1 มิ.ย. 2020 เวลา 03:40 • ประวัติศาสตร์
•• May The Force Be With You ••
.... หรือพลังจะมีอยู่จริง “(The Force)” ....
“ Star wars “
มหาสงครามแห่งดวงดาว
หนังในตำนาน แรกเริ่มเดิมที สร้างครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1977 แต่งโดย จอร์จ ลูคัส
ประกอบด้วย ไตรภาคดั้งเดิม
สร้าง ไตรภาค 4-6 ก่อนแล้วจึง สร้าง ไตรภาค 1-3 ย้อนหลัง
.... ปัจจุบัน ลูคัสฟิล์ม(Lucasfilm) ได้ขายให้กับค่ายดิสนีย์ (Walt disney) ได้สร้างไตรภาคถัดมา 7-9
ซึ่งเพิ่งเข้าฉายไปเมื่อไม่นานมานี้
เรื่องราวภายใต้การดูแลของ Lucasfilm เรียกว่า Star wars : Legends
เรื่องราวภายหลังจาก นั้นก็อยู่ภายใต้การดูแลของ disneys ก็เรียกว่า Star wars : Canon
กำเนิดแห่ง เจได ( Jedi The Legends )
ย้อนกลับไป .....นานแสนนาน..... ในจักรวาลอันไกลโพ้น
“Thyton”
สิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาศัยตั้งรกร้างบนดวงดาว ที่มีชื่อว่า “Tython” หรือ ไทธอน... เรียกตนเองว่าชาว “Je’daii” มีรากศัพท์มาจากคำว่า
“Je” แปลว่า อำนาจแห่งจิต และ
“Daii” แปลว่า ศูนย์รวม
รวมกัน จึงมีความหมายถึง ผู้ศึกษาและความคุมอำนาจแห่งจิต
... ต่อมาการเรียกชื่อได้ เพี้ยนจนกลายมาเป็น คำว่า “Jedi “ เช่นในปัจจุบัน
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นผู้มีปัญญาขั้นสูง และศึกษาในปรัชญาลึกลับ .... ชาวเมืองดาวไทธอนเหล่านี้ มีความสามารถพิเศษ คือการเข้าถึงและสัมผัสแห่งพลัง เรียกว่า The Force
ภาพบน- วิหารเจได บนดาวไธทอน ภาพล่าง-Jedi Temple
“ The Force “ พลังนั้น เชื่อว่าพลังนั้น เป็นสิ่งที่อยู่ ภายใน และรอบตัวเรา และในจักรวาลและเชื่อมเข้าถึงทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนี้เข้าด้วยกัน ... สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมี The Force นี้อยู่
... โดยเมื่อสามารถเข้าถึงและควบคุมจิตใจอย่างดีแล้วนั้นจะทำให้สัมผัสถึง “The force” ได้ และเมื่อฝึกฝนอย่างถูกทาง จะสามารถ ควบคุม “The Force” และนำมาใช้ได้
“The Force”
โดยทั่วไป Jedi นั้นฝึกฝนตนเพื่อ ความสงบแห่งตน แต่เมื่อยามบ้านเมืองมีภัยคุกคาม เหล่า Jedi ก็จะออกมาให้ความช่วยเหลือ และผดุงความยุติธรรม
.... Jedi จะมีอาวุธคู่กาย เรียกว่า LightSabers หรือ กระบี่แสง จะมีสีแตกต่างกันไป ตามผลึกคริสตัล (Crystal) ซึ่ง การจะสร้าง LightSabers ออกมาได้นั้นเกิดมาจากการฝึกฝนจิตใจหลอมรวม The Force เข้ากับ LightSabers และแสงได้ออกมาจากCrystal นั้น จึงสะท้อนตัวตนของ Jedi ผู้นั้นด้วยเช่นกัน...
Crystal
... 25,000 ปี ก่อนเรื่องราวในภาพยนตร์ ของ จอร์จ ลูคัส ...Jedi ได้ออกมาช่วยทหารสู้รบจน สาธารณรัฐ
จน ได้รับการยอมรับให้ มามีส่วนร่วมในการป้องกันและปกป้องประเทศ ก่อตั้งขึ้นมาเป็น สภาเจได ที่ตั้ง ณ วิหารเจได (Jedi Temple) บนดาว คอรัสซังท์ (Coruscant) ซึ่งเป็นดาวนครหลวงของ สาธารณรัฐ
Jedi ที่ทำหน้าที่ปกป้องต่อสู้กับศัตรู เรียกว่า Jedi Knight ... เช่น ไควกอน จินน์ , โอบีวัส เคโนบี , อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ , โยดา เป็นต้น...
• หนทางสู่การเป็น Jedi •
เด็กๆ ที่เกิดมาทุกคนที่เกิดมา จะได้รับการสัมผัสพลังจาก อาจารย์เจได( Jedi master ) พลังที่อยู่ภายในร่างกายมีมาแต่กำเนิด เรียกว่า Midichlorian ซึ่งฝังตัวอยู่ในเซลล์
1
Medichlorions and The Force
... เด็กๆที่ ตรวจพบว่ามี Midiclorian จะถูกขอจากพ่อแม่ตั้งแต่อายุไม่เกิน 7-8 ปี และนำตัวส่งไปยัง วิหารเจได เพื่ออบรมและฝึกจิต. และหาก อายุที่เกิน 7-8 ปี ก็ จะผิดมาตรฐานของเจได จะไม่ได้รับการฝึกอบรม
เมื่อ อาจารย์เจได(Jedi master) รับฝึกใครแล้ว นั้น ผู้ถูกรับฝึกจะมีสถานะเป็น “พาดาวัน(Padawan)” ....คอยติดตามอาจารย์และทำภาระกิจต่างๆ จนกระทั่ง สภาเจได มีมติยอมรับ ถึงจะกลายเป็น Jedi Master นอกจากนั้น การเป็นผู้สังหาร ซิธ(Sith) ก็จะได้เลื่อนขั้นเช่นกัน ดังเช่น อาจารย์ไควกอน จินน์
Padawan
Jedi จะมีกฏระเบียบที่เรียกว่า Jedi order มากมาย ซึ่งกฏนี่เองที่เป็นสิ่งทำให้ อนาคิน สกายวอร์กเกอร์ ตกเข้าสู่ด้านมืด นั่นคือ การห้าม Jedi Master แต่งงานมีครอบครัว
Darth Vader จึงถือกำเนิดขึ้นด้วยเหตุนี้
.... ด้านมืดแห่งพลัง ....
• The Dark Side •
แรกเริ่มเดิมทีนั้น ...สมัยยุคเริ่มต้นยังไม่มีการแบ่งแยกระหว่าง ด้านสว่าง และ ด้านมืด
.... ทุกคนล้วนได้รับการฝึกให้สัมผัสพลังและควบคุมพลัง
แต่ทว่า....
มี Jedi กลุ่มหนึ่ง เชื่อและปลูกฝัง ปรัชญาของการได้มาซึ่งพลัง ต่างจากวิถีดั้งเดิม
ปรัชญาแห่งเจได (Jedi) แบบดั้งเดิม คือ : “ไร้ซึ่งอารมณ์ ย่อมมีความสงบ ไร้ซึ่งความเขลา ย่อมมีปัญญาความรู้ ไร้ซึ่งกิเลสตัณหา ย่อมมีคงามปลอดโปร่ง ไร้ซึ่งความโกลาหล ย่อมประสานกลมกลืน ไร้ซึ่งความตาย นั่นคือ พลัง “
ในขณะที่ กลุ่ม Jedi ที่แยกตัวออกมานั้น
มีปรัชญาที่แตกต่าง
Dark side
ปรัญชาแห่งซิธ (Sith) : “ ความสงบงั้นหลอกลวง มีเพียงกิเลสตัณหา, เมื่อผ่านพ้นกิเลสตัณหา ข้าได้มาซึ่งพลัง เมื่อผ่านพละกำลัง ข้าได้อำนาจ เมื่อผ่านอำนาจ ข้าได้ชัยชนะ
.... แต่ทว่ามีจุดยืนอย่างหนึ่งที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ระหว่าง Sith และ Jedi คือ แนวคิดทางการเมือง
• Jedi : มีแนวคิด ในทางระบอบประชาธิปไตย ระบอบสาธารณรัฐ
• Sith : มีแนวคิดว่า รวมศูนย์การปกครองดีที่สุด คือ ระบอบเผด็จการจักรวรรดินิยม นั่นเอง....
ด้วยเหตุนี้ ซิธ(Sith) จึงถือกำเนิดขึ้น
กำเนิดแห่งซิธ (Sith)
.... ย้อนกลับไปเมื่อ 24,000 ปี ก่อนภาพยนตร์ (ตามโครงเรื่อง) .....
สงครามดาวไธทอน
บนดาวไทธอน ที่ซึ่งเป็นดาวบ้านเกิดของ Jedi
มีเจไดกลุ่มหนึ่ง เชื่อการใช้อารมณ์มากกว่า สติ จนกลายเป็นเจไดผู้ฝักใฝ่ความมืด (The Dark side)
เมื่อมีความแตกต่างด้านความคิดแล้ว นั้น จึงทำให้เกิดสงคราม ระหว่าง Jedi ทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่ายสว่าง (Light side) และ (Dark side)
.... 7000 ปีก่อน ภาพยนตร์ เจไดผู้ฝักใฝ่ความมืด ก็พ่ายแพ้การต่อสู้ จึงต้อง อพยพย้ายถิ่นไปตั้งรกรากอยู่ชายขอบของกาแลกซี่ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “คอร์ริบาน(Korriban) .... ซึ่งเดิมมีชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่ก่อนแล้ว เรียกชาวพื้นเมืองเหล่านั้นว่า ชาว “ซิธ(Sith)” และเรียกดาว คอร์ริบาน ว่า ดาว ซิธ ไปด้วย...
เมื่อเจไดกลุ่มที่ฝักใฝ่ความมืดเข้าไปอยู่บนดาวเหล่านี้ ก็ รับเอาชื่อ”ซิธ”มาใช้เรียกตนเองตั้งแต่บัดนั้นเป็นตนมา รวมถึงเอาศาสตร์ และภูมิปัญญา วัฒนธรรมบางอย่างของสปีชีส์ ซิธมาผสมผสานเข้าด้วยกันจึงกลายเป็น นิกายซิธ(Sith order)...
ภาพแสดง Sith
• ดาวคอร์ริบาน(Korriban) ดาวของสปีชีส์ ซิธ มีด้วยกันหลายเผ่า แต่ทุกเผ่ามีผิวหนังและตัวสีแดงเหมือนกันหมด โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้พลังในแบบซิธ(ในยุคภาพยนตร์) เช่น ดาร์ธ มอล เป็นต้น
ดาร์ธ มอล
... และบางครั้งสปีชีส์ซิธ ดั้งเดิมก็สามารถฝึก พลัง(The Force) แบบพวก Jedi Dark side ได้ ด้วยเช่นกัน
.... พวกซิธนั้น นิยมชมชอบการ ตั้งฉายยาพิเศษเฉพาะตน และใช้คำนำหน้าว่า “ดาร์ธ(Darth)”แล้วตามด้วยชื่อฉายา หรือชื่นตนเอง แล้วแต่คน ... อาวุธคู่กายก็ยังคงเป็นกระกระบี่แสง(Light Saber) แต่ มักมีสีแดง
ดังนั้นรูปแบบการต่อสู้ของ ซิธจึงมีความเหมือนกับเจได มาก แค่แตกต่างในวิถีแห่งการดีงพลังมาใช่ เท่านั้น
“Sith lord”
และ ซิธผู้เป็นระดับยอดฝีมือจะมีคำนำตามว่า Sith Lord
.... มีข้อสังเกตุว่าใครเป็นเจได หรือ ซิธนั้น สามารถสังเกตุได้จาก ดวงตา โดยที่ดวงตาของซิธนั้นจะเป็นสีเหลือง และขอบแดงก่ำชัดเจน เนื่องมาจากปฏิกิริยาทางเคมีของ The force ด้านมืด - ในขณะที่นัยน์ตาของเจได ยังคงสีปกติเช่นเดิม
“Sith”
“ซิธ(Sith)” เกิดได้ 2 ทาง คือ
• เป็นผู้ที่ฝึกพลังด้านมืดมาตั้งแต่แรกเริ่ม เช่น “ดาร์ธ มอล” รับการฝึกจาก “ ดาร์ธ ซีเดียส” โดยการฝึกจิตก็ฝึกในรูปแบบตรงข้ามกับวิถีเจไดดั้งเดิม ก็คือ ฝึกในด้านมืดเป็นหลัก
• เป็นผู้ที่ฝึกแบบ เจได มาก่อน แต่จิตใจตกสู่ด้านมืด เรียกคนกลุ่มนี้ว่า “ Fallen Jedi” เช่น “เคาท์ ดูกู” และ “ดาร์ธ เวเดอร์” หรือ อนาคินสกายวอร์คเกอร์
** ดาร์ธ ซีเดียส นั้น ได้ชื่อว่า เป็น Sith ที่ฉลาดปราดเปรื่องมาก และเจ้าเลห์ ที่สุด และ มีพลังForce ที่แกร่งในบรรดาเหล่าซิธ ในฉบับภาพยนตร์ ....
... แต่ในประวัติศาตร์ ก็มีกรณีที่ ผู้ฝึกซิธมาตั้งแต่แรก แต่ต่อมา จิตใจกลับสู่ด้านสว่าง ก็ ได้แก่ อนาคินสกายวอร์ดเกอร์ และ “Darth Reven”
สืบเนื่องต่อจากผลงานของ “จอร์จ ลูคัส” นี่เอง ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอย่างมากต่อผู้คนเป็นวงกว้าง... จนทำให้เกิดความเชื่ออย่างแรงกล้า เกิดเป็น ลัทธิ- ศาสนา จริงจังกันเลย...
จากรายงานของ CzechPosition.com ในสื่อสาธารณะรัฐเช็ก ได้กล่าวอ้างตัวเลขสถิติว่า ปัจจุบันมีประชาการจำนวนถึง 15,070 คน มี่ระบุว่า ตัวเองนับถือ ศาสนา “Jedi”
....โดยศาสนาเจได เป็นการศึกษาความหมาย ของชีวิตและจิตใจ จนไปถึง ฝึกตนเพื่อบังคับสิ่งที่เรียกว่า “พลัง( The force)” ที่อาจใช้ได้ทั้ง ด้านมืด และด้านสว่าง และพลังเป็นสิ่งที่มีมาตลอด มีในทุกคน
• สุดท้ายก็ สูงสุดสู่สามัญ
• พลังทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน
• สิ่งมีชีวิตต่างหากที่ แบ่งแยกหาใช่พลังไม่ ....
• ไม่มีด้านมืด. ไม่มีด้านสว่าง
• ไม่มี เจได(Jedi) ไม่มี ซิธ(Sith)
มีแค่ “พลัง(The Force)”
....
“ May The Force Be With You “
....
• อ่านแล้วชอบ “ติดตาม” กดไลค์ กดแชร์ กันได้ นะครับ •
สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Link ด้านล่าง !
References
เชิญติดตามบทความน่าสนใจเพิ่มเติม ผมรวบรวมใว้ Link ด้านล่าง
• อันตรายจาก น้ำแข็งกัด
• ข่าววัคซีน โควิด
• พระพุทธเจ้าบนก้อนหิน
• สายปีนเขา ต้องรู้
• มันสำปะหลัง มีพิษ
โฆษณา