MACE เป็นคำที่วงการแพทย์ใช้เรียกกลุ่มเหตุการณ์รุนแรงที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งโดยทั่วไปประกอบด้วย
  • การเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Death)
  • ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Myocardial Infarction - MI) หรือหัวใจวาย
  • โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
การป้องกัน MACE แบ่งออกเป็น 2 ระดับอย่างชัดเจน ตามสถานะของแต่ละบุคคล
1. การป้องกันปฐมภูมิ (Primary Prophylaxis)
-- สำหรับใคร --
บุคคลทั่วไปที่ ยังไม่เคยมี ประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน (Atherosclerotic Cardiovascular Disease - ASCVD) มาก่อน เช่น ยังไม่เคยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, หรืออัมพฤกษ์ อัมพาตจากหลอดเลือดสมองตีบ
-- เป้าหมาย --
"ป้องกัน" ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ MACE ครั้งแรกในชีวิต
2. การป้องกันทุติยภูมิ (Secondary Prophylaxis)
-- สำหรับใคร --
ผู้ป่วยที่ เคยมี เหตุการณ์ของโรค ASCVD มาแล้ว เช่น เคยทำบอลลูนใส่ขดลวด, เคยผ่าตัดบายพาส, เคยเป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือโรคหลอดเลือดสมอง
-- เป้าหมาย --
"ป้องกัน" การเกิดเหตุการณ์ MACE ซ้ำ และลดอัตราการเสียชีวิต
ความแตกต่างนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะระดับความเข้มข้นในการรักษาและเป้าหมายในการควบคุมปัจจัยเสี่ยงจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแน่นอนว่าการป้องกันทุติยภูมิ (2nd prophylaxis) จะเข้มข้นกว่าอย่างชัดเจน
  • กระบวนการประเมินความเสี่ยง: แพทย์มองลึกไปถึงไหน?
การประเมินความเสี่ยงไม่ใช่การเดาสุ่ม แต่เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ข้อมูลของผู้ป่วยแต่ละรายเพื่อคำนวณโอกาสเกิดโรคในอนาคต
1. เครื่องมือหลัก
Risk Score Calculators แพทย์จะใช้แบบประเมินความเสี่ยง (Risk Score) ที่สร้างจากข้อมูลประชากรขนาดใหญ่ ในบริบทของประเทศไทยที่นิยมใช้คือ Thai CV Risk Score ซึ่งคำนวณความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจใน 10 ปีข้างหน้า โดยใช้ปัจจัยต่างๆ เช่น เพศ, อายุ, การสูบบุหรี่, ค่าความดันโลหิตตัวบน (Systolic Blood Pressure) และระดับไขมันคอเลสเตอรอล
2. การมองให้ลึกกว่าตัวเลข
Surrogate Endpoints ในบางกรณี โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงปานกลาง (Intermediate Risk) การตัดสินใจให้การรักษาอาจยังไม่ชัดเจน แพทย์อาจพิจารณาตรวจหา "Surrogate Endpoints" หรือตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของโรคหลอดเลือดแข็งในระยะเริ่มต้น ซึ่งเป็นตัวทำนายการเกิด MACE ในอนาคตได้ดีขึ้น ได้แก่
  • Coronary Artery Calcium (CAC) Score: การทำ CT Scan เพื่อดูปริมาณหินปูนที่เกาะในหลอดเลือดหัวใจ ค่า CAC Score ที่สูง (> 0) บ่งชี้ว่ามีภาวะหลอดเลือดแข็งตัวแล้ว และเพิ่มความเสี่ยง MACE อย่างมีนัยสำคัญ
  • Carotid Intima-Media Thickness (CIMT): การทำอัลตราซาวด์ที่หลอดเลือดคอ เพื่อวัดความหนาของผนังหลอดเลือด เป็นตัวบ่งชี้ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวทั่วร่างกาย
  • Ankle-Brachial Index (ABI): การวัดความดันโลหิตที่ข้อเท้าเทียบกับแขน เพื่อตรวจหาภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (Peripheral Artery Disease)
3. เป้าหมายสูงสุด
Longevity & Survival เป้าหมายสุดท้ายของการประเมินความเสี่ยง ไม่ใช่แค่การป้องกัน MACE ใน 10 ปี แต่คือการเพิ่ม "ช่วงชีวิตที่มีสุขภาพดี" (Healthspan) และ "อายุขัย" (Lifespan) การจัดการปัจจัยเสี่ยงตั้งแต่เนิ่นๆ คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว
  • ปัจจัยเสี่ยง: สิ่งที่ควบคุมได้และไม่ได้
1. ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ (Non-Modifiable / Independent Risks)
  • อายุ (Age): เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทรงพลังที่สุด ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสี่ยงยิ่งสูงขึ้น
  • เพศ (Sex): โดยทั่วไปเพศชายมีความเสี่ยงสูงกว่าเพศหญิงในวัยก่อนหมดประจำเดือน
  • พันธุกรรม/ประวัติครอบครัว (Genetics/Family History): การมีญาติสายตรง (พ่อ, แม่, พี่, น้อง) เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจก่อนวัยอันควร (ผู้ชาย < 55 ปี, ผู้หญิง < 65 ปี) เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ
2. ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้ (Modifiable Risks)
  • ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
  • ไขมันในเลือดผิดปกติ (Dyslipidemia) โดยเฉพาะ LDL-Cholesterol หรือ Non-HDL cholestrol ที่ผิดปกติ
  • โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
  • การสูบบุหรี่ (Smoking)
  • ภาวะอ้วนลงพุง และวิถีชีวิตที่ขาดการเคลื่อนไหว (Obesity & Sedentary Lifestyle)
  • อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ (Unhealthy Diet)
--- กรณีตัวอย่าง ---
เคสที่ 1: ชายไทยอายุ 45 ปี (Low Risk)
  • ไม่มีโรคประจำตัว, ไม่สูบบุหรี่, ความดัน 120/80 mmHg, Total Cholesterol 180 mg/dL, HDL 50 mg/dL
  • การประเมิน: Thai CV Risk Score คำนวณได้ < 5% (ความเสี่ยงต่ำ)
  • การจัดการ: เน้นการให้คำแนะนำด้าน Lifestyle Modification (LSM) เพื่อคงสุขภาพที่ดีต่อไป ตรวจสุขภาพประจำปี
เคสที่ 2: หญิงไทยอายุ 55 ปี (Intermediate Risk)
  • ความดัน 138/88 mmHg, Total Cholesterol 220 mg/dL, HDL 45 mg/dL, ไม่สูบบุหรี่, ไม่มีเบาหวาน
  • การประเมิน: Thai CV Risk Score คำนวณได้ 15% (ความเสี่ยงปานกลาง)
  • การจัดการ
-- เริ่มต้นด้วย LSM อย่างจริงจัง
-- อาจพิจารณาตรวจ CAC Score เพื่อช่วยตัดสินใจ หาก CAC Score > 100 แพทย์จะพิจารณาเริ่มให้ยาลดไขมัน (Statin) ทันที (จะมากล่าวถึง evidence base จุดนี้อีกครั้ง)
-- เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างแพทย์และผู้ป่วย (Shared Decision Making)
เคสที่ 3: ชายไทยอายุ 60 ปี (High Risk)
  • เป็นเบาหวาน, สูบบุหรี่, ความดัน 150/90 mmHg, Total Cholesterol 240 mg/dL, HDL 35 mg/dL
  • การประเมิน: Thai CV Risk Score คำนวณได้ > 30% (ความเสี่ยงสูง)
  • การจัดการ
-- จำเป็นต้องใช้ยา เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดอย่างเข้มงวด
-- ยาลดไขมันกลุ่ม Statin (High-intensity), ยาลดความดัน, ยาควบคุมเบาหวาน
-- แนะนำให้เลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาด และปรับเปลี่ยน Lifestyle อย่างเต็มรูปแบบ
เคสที่ 4: ชายไทยอายุ 65 ปี (Secondary Prevention / Recurrent Disease)
  • เคยมีประวัติกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและใส่ขดลวดเมื่อ 2 ปีก่อน
  • การประเมิน: ไม่ต้องคำนวณ Risk Score ผู้ป่วยกลุ่มนี้ถูกจัดอยู่ใน กลุ่มเสี่ยงสูงสุด (Very High Risk) โดยอัตโนมัติ ; เพราะโดยทั่วไปแล้ว Recurrent rate อยู่ที่ 15-20% ต่อปี (ไม่ใช่ / 10 ปี)
  • การจัดการ
-- การรักษาเชิงรุก (Aggressive Treatment) คือมาตรฐาน
-- เป้าหมาย LDL-Cholesterol ต้องต่ำมาก (ตาม Guideline ปัจจุบันอาจต้อง < 55 mg/dL) แต่ถ้ามีข้อจำกัดอื่นๆ การลดได้มากที่สุดเท่าที่ได้ ก็ดีกว่าที่จะไม่ใส่ใจเลย
-- ต้องได้รับยาครบถ้วนตามกรณีของโรคที่เป็นอยู่ เช่น : ยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น Aspirin, Clopidogrel), Statin ความแรงสูง, ยาลดความดัน (เช่น ACEI/ARB, Beta-blocker), และอาจมียาอื่นๆ เพิ่มเติม
-- ควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อย่างเข้มงวดที่สุดเพื่อป้องกันการเกิด MACE ซ้ำ
  • จัดการความเสี่ยง: พลังของ Lifestyle และการแพทย์สมัยใหม่
การจัดการความเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีข้อมูลทางสถิติรองรับ (Evidence base)
*เป้าหมายและผลลัพธ์ทางสถิติ (โดยประมาณ)
--- Life style modification ---
  • การเลิกบุหรี่ : ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจลง 50% ภายใน 1 ปีหลังเลิก
  • การควบคุมอาหาร : อาหารแบบ DASH (Dietary Approaches to Stop Hypertension) สามารถลดความดัน Systolic ได้ 8-14 mmHg
  • การออกกำลังกาย : 150 นาที/สัปดาห์ (แบบ Moderate-intensity) ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจได้ถึง 20-30%
--- Medical Intervention ---
  • ยาลดไขมัน (Statins) : การลด LDL-Cholesterol ลงทุกๆ 1 mmol/L (ประมาณ 39 mg/dL) จะช่วยลดความเสี่ยง MACE ลงได้ประมาณ 22% (CTT Collaborators)
  • ยาลดความดัน : การลดความดัน Systolic ลงทุกๆ 10 mmHg ลดความเสี่ยง MACE ลง 20%, Stroke 27%, และ Heart Failure 28%
  • Aspirin (Primary) : ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่เหมาะสม การให้ Aspirin อาจลดความเสี่ยง MI ได้ แต่ต้องชั่งน้ำหนักกับความเสี่ยงเลือดออกที่เพิ่มขึ้น (พิจารณาเป็นรายบุคคล)
** ปัจจุบันมีแนวโน้มใช้ ASA ลดลงไปมากในกลุ่มการป้องกันแบบปฐมภูมิ (1st prophylaxis) เนื่องจากประโยชน์ที่ได้รับจากยาในการป้องกันมีค่าเทียบเคียงกับภาวะแทรกซ้อนจากการเลือดออก
** อย่างไรก็ตามยังใช้เป็นยาหลักในกลุ่มการป้องกันแบบทุติยภูมิ (2nd prophylaxis) เพราะมีประโยชน์ที่ชัดเจน เมื่อเทียบเคียงกับภาวะแทรกซ้อนจากยา
  • Novel Tx : ยากลุ่ม SGLT2 inhibitors และ GLP-1 Receptor Agonists ในผู้ป่วยเบาหวาน แสดงให้เห็นว่าสามารถลดความเสี่ยง MACE ได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือจากการควบคุมน้ำตาล ; ซึ่งต้องไปดูข้อมูลทางสถิติและงานวิจัยในเชิงลึกต่อไป
-- บทสรุป --
การประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดใน 10 ปี เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้แพทย์และตัวคุณเองมองเห็นอนาคตทางสุขภาพและวางแผนป้องกันได้อย่างตรงจุด
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงระดับใด การทำความเข้าใจปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้และลงมือจัดการอย่างจริงจัง ทั้งผ่านการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการใช้ยาที่เหมาะสมภายใต้คำแนะนำของแพทย์ คือการลงทุนที่ดีที่สุดเพื่อหัวใจที่แข็งแรงและชีวิตที่ยืนยาว (Keep health span with good longevity)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา