Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชตระกูล ศรีสวัสดิ์
•
ติดตาม
1 พ.ย. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา
ยาแผนปัจจุบันได้ผลเร็วกว่า! ดูเหมือนว่าสหรัฐฯ จะเป็นกองกำลังเดียวที่สามารถธำรงความยุติธรรม!
มันใกล้มาก แต่ กลับสร้างความเสียหายให้กับชาวโลกจำนวนนับไม่ถ้วน ในท้ายที่สุด ก็เป็นสหรัฐอเมริกาที่จัดการมันลงได้
2
เมื่อสหรัฐฯ ลงมือดำเนินการ แก๊งฉ้อโกงโทรคมนาคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ยุติลง
ดูเหมือนว่าสหรัฐฯ จะเป็นกองกำลังเดียวที่สามารถธำรงความยุติธรรมให้กับชาวโลกได้
1
ต่อมา แก๊งสแกมเมอร์ทางโทรคมนาคมที่ปฏิบัติการในเมียนมาและกัมพูชามาหลายปี ประสบกับความสูญเสียอย่างร้ายแรงในเดือนตุลาคม จนเหมือนกับถูกยุบไปอย่างราบคาบ
กลับไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรแก๊งฉ้อโกงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (9 แก๊งในเมียนมา และ 10 แก๊งในกัมพูชา)
โดยนิยามว่าเป็น "องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยมีสหราชอาณาจักรและประเทศไทยของเราร่วมปฏิบัติการด้วย
3
ต่อมา เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม สหรัฐฯ ร่วมกับสหราชอาณาจักร ได้เริ่มปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มปรินซ์กรุ๊ป (Prince Group) ไม่เว้นแม้แต่
กลุ่มบริษัท ฮุยว่าง กรุ๊ป จำกัด (Huione Group) ในกัมพูชาอย่างเป็นทางการ
โดยยึดบิตคอยน์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 490 ล้านบาท) และอายัดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ 19 แห่ง
รวมถึงอาคารสำนักงานในย่านเคนซิงตัน ลอนดอน และคฤหาสน์หรูทางตอนเหนือของลอนดอน
2
ปรากฏว่า เถ้าแก่เนี๊ยะออกญา เฉิน จื้อ (Neak Oknha Chen Zhi) กลายเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาโดยตรงของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
1
และนักธุรกิจที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในประเทศ
ในงานนี้ หัวหน้าแก๊งคือเฉิน จื้อ วัย 38 ปี จากมณฑลฝูเจี้ยน สิบกว่าปีก่อน เขาหลบหนีไปกัมพูชาพร้อมกับเงินทุนผิดกฎหมายประมาณกว่า 30 ล้านบาท
1
ในขณะที่คนอื่น ๆ เดินทางไปที่นั่นเพื่อแสวงหาโชคลาภ แต่เขากลับตั้งใจ “เปิดโรงงานผิดกฎหมาย” ขึ้นมาซะงั้น
2
เพื่อตอกย้ำสถานะของเขา เขาใช้เงิน 20 ล้านบาทจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน เซน และบริจาคเงินสร้างโรงเรียน
จนได้รับสมญานาม “ดยุก(ออกญา)” แม้แต่นายกรัฐมนตรีและลูกชายก็ยังปฏิบัติกับเขาราวกับเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ
1
เมื่อมองเผินๆ เขาเป็นเจ้าพ่อที่สร้างสถานที่สำคัญและบริหารธนาคาร
หนังสือพิมพ์ต่างๆพิมพ์เรื่องราวต่างๆที่เต็มไปด้วย “งานการกุศล” ของเขา อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังเขากลับทำสิ่งที่สกปรกที่สุด
2
เขาสร้าง “ตึกและสวนสาธารณะแห่งความหลอกลวง” 10 แห่งในกัมพูชา ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม มียามติดอาวุธประจำทางเข้า
คนหนุ่มสาวที่ถูกล่อลวงด้วย “งานเดือนรายได้สูง” จะถูกยึดหนังสือเดินทางเมื่อเข้าไปในตึก และผู้ที่พยายามหลบหนีจะถูกทุบตีอย่างโหดร้าย
1
เฉินจื้อถึงกับออกคำสั่งด้วยตนเองว่า "ตีคนที่ฝ่าฝืน แต่อย่าฆ่า"
โดยถือว่าคนเหล่านี้เป็นแค่ "เครื่องมือฉ้อโกง" ที่เขาได้มาอย่างฟรีๆ
3
แต่ละสวนสาธารณะเปรียบเสมือนโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีคนหลายร้อยคนใช้โทรศัพท์มือถือราว 1,250 เครื่อง
ล็อกอินเข้าบัญชีโซเชียลมีเดีย 76,000 บัญชีพร้อมกัน ส่งข้อความรายวันจำนวนมากที่อ้างว่า "ความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนสูง"
โดยมุ่งเป้าไปที่คนทั่วไปที่(โลภและ)ต้องการหาเงิน
1
กลยุทธ์ที่โหดเหี้ยมที่สุดของพวกเขาคือ "กลโกงฆ่าให้รัก" โดยพวกเขาจะแสร้งทำเป็น "รวยหล่อ" หรือ "สวยรวย"
เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อสร้างความไว้วางใจก่อนจะหลอกให้เหยื่อลงทุนบนแพลตฟอร์มการลงทุนปลอม
เมื่อเงินมาถึง แพลตฟอร์มจะแสดง "กำไร" แต่เมื่อเหยื่อพยายามถอนเงิน
พวกเขากลับถูกบอกให้จ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการ หรือไม่ก็ถูกระงับบัญชี
ในปี 2567 เพียงปีเดียว ชาวอเมริกันถูกฉ้อโกงเงินไป 10.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการฉ้อโกงประเภทนี้ โดยส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในกระเป๋าของเฉิน จื้อ
1
ไม่ต้องพูดถึงประเทศไทย ชาวอเมริกัน 259 คน ถูกบริษัทของเขาฉ้อโกงไป 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้สหรัฐฯ เข้ามาร่วมปราบปราม
3
เพื่อปกปิดเงินผิดกฎหมาย เฉิน จื้อ จึงใช้วิธีการต่างๆ มากมาย
เขาแบ่งเงินออกเป็นจำนวนน้อยๆ นับไม่ถ้วน แจกจ่ายเหมือนสายน้ำให้กับบัญชีหลายพันบัญชี
1
จากนั้นนำไปรวมกันเป็นบิตคอยน์( Bitcoin )
ฟอกเงินผ่านการขุด Bitcoin และการพนันออนไลน์ เขายังควบคุมบริษัทจดทะเบียน 10 แห่งในฮ่องกง โดยใช้โรงแรมเป็นที่กำบัง
และใช้ธนาคารเอกชนในการโอนเงิน ก่อให้เกิดระบบตลาดมืดแบบวงจรปิด
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผม คือเขาใช้เงินที่ฉ้อโกงไปซื้อภาพวาดของปิกัสโซ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และอสังหาริมทรัพย์หรูหรา 19 แห่งในลอนดอน แบบโต้งๆ
1
2
โดยคิดว่าการแปลงเงินเป็นบิตคอยน์และซ่อนไว้ต่างประเทศจะทำให้ปลอดภัย
แต่เขากลับลืมไปว่าสหรัฐฯ มีกฎเกณฑ์ “อำนาจศาลระยะไกล” (Long-arm jurisdiction) นั่นหมายถึง
2
อำนาจของศาลท้องถิ่นในการพิจารณาคดีจำเลยซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจศาล (เช่น นอกเขตจังหวัดหรือนอกประเทศ) โดยมีหลักการว่าจำเลยต้องมีการกระทำบางอย่างที่ทำให้จำเลยต้องอยู่ภายใต้อำนาจศาลนั้น
ในบางกรณีศาลไทยก็อาจมีอำนาจในการพิจารณาคดีที่เกิดขึ้นนอกศาลได้ เช่น หากจำเลยถูกจับในท้องที่นั้น
1
มีการสอบสวนในท้องที่นั้น หรือจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในท้องที่นั้น ตามที่ระบุในมาตรา 22 ของกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
1
กล่าวคือ หากคุณโกงเงินจากชาวอเมริกัน พวกเขาก็สามารถตามหาคุณได้ แม้ว่าคุณจะซ่อนตัวอยู่บนดาวอังคารก็ตาม ฮาาาาา
1
ดังนั้น ในวันที่ 8 กันยายน สหรัฐฯ ได้นำเรื่องขึ้น โดยกำหนดให้แก๊งต้มตุ๋น 9 แห่งในเมียนมาร์ และ 10 แห่งในกัมพูชา เป็น “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”
1
โดยมีสหราชอาณาจักรและไทยผนวกตามมาทันที หนึ่งเดือนต่อมา ในวันที่ 14 ตุลาคม สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรได้เริ่มการปราบปรามพร้อมกัน
โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่ม Prince Group
หลายคนสงสัยว่า Bitcoin ควรจะเป็นแบบ “กระจายศูนย์” และ “แตะต้องไม่ได้” ไม่ใช่หรือ?
ที่จริงแล้ว กุญแจสำคัญไม่ใช่เทคโนโลยี แต่อยู่ที่ผู้คน ไว้ว่างๆผมจะเขียนเรื่องการยึด Bitcoin แบบง่ายๆให้อ่านกันอีกนะครับ
1
เอาล่ะๆๆๆ กลับมาๆ แต่ด้วยสหรัฐฯ ไม่ได้ดำเนินการโจมตีทางแฮ็กใดๆ แต่พวกเขากลับจับผู้สมรู้ร่วมคิดหลักของ Chen Zhi และข่มขู่พวกเขาว่า
“จงมอบกุญแจกระเป๋าสตางค์มาเพื่อลดโทษ ไม่เช่นนั้นจะติดคุก 40 ปี” ฮาาาาา....
3
บางคนทนดีดไข่ไม่ไหว จึงสารภาพและมอบ “กุญแจดิจิทัล” ที่บรรจุกุญแจส่วนตัวของพวกเขาให้
1
แต่ขอบอก...ทุกครั้งที่มีการบันทึกธุรกรรม Bitcoin กระเป๋าสตางค์ที่ซ่อนเงินไว้ก็จะสามารถติดตามได้ โดยไม่ต้องใช้วิธีโต้งๆแบบนี้
ทำให้ Bitcoin จำนวน 127,000 เหรียญนั้นเป็นสิ่งแน่นอน ที่ตำรวจไทยอย่างเราก็สามารถบีบบังคับได้เหมือนตั้งด่านจับหมวกกันน็อค ฮาาา อีกรอบ...
2
เหตุการณ์ นี้ได้ทำลายอาณาจักรของ Chen Zhi ลงอย่างสิ้นเชิง Bitcoin จำนวน 15 พันล้านเหรียญถูกยึด
ทรัพย์สินในลอนดอนของเขาถูกอายัด ผู้สมรู้ร่วมคิด 146 คนถูกคว่ำบาตร และแม้แต่ Huione Group ซึ่งช่วยเขาฟอกเงินต่อมาก็ถูกขับออกจากระบบการเงินระหว่างประเทศ
1
ขณะนี้ “เครื่องมือ” เหล่านั้นที่ถูกขังและถูกทำร้ายอยู่ในตึกของสวนสาธารณะหลายแห่งบางคนอาจได้กลับบ้านไป(ในที่สุด)
และแหล่งโจรกรรมทางไซเบอร์ที่เคยทรงอิทธิพลก็ถูกปิดตัวลงอย่างว่างเปล่า
1
แต่อย่าคิดว่าการล่มสลายของ Chen Zhi
หมายถึงจุดจบของการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้จริงๆนะครับ
1
จากอดีต พวกเขาเคยดำเนินการในแอฟริกา จากนั้นก็ย้ายไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตอนนี้กัมพูชากำลังถูกปราบปราม
พวกเขาอาจย้ายไปลาว เมียนมาร์ หรือแม้แต่ประเทศไทยเรา
1
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะซ่อนตัวอย่างไร การจู่โจม Bitcoin จำนวน 15 พันล้านเหรียญครั้งนี้เป็นคำเตือนสำหรับนักต้มตุ๋นทุกคน
อย่าคิดว่าคุณสามารถซ่อนตัวอยู่ไกลๆ หรือเล่นเกมที่ซับซ้อนได้
หากคุณกล้าหลอกลวง ในที่สุดคุณจะถูกจับได้ในที่สุด.
สหรัฐอเมริกา
ไทย
กัมพูชา
1 บันทึก
10
8
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
กริพเพน บินผ่านพอดี... เอ๊ะ
1
10
8
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย