Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Doctor Near you (หมอใกล้คุณ)
•
ติดตาม
29 ต.ค. เวลา 10:17 • สุขภาพ
ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นก่อนกำหนด (Premature Ventricular Contraction - PVC)
ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นก่อนกำหนด หรือ PVC เป็นภาวะหัวใจเสียจังหวะ (Arrhythmia) ที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการมีจุดกำเนิดไฟฟ้า (Ectopic focus) ในกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่าง (Ventricular myocardium) ที่เกิดการลัดวงจรและปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาก่อนที่สัญญาณไฟฟ้าปกติจาก Sinus node จะเดินทางมาถึง ทำให้หัวใจห้องล่างบีบตัวก่อนเวลาอันควร
ลักษณะสำคัญบนคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) คือ QRS complex ที่มีลักษณะกว้าง (Wide QRS, >120 ms) และมีรูปร่างผิดปกติ (Bizarre morphology) เนื่องจากสัญญาณไฟฟ้าไม่ได้เดินทางผ่านระบบนำไฟฟ้าปกติ (His-Purkinje system) แต่แพร่กระจายผ่านกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรงซึ่งช้ากว่า หลังการเกิด PVC มักจะมีช่วงที่หัวใจหยุดพักชดเชย (Compensatory pause) ก่อนที่จังหวะปกติของ Sinus node จะกลับมาทำงาน
🧑⚕️ สาเหตุของการเกิด PVCs
สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. ไม่มีโรคหัวใจเชิงโครงสร้าง (Absence of Structural Heart Disease)
●
Idiopathic: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยไม่พบความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ
●
ปัจจัยกระตุ้น (Triggers): ความเครียด, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, คาเฟอีน, แอลกอฮอล์, ยาบางชนิด (เช่น Sympathomimetics), และภาวะเกลือแร่ผิดปกติ (Hypokalemia, Hypomagnesemia)
2. มีโรคหัวใจเชิงโครงสร้าง (Presence of Structural Heart Disease)
●
โรคหลอดเลือดหัวใจ (Ischemic Heart Disease): โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีแผลเป็นจากกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial scar)
●
โรคกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiomyopathy): เช่น Dilated Cardiomyopathy (DCM), Hypertrophic Cardiomyopathy (HCM), Arrhythmogenic Right Ventricular Cardiomyopathy (ARVC)
●
โรคลิ้นหัวใจ (Valvular Heart Disease)
●
ภาวะอื่นๆ: เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure), กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis)
📊 องค์ประกอบในการประเมินสาเหตุและความเสี่ยง
การประเมิน PVCs ไม่ได้ดูเพียงแค่การมีอยู่ของมัน แต่ต้องวิเคราะห์องค์ประกอบหลายอย่างร่วมกันเพื่อประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษา
1️⃣ ตำแหน่งจุดกำเนิด (Site of Origin) จาก ECG Morphology
รูปร่างของ QRS ใน PVC สามารถบ่งบอกตำแหน่งจุดกำเนิดได้ ซึ่งมีความสำคัญทางพยากรณ์โรค
Right or Left ?
●
Right Ventricular (RV) Origin: มีลักษณะเป็น Left Bundle Branch Block (LBBB) morphology (QRS เป็นลบใน V1) มักพบในตำแหน่ง Right Ventricular Outflow Tract (RVOT) ซึ่งโดยส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่ำและตอบสนองดีต่อการรักษา
●
Left Ventricular (LV) Origin: มีลักษณะเป็น Right Bundle Branch Block (RBBB) morphology (QRS เป็นบวกใน V1) จุดกำเนิดจาก LV โดยเฉพาะจาก papillary muscle หรือบริเวณแผลเป็น มักสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงกว่า
Downward or Upward ?
●
Inferior Axis (QRS เป็นบวกใน Lead II, III, aVF): บ่งชี้ว่าจุดกำเนิดอยู่ส่วนบนของ Ventricle เช่น RVOT หรือ LVOT
●
Superior Axis (QRS เป็นลบใน Lead II, III, aVF): บ่งชี้ว่าจุดกำเนิดอยู่ส่วนล่าง เช่น Apical หรือ Inferior wall
2️⃣ จำนวน / ภาระของ PVC (PVC Burden)
คือสัดส่วนของ PVC ต่อจำนวนการเต้นของหัวใจทั้งหมดใน 24 ชั่วโมง ซึ่งประเมินจาก Holter monitoring
(จำนวน PVCs ทั้งหมด / จำนวน Heartbeats ทั้งหมด) x 100%
●
Burden < 10%: โดยทั่วไปถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ หากไม่มีโรคหัวใจเชิงโครงสร้าง
●
Burden > 10-15%: ถือเป็นระดับที่สำคัญ (Clinically significant) เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด PVC-induced Cardiomyopathy ซึ่งเป็นภาวะที่ LVEF ลดลงจากการมี PVC จำนวนมาก และสามารถฟื้นตัวได้หากรักษา PVC สำเร็จ
3️⃣ Unifocal vs. Multifocal PVCs
●
Unifocal: PVCs ทุกตัวมีรูปร่าง (Morphology) เหมือนกันทั้งหมด บ่งชี้ว่ามาจากจุดกำเนิดเดียว มักมีความเสี่ยงต่ำกว่า
●
Multifocal: PVCs มีรูปร่างแตกต่างกันตั้งแต่ 2 แบบขึ้นไป บ่งชี้ว่ามีจุดกำเนิดไฟฟ้าผิดปกติหลายตำแหน่ง ซึ่งมักสะท้อนถึงโรคในกล้ามเนื้อหัวใจที่รุนแรงกว่าและมีความเสี่ยงสูงกว่า
4️⃣ Coupling Interval และ R-on-T Phenomenon
●
Coupling Interval: คือระยะห่างจาก QRS ของจังหวะปกติก่อนหน้า ไปยัง QRS ของ PVC หากมีค่าคงที่ (Fixed coupling interval) มักบ่งชี้กลไกแบบ Re-entry
Image from The Heart
●
R-on-T Phenomenon: เป็นภาวะที่ PVC เกิดขึ้นตรงกับช่วง T wave ของจังหวะก่อนหน้าพอดี ซึ่งเป็นช่วง Relative Refractory Period ของกล้ามเนื้อหัวใจ ถือเป็น ภาวะเสี่ยงสูงมาก เพราะสามารถกระตุ้นให้เกิด Ventricular Tachycardia (VT) หรือ Ventricular Fibrillation (VF) ได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดเลือด (Ischemia) หรือ Long QT syndrome
5️⃣ ความซับซ้อนของ PVC (Complexity)
●
Couplets: PVC 2 ตัวติดต่อกัน
●
Triplets หรือ Non-sustained VT (NSVT): PVC 3 ตัวขึ้นไปติดต่อกัน (แต่น้อยกว่า 30 วินาที)
●
การพบ PVC ที่มีความซับซ้อนเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ความเสี่ยงที่สูงขึ้น
6️⃣ การตอบสนองต่อการออกกำลังกาย (Response to Exercise)
●
PVCs ที่หายไปหรือลดลงขณะออกกำลังกาย: มักเป็นชนิดไม่รุนแรง (Benign) ที่มาจาก RVOT
●
PVCs ที่เพิ่มขึ้นหรือถูกกระตุ้นโดยการออกกำลังกาย: เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ อาจบ่งชี้ถึงภาวะ Ischemia ที่ซ่อนอยู่ ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม เช่น Exercise Stress Test หรือ Coronary Angiography
PVC ความเสี่ยงต่ำ (Benign PVCs) และการดูแลรักษา ❤️
ลักษณะ
✓
ไม่มีโรคหัวใจเชิงโครงสร้าง (LVEF ปกติ, Echo ปกติ)
✓
อาการ: ไม่มีอาการ หรือมีเพียงอาการใจสั่น (Palpitations) เล็กน้อย
✓
PVC Burden ต่ำ (<10%)
✓
Morphology: Unifocal, มักมาจาก RVOT (LBBB morphology, Inferior axis)
✓
Complexity: ไม่มี NSVT หรือรูปแบบที่ซับซ้อน
✓
Response to Exercise: PVCs ลดลงหรือหายไปขณะออกกำลังกาย
การดูแลรักษา
1. การให้ความมั่นใจ (Reassurance): เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าภาวะนี้ไม่เป็นอันตราย
2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น ลดคาเฟอีน แอลกอฮอล์ จัดการความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ
3. การรักษาด้วยยา (Pharmacotherapy): พิจารณาให้ในผู้ป่วยที่มีอาการรบกวนชีวิตประจำวันเท่านั้น
■
First-line: Beta-blockers หรือ Non-dihydropyridine Calcium Channel Blockers (Verapamil, Diltiazem) เพื่อควบคุมอาการ
PVC ความเสี่ยงสูง (High-Risk PVCs) และแนวทางการตรวจรักษา ⚡️
ลักษณะ
✓
มีโรคหัวใจเชิงโครงสร้าง (เช่น LVEF < 40%, Post-MI, Cardiomyopathy)
✓
อาการ: มีอาการรุนแรง เช่น เวียนศีรษะ หน้ามืด (Pre-syncope) หรือเป็นลมหมดสติ (Syncope)
✓
PVC Burden สูง (>15%) โดยเฉพาะเมื่อสัมพันธ์กับ LVEF ที่ลดลง
✓
Morphology: Multifocal หรือมาจากตำแหน่งที่มีความเสี่ยงสูง (เช่น Papillary muscle)
✓
Complexity: พบ Couplets, Triplets หรือ NSVT บ่อยครั้ง
✓
R-on-T phenomenon
✓
Response to Exercise: PVCs เพิ่มขึ้นหรือถูกกระตุ้นโดยการออกกำลังกาย
การตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
●
Holter Monitoring: เพื่อประเมิน Burden และความซับซ้อน
●
Echocardiogram: เพื่อประเมินโครงสร้างและการทำงานของหัวใจ (LVEF)
●
Exercise Stress Test: เพื่อประเมินการตอบสนองของ PVC และตรวจหาภาวะ Ischemia
●
Cardiac MRI (CMR): อาจพิจารณาเพื่อตรวจหาโรคทางโครงสร้างที่ละเอียดขึ้น เช่น ARVC, Sarcoidosis, หรือ Myocardial scar
แนวทางการรักษา
1. รักษาโรคหัวใจที่เป็นสาเหตุหลัก (Treating the Underlying Cause): เช่น การทำ Revascularization ในผู้ป่วย Ischemic heart disease, การให้ยาที่เหมาะสมสำหรับ Heart Failure
2. การรักษาด้วยยา (Pharmacotherapy)
■
Beta-blockers ยังคงเป็นยาหลักตัวแรก
■
Anti-arrhythmic Drugs (AADs): เช่น Amiodarone, Sotalol อาจถูกพิจารณาในรายที่มีความเสี่ยงสูง แต่ต้องระมัดระวังผลข้างเคียง (Proarrhythmia)
3. การจี้ไฟฟ้าหัวใจ (Catheter Ablation): เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง, PVC burden สูงที่ทำให้เกิด Cardiomyopathy, หรือไม่ตอบสนองต่อยา โดยเฉพาะ PVC ที่มีจุดกำเนิดแบบ Focal (เช่น RVOT) จะมีอัตราความสำเร็จสูงมาก (>80-90%)
สุขภาพ
การแพทย์
เทคโนโลยี
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
รวมความรู้ทางการแพทย์ทั่วไป
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย