รากฐานแห่งอำนาจกำลังสั่นคลอน.
"ยุคหลังฮุนเซน" กลายเป็นมุกในหัวข้อสนทนาที่ผมได้ยินอยู่บ่อยครั้งขึ้น ถ้าข่าวนี้เป็นจริงก็คงจะดี ในการปรับโครงสร้างอำนาจอีกครั้งในตระกูลฮุน
กระจกกันกระสุนสะท้อนกระแสน้ำใต้ดินที่สอดลึกเข้าไปในดวงตาเพียงข้างเดียว เศษซากเครื่องบินรบทิ้งรอยเลือดไว้บนฝ่ามือที่ด้านชา บนโต๊ะสีทรายวางเรียงรายไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เส้นเลือดสีขุ่นของแม่น้ำโขงกำลังถูกเผาไหม้เป็นสีแดงด้วยเปลวเพลิงแห่งสงคราม แต่แล้ว....พิธีส่งมอบคทาของราชวงศ์ฮุนก็ยังไม่เสร็จสิ้น
แต่ภายใต้เก้าอี้สีหมุ่นของรากฐานแห่งอำนาจกำลังสั่นคลอนแล้วหรือ??? แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่นที่เรียบง่ายอย่างแน่นอน.
เมื่อฮุน มาเนตได้รับตราประทับของนายกรัฐมนตรี
ณ อนุสาวรีย์เอกราช เส้นเลือดใหญ่ของโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชาก็ไหลเวียนอย่างเงียบๆ ผ่านระบบการอนุมัติของเขา
ขณะนี้ สุภาษิตใหม่กำลังแพร่หลายในทางการพนมเปญ ....."ความเร็วของเอกสารราชการ(ทั้งหมด)ขึ้นอยู่กับระยะห่างจากสนามกอล์ฟของลูกชายคนที่สาม" ฮาาาาา
ขณะที่ชุดชาแนลของ"เพชร จันมุนี" หรือ "พิช จันโมนี่" ลูกสะใภ้คนโตก็กลายเป็นข่าวใหญ่หลอกหลอนไปทั่วประเทศ
แต่ขอบอก ..สมุดรายชื่อผู้ที่ "ไม่ได้มาเข้าร่วมพิธี" กลับมีรายละเอียดที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นมากกกกก
ขณะเดียวกัน ฮุนเซนกำลังเข้ารับการ "ตรวจสุขภาพตามปกติ" ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในสิงคโปร์
กระแสข่าวก็ฉาวโฉ่พุ่งสูงขึ้นว่า "เข็มขัดแห่งอำนาจของตระกูลฮุน บัดนี้กำลังถูกถักทอด้วยแบรนด์ ของ ดีไซเนอร์ลูกสะใภ้"
รอยร้าวร้ายแรงเพื่อนๆจะสามารถพบเจอได้ทั่วไปในเมทริกซ์แห่งอำนาจนี้
ระบบไตรภาคีที่ตระกูลฮุนสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่ออำนาจทางทหารพุ่งสูงขึ้น สันดอนก็ต้องพ้นผิวน้ำ....
ฮุน มาเนต
ท่ามกลางควันแห่งสงครามที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย เราก็ค้นพบ "กษัตริย์ที่พ่อเคยลั่นวาจาไว้ตั้งแต่ ม.ปลาย" ที่มีดาวดวงทั้ง 4 ติดอยู่บนบ่า
เมื่อเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของฮุน มาเนต พยายามแทรกซึมเข้าไปในเขตทหารภาคตะวันออก
เหล่าทหารยามต่างได้แต่แจ้งเตือนไปยังกองบัญชาการกองทัพเรือของตระกูลฮุนโดยตรง
แต่ว่า..เรื่องถัดจากนี้คือรอยร้าวในภูมิทัศน์ทางทหารที่ช่างน่าตกใจยิ่งกว่ารายงานจากแนวหน้าเสียอีก ด้วยภาวะผูกขาดทางเศรษฐกิจ
หลังจากไทยตัดกระแสไฟฟ้า เขตอุตสาหกรรมของพนมเปญตกอยู่ในความมืดมิด ราคาไฟฟ้าก็พุ่งสูงขึ้นถึง 47%
ส่งผลให้มูลค่าผลผลิตลดลงวันละ 6.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จนผลมะม่วงที่กองพะเนินอยู่ในท่าเรือสีหนุวิลล์ผุพังเน่าเปื่อยเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว
กลิ่นหวาน(เน่าเหม็น)ของมะม่วงอบอวลกระจายออกไปทั่วกระจกกันกระสุนของบ้านพักนายกรัฐมนตรี
แม้สิ่งนี้ กลายเป็นสิ่งที่ฉุนเฉียวที่สุดในการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่สามารถเทียบเคียงการกระทบกระเทือนได้มากไปกว่า ....ความแตกแยกภายในครอบครัว
ภายในรัฐสภา ท่ามกลางเสียงไอที่กลั้นไว้ของฮุนเซน
ฮุน มาเนต บุตรชายคนที่สามของเขา ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากผู้อาวุโสเกี่ยวกับแผนปฏิรูปข้าราชการพลเรือนของเขาเอง
ที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้น ระหว่างการปะทะกันที่ชายแดน ลูกเขยของเขาซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์ ได้รักษา "ความเงียบ(เชิงยุทธวิธี)" ไว้ตลอด
ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงความจงรักภักดี(ของครอบครัว)ของกองกำลังติดอาวุธ
การพนันที่อันตรายในเกมหมากรุกของมหาอำนาจ ในการ"หยุดยิงเพื่อการค้า" ของทรัมป์ก็เข้ามาบีบให้ ฮุน มาเนต์ ต้องจำใจเข้าร่วมโต๊ะเจรจา
ขณะที่คิวข้าวหอมกัมพูชาที่ด่านศุลกากรที่จีนและญี่ปุ่นเร่งตัว(ดันสั่งซึ้อ)ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
มันกลับกลายเป็นเพียงการเตือนเงียบๆ ในเกมมหาอำนาจครั้งนี้
ส่วนฐานทัพเรียมก็กลายเป็นกระบะทรายขนาดย่อมๆ ด้วยมันเป็นท่าเรือน้ำลึกมูลค่า 370 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้(ของจีน)
ที่น่าขันยิ่งกว่านั้นคือ มันกลับกลายเป็นที่ตั้งของเรือพิฆาตของสหรัฐฯ ฮาาาา
ที่ฮาไปกว่านั้นก็คือ ในร้านกาแฟของฐานทัพ เจ้าหน้าที่อเมริกันกำลังใช้ระบบดาวเทียมเป่ยโต่วของจีน เพื่อติดตามประเทศที่ให้ทุนสนับสนุนการก่อสร้างท่าเรือ
ท่ามกลางการปรับโครงสร้างอำนาจในตลาดมืดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ แบบนี้ ผมจึงสามารถกล่าวได้ว่า
"ตระกูลฮุน กำลังเต้นแทงโก้บนเชือก แต่ปลายเชือกทั้งสองข้างกำลังสั่นคลอนอย่างรุนแรง" .......
เมื่อ มาเนต ประกาศ "การปราบปรามการฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์" ตำรวจพิเศษ ของเขา เซา โสกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา ก็ได้เร่งรุดเข้าควบคุมนิคมอุตสาหกรรมในสีหนุวิลล์ไปถึง 90%
แต่...เบื้องหลังปฏิบัติการอันดุเดือดนี้คือ การ(ทะลาย)กระจายตลาดมืด ซึ่งคิดเป็น 40% ของ GDP ของกัมพูชาเลยทีเดียว (หรืออาจจะมากกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี)
จนกล่าวได้ในอีกทางนึง เรียกว่า ในการต่อสู้กับอาชญากรรมนั้น แท้จริงแล้วคือการกระจายเงินที่ผิดกฎหมายที่ผันเงินไปให้กับสามตระกูลใหญ่
และฮาร์ดไดรฟ์เซิร์ฟเวอร์ที่ถูกยึดเผยให้เห็นห่วงโซ่ธุรกรรมที่น่าตกใจยิ่งกว่า
นั่นคือ เงินฉ้อโกงบางส่วนที่ฟอกผ่านคาสิโนในพนมเปญ ไหลเข้าสู่โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ตระกูลฮุนควบคุมทั้งหมด
และวงจรแห่งอำนาจและเงินผิดกฎหมายได้ปิดฉากลงในอาณาจักรเขตร้อนแห่งนี้แล้ว
พลังแห่งแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางแผ่ขยายข้ามพรมแดนประเทศ จนเสียงสัญญาณแห่งราตรีกาลของราชวงศ์ฮุน
ดังโหยหวลไปถึงกรุงลอนดอน....
ในย่านที่พักอาศัยหรูหรา "Garden City" นอก Parliament Hill ราคาที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 7,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร
และค่าจ้างคนงานก่อสร้างเดือนละ 198 ดอลลาร์สหรัฐ สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างคนรวยและคนจนในกัมพูชา
ขณะที่ผู้ลี้ภัย 130,000 คน รื้อค้นซากปรักหักพังบ้านเรือนที่แนวชายแดน
ตระกูลฮุน รุ่นที่สามทำได้แต่... กว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์แห่งที่ 5 ไปทั่วทั้งกรุงลอนดอน
หากย้อนเวลากลับไปยังปี พ.ศ. 2518 ชายหนุ่มวัย 23 ปีผู้คลานออกมาจากสนามเพลาะ คงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าครึ่งศตวรรษต่อมาราชวงศ์ที่เขาสร้างขึ้นเอง
จะต้องเผชิญกับการล่มสลายที่อันตรายยิ่งกว่าการยิงปืนใหญ่เสียอีก
ในการประชุมส่วนตัวของผู้นำทหาร
รากฐานอำนาจที่กำลังกลายเป็นทะเลทรายกำลังเร่งก่อตัวขึ้นเร็วกว่าที่ใครจะคาดคิด
จนวลีที่ว่า "ยุคหลังฮุนเซน" กลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ได้ยินบ่อยครั้งขึ้น
เหล่ามหาเศรษฐีเริ่มโอนทรัพย์สินไปยัง
สิงคโปร์ อังกฤษ จีน และสหรัฐ
ลูกเต๋าแห่งอำนาจภายในสำนักของฮุนเซนถูกโยนทิ้งไปแล้ว แม้แต่พ่อค้ามะพร้าวริมถนนก็ยังถกเถียงกันว่า
"ยุคสมัยของฮุนเซนกำลังจะเริ่มต้น(อีก)แล้วหรือ?"
แต่การเดิมพันครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ
เมื่อคลื่นผู้ลี้ภัยซัดถล่มข้ามพรมแดน เมื่อเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจถูกตัดขาด และเมื่อความอดทนของมหาอำนาจหมดลง
บัลลังก์ที่สร้างขึ้นจากกระสุนปืนและเลือดเนื้อนี้ จะเผยให้เห็นรอยร้าวในพายุแห่งกาลเวลาในที่สุด
กฎแห่งการเปลี่ยนผ่านอำนาจยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทุกราชวงศ์ที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่ง ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านมาเป็นล่มสลาย โดยส่วนตัวผมเชื่อว่ากฏนี้จะไม่มีข้อยกเว้น
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
