Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Doctor Near you (หมอใกล้คุณ)
•
ติดตาม
1 ส.ค. เวลา 11:25 • สุขภาพ
ยา Statin และการออกฤทธิ์ภายนอกตับ (Extra-hepatic effect)
ยาในกลุ่ม Statin เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะยาหลักสำหรับลดระดับคอเลสเตอรอลชนิด (LDL-C) โดยมีเป้าหมายหลักที่เอนไซม์ HMG-CoA reductase ในเซลล์ตับ (Hepatocyte) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้อย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม การศึกษาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาได้ค้นพบว่า ประโยชน์ของ Statin นั้นซับซ้อนและกว้างขวางกว่าแค่การลดไขมันในตับ แต่ยังรวมถึงผลกระทบต่อเซลล์และอวัยวะอื่นๆ ทั่วร่างกาย ที่เรียกว่า Extrahepatic Effects หรือ Pleiotropic Effects ซึ่งเป็นหัวข้อที่น่าสนใจอย่างยิ่งในทางการแพทย์
บทความนี้จะเจาะลึกถึงการทำงานนอกตับของ Statin ตั้งแต่ตำแหน่งที่ยาไปถึง กลไกการออกฤทธิ์ ผลดี-ผลเสียที่เกิดขึ้น พร้อมข้อมูลเชิงสถิติเพื่อความเข้าใจที่สมบูรณ์
★
Statin เดินทางไปที่ไหนได้บ้างนอกจากตับ?
การที่ Statin จะสามารถออกฤทธิ์นอกตับได้นั้น ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ของยาแต่ละตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการละลายในไขมัน (Lipophilicity)
-- Lipophilic vs. Hydrophilic Statins: ประตูสู่เซลล์ทั่วร่างกาย
เราสามารถแบ่ง Statin ออกเป็น 2 กลุ่มหลักตามคุณสมบัติการละลาย
1. Lipophilic Statins (ละลายในไขมันได้ดี)
●
ตัวอย่าง: Simvastatin, Atorvastatin, Lovastatin, Fluvastatin
●
กลไกการเข้าเซลล์: สามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) ซึ่งมีไขมันเป็นองค์ประกอบหลักได้โดยตรง (Passive diffusion) ทำให้กระจายตัวไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกายได้กว้างขวางกว่า รวมถึงสามารถข้ามสิ่งกีดขวางสำคัญอย่าง Blood-Brain Barrier (BBB) เข้าสู่สมองได้
●
ผลกระทบ: มีแนวโน้มที่จะเกิดทั้ง Pleiotropic effects และผลข้างเคียงนอกตับได้มากกว่ากลุ่มที่ละลายในน้ำ
2. Hydrophilic Statins (ละลายในน้ำได้ดี)
●
ตัวอย่าง: Rosuvastatin, Pravastatin
●
กลไกการเข้าเซลล์: ไม่สามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้โดยตรง ต้องอาศัยโปรตีนขนส่งจำเพาะ (Transporters) บนผิวเซลล์ เช่น Organic Anion Transporting Polypeptides (OATPs) ซึ่งมีอยู่หนาแน่นที่เซลล์ตับ ทำให้ยาในกลุ่มนี้มีความจำเพาะต่อตับ (Hepato-selective) สูง
●
ผลกระทบ: การกระจายตัวไปยังเนื้อเยื่อนอกตับมีจำกัดกว่า ทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่กล้ามเนื้อหรือสมองน้อยกว่า แต่ก็อาจจำกัด Pleiotropic effects บางอย่างเช่นกัน
-- ตำแหน่งที่ Statin ไปถึงและออกฤทธิ์นอกตับ --
■
ผนังหลอดเลือด (Vascular Wall): โดยเฉพาะเซลล์บุผนังหลอดเลือด (Endothelial cells) และเซลล์กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth muscle cells)
■
เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน (Immune Cells): เช่น Macrophages, Lymphocytes
■
สมอง (Brain): โดยเฉพาะ Lipophilic statins
■
กระดูก (Bone): เซลล์สร้างกระดูก (Osteoblasts) และเซลล์สลายกระดูก (Osteoclasts)
■
หัวใจ (Myocardium): เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง
★
ผลดี (Pleiotropic Effects) และผลเสีย (Side Effects) นอกตับ
การยับยั้งเอนไซม์ HMG-CoA reductase ไม่เพียงแต่หยุดการสร้างคอเลสเตอรอล แต่ยังขัดขวางการสร้างสารประกอบกลุ่ม Isoprenoids (เช่น Farnesyl pyrophosphate (FPP) และ Geranylgeranyl pyrophosphate (GGPP)) ซึ่งสารเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของโปรตีนขนาดเล็กในเซลล์ที่เรียกว่า Small G-proteins (เช่น Ras, Rho, Rac) การยับยั้งกระบวนการนี้คือหัวใจสำคัญของ Pleiotropic effects
👍 ผลดี: Pleiotropic Benefits
1. ปรับปรุงการทำงานของเซลล์บุผนังหลอดเลือด (Improvement of Endothelial Function)
-- กลไก --
Statin เพิ่มการแสดงออกและเสริมเสถียรภาพของเอนไซม์ Endothelial Nitric Oxide Synthase (eNOS) ผ่านการยับยั้ง Rho/Rho kinase pathway ทำให้มีการผลิต Nitric Oxide (NO) เพิ่มขึ้น ซึ่ง NO เป็นสารสำคัญที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว (Vasodilation) และป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
-- ผลลัพธ์ --
ลดภาวะ Endothelial dysfunction ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเกิด Atherosclerosis
2. ฤทธิ์ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory Effects)
-- กลไก --
ลดการทำงานของ Transcription factor สำคัญอย่าง NF-κB ทำให้การสร้างสารสื่อกลางการอักเสบ (Pro-inflammatory cytokines) เช่น IL-6, TNF-α และโปรตีนดึงดูดเม็ดเลือดขาว (Adhesion molecules) เช่น VCAM-1, ICAM-1 ลดลง
-- ผลลัพธ์ --
ลดการอักเสบเรื้อรังที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นกลไกหลักในการเกิดและแตกของ Plaque
3. เสริมความคงตัวของ Plaque (Plaque Stabilization)
-- กลไก --
ลดการทำงานของเอนไซม์ Matrix Metalloproteinases (MMPs) ที่ถูกกระตุ้นโดย Macrophages ใน Plaque ซึ่ง MMPs นี้ทำหน้าที่ย่อยสลาย Fibrous cap ที่ปกคลุม Plaque อยู่ เมื่อ MMPs ลดลง Fibrous cap จะหนาและแข็งแรงขึ้น
-- ผลลัพธ์ --
ลดความเสี่ยงที่ Plaque จะปริแตก (Rupture) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
4. ฤทธิ์ต้านการเกิดลิ่มเลือด (Antithrombotic Effects)
-- กลไก -- ลดการสร้าง Tissue factor และลดการทำงานของเกล็ดเลือด
-- ผลลัพธ์ -- ลดแนวโน้มการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
👎 ผลเสียข้างเคียง: Extrahepatic Side Effects
1. อาการปวดกล้ามเนื้อ (Statin-Associated Muscle Symptoms - SAMS)
-- กลไก --
ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ทฤษฎีที่เป็นไปได้คือ การลดลงของ Coenzyme Q10 (Ubiquinone) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างพลังงานในไมโทคอนเดรียของเซลล์กล้ามเนื้อ หรือการรบกวนสมดุลแคลเซียมในเซลล์ ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติหรือตาย
-- ความชุก (Prevalence) --
เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดที่ผู้ป่วยรายงาน
2. ผลกระทบต่อระบบประสาทและสมอง (Neurocognitive Effects)
-- กลไก --
เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก ทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า Lipophilic statins ที่ข้าม BBB ไปได้ อาจลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอลในสมอง ซึ่งจำเป็นต่อการสร้าง Myelin sheath และการทำงานของ Synapse ทำให้เกิดอาการหลงลืมหรือ "Brain fog" ได้ในผู้ป่วยบางราย
-- ข้อมูลแย้ง --
ในทางกลับกัน การศึกษาเชิงระบาดวิทยาขนาดใหญ่จำนวนมากกลับพบว่า การใช้ Statin ในระยะยาวอาจ ลดความเสี่ยง ของการเกิดภาวะสมองเสื่อม (Dementia) และโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ผ่านกลไกต้านการอักเสบและปรับปรุงการทำงานของหลอดเลือดในสมอง
3. ความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (New-Onset Diabetes Mellitus - NODM)
-- กลไก --
อาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์เบต้าในตับอ่อน (Pancreatic β-cells) ที่ผิดปกติไป หรือการเพิ่มภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) ในเซลล์ไขมันและกล้ามเนื้อ
-- ข้อมูลทางสถิติ --
ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่มีนัยสำคัญทางสถิติ
★
สถิติและจำนวนเคสที่รายงาน
การระบุตัวเลขที่แม่นยำทำได้ยาก เนื่องจากความแตกต่างของเกณฑ์การวินิจฉัยและการรายงาน แต่ข้อมูลจาก Meta-analysis และ Randomized Controlled Trials (RCTs) ให้ภาพรวมดังนี้
💊Statin associate myopathy (SAMS)
●
Unconfirmed (ผู้ป่วยรายงานเอง): พบได้สูงถึง 5-10% ในการศึกษาเชิงสังเกตการณ์ (Observational studies) ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจาก Nocebo effect (การเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากความเชื่อหรือความคาดหวังของผู้ป่วย)
●
Confirmed (Myopathy - CK สูง >10 เท่า): พบได้น้อยกว่ามาก ประมาณ 0.1% หรือ 1 ใน 1,000 คน
●
Rhabdomyolysis (ภาวะกล้ามเนื้อสลายรุนแรง): พบน้อยมาก อัตราการเกิดอยู่ที่ < 1 ต่อ 100,000 patient-years (ส่วนใหญ่ที่พบมักเกิดจาก drug interaction ทำให้ระดับยาในเลือดสูงกว่าปกติในระดับหลาย 10 เท่า)
💊Neurocognitive Effects
●
Confirmed: ไม่มีข้อมูลยืนยันจาก RCT ขนาดใหญ่ว่า Statin ทำให้ความจำแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญทางคลินิก FDA ได้ถอดคำเตือนเรื่องนี้ออกจากฉลากยาบางส่วนแล้ว แต่ยังคงให้จับตาดูเป็นรายกรณี
●
Unconfirmed: มีรายงานเคสเป็นครั้งคราว (Case reports) ส่วนใหญ่มักเกิดกับ Lipophilic statins และอาการมักจะดีขึ้นเมื่อหยุดยา
💊New-Onset Diabetes Mellitus (NODM)
●
Confirmed: การวิเคราะห์อภิมานจาก JUPITER trial พบว่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้นประมาณ 9-12% เมื่อเทียบกับยาหลอก
●
สัดส่วนเชิงเปรียบเทียบ (NNT vs NNH): ในกลุ่มผู้ป่วยความเสี่ยงสูง การให้ Statin เป็นเวลา 5 ปี จะต้องให้ยา 255 คน (Number Needed to Harm - NNH) เพื่อทำให้เกิดเบาหวานรายใหม่ 1 คน แต่ในขณะเดียวกัน สามารถป้องกันเหตุการณ์รุนแรงทางหลอดเลือดหัวใจ (Major vascular events) ได้ถึง 5.4 เหตุการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประโยชน์โดยรวมยังคงสูงกว่า
★
ชั่งน้ำหนักระหว่าง Pleiotropic Benefit และผลเสีย
-- Pleiotopic effect --
ประโยชน์มีจริงและสำคัญ: กลไกต้านการอักเสบ, ปรับปรุงการทำงานของหลอดเลือด และเสริมความคงตัวของ Plaque เป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นจริงและน่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Statin ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดีเกินกว่าที่คาดการณ์จากการลดระดับ LDL-C เพียงอย่างเดียว
-- Side effect --
ผลเสียมีอยู่ แต่ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง: ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคืออาการทางกล้ามเนื้อซึ่งมักไม่รุนแรงและจัดการได้ ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรงอย่าง Rhabdomyolysis นั้นพบน้อยมาก สำหรับผลต่อสมองยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ในขณะที่ความเสี่ยงเบาหวานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ประโยชน์ในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจมีมากกว่า
★
บทสรุป
การทำงานนอกตับของ Statin หรือ Pleiotropic effects เป็นกลไกที่ช่วยเสริมประโยชน์หลักในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
การเลือกใช้ Statin ชนิด Lipophilic หรือ Hydrophilic อาจมีผลต่อสมดุลระหว่างประโยชน์เหล่านี้กับผลข้างเคียงในผู้ป่วยแต่ละราย การทำความเข้าใจกลไกเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้สามารถสื่อสารกับผู้ป่วย ชั่งน้ำหนักความเสี่ยงและประโยชน์ และตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักฐานเชิงประจักษ์เป็นสำคัญเสมอ
การแพทย์
สุขภาพ
ความรู้รอบตัว
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Lipid : everything that you should know
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย