5 มิ.ย. 2020 เวลา 11:35 • การศึกษา
“ Munchausen’s Syndrome by proxy ”
………… ช่วงเวลาไม่นานที่ผ่านมา คุณทั้งหลาย คงได้รับทราบข่าวนี้ …………
? • ทารุณกรรม หรือ แค่ป่วย • ?
แหล่งที่มา : https://www.thailandstack.com/post-4975-คดีปริศนาสุดเหี้ยม-แม่ปุ๊กวางยาฆ่าลูก-น้องอมยิ้ม-หวังฮุบเงินบริจาค-20-ล้าน-โดนหมายจับข้อหาหนัก/
ซึ่งได้สร้างความเศร้าสลดให้แก่ผู้รับรู้โดยทั่วกัน
หลายท่าน อาจคิดในใจ ว่า ‘’ จิตใจ ทำด้วยอะไร ‘’ … ‘’ ทำลงไปได้อย่างไร ‘’ ??
…… แต่ก่อนอารมณ์จะพุ่งพล่านน ด้วยโทสะ
ผม อยากพาคุณ มาทำความรู้จัก โรค โรคหนึ่ง … ซึ่งมันมีอยู่จริง
“ Munchausen’s Syndrome by proxy ” อ่านว่า ‘มุน เชา เซน บาย พรอก ซี่’
• สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นและได้รับการบันทึก มาแล้ว •
…… ย้อนกลับไป 10 ปีก่อนหน้านี้ ราวๆ ปี ค.ศ. 2008 ในประเทศ สหรัฐอเมริกา
มีพยาบาลสาวคนหนึ่ง
เธอทำงานในสถานพยาบาลแผนกรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งจะมีผู้คนที่ไม่มีเวลาเลี้ยงดูบุตร นำบุตรมาฝากเลี้ยงใว้ ซึ่งเธอก็ดูแลอย่างดี จนพ่อแม่เด็กเริ่มเชื่อใจ
อยู่มาวันหนึ่ง ……
เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลของเธอ ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก เริ่มมีอาการป่วย ที่คล้ายๆกันคือ น้ำหนองไหลออกจากหู คนแล้วคนเล่าา…… อาการคล้ายๆเดิม
พ่อแม่เด็กเริ่มตัดสินใจลาออกจากการส่งเลี้ยงดูย้ายไปยังสถานพยาบาลอื่น … เด็กเหล่านั้นก็หายเป็นปกติดี แทบทุกคน
ภาพประกอบจาก : https://www.healthline.com/health/munchausen-syndrome-by-proxy
…… จนถึงครั้งเมื่อ เธอมีลูก เธอคลอดลูกตนเองออกมา แต่กลับต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งต้องเลี้ยงดูลูกโดยลำพัง ภายหลังจากการหย่าร้างกับสามี
ลูกของเธอเป็นเด็กน้อยน่ารัก ดูดี …… แต่ทว่า เธอกลับบอกใครต่อใคร รวมทั้งหมอ ว่า ลูกเธอกินข้าว กินนม กินน้ำไม่ได้ และอาเจียนตลอดเวลา
เธอจึงพาลูกตนเองไปพบแพทย์ เพื่อบีบคั้นให้แพทย์ทำการรักษาลูกเธอโดยวิธีที่ หมอเองก็ไม่อยากทำ และคิดว่ามันแปลก …… เพราะหลังจากที่แพทย์ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ก็ มิพบความสัมพันธ์หรือสิ่งที่จะอธิบายอาการเหล่านั้นได้
…… โรงพยาบที่ 1 … โรงพยาบาลที่ 2 …………3 …… 4 … 5 ไปเรื่อยๆ
กว่า 20 โรงพยาบาล ที่ เธอพาลูกไปรักษา แต่หมอก็ มิได้ให้ในสิ่งที่เธอต้องการ
สิ่งที่เธอเรียกร้องให้หมอทำ ให้ลูกเธอก็คือ ขอให้หมอ เจาะรูทางหน้าท้องและ ใส่สายยางให้อาหารทางหน้าท้อง ทางการแพทย์เรียกว่า ‘’Gastrostomy” โดยเธอให้เหตุผลว่า ลูกเธอนั้นไม่ทานอาหารเลย เพื่อเธอจะได้ให้อาหารลูกทางสายยางนี้ได้.
Percutaneous Endoscopic Gastrostomy (PEG)
…… เธอยังยังได้ป่าวประกาศให้โซเชี่ยลมิเดีย ได้รับรู้ว่า ลูกเธอป่วยหนัก กำลังรับการรักษาอยู่ ณ โรงพยาบาล ในขณะนั้นเรื่องราวของเธอ ได้รับความสนใจ และเห็นอกเห็นใจ ได้รับความช่วยเหลือเงินทองจากผู้คนจำนวนมาก
จนกระทั่ง……
เมื่อลูกเธอถึงวัยที่เข้าโรงเรียนไปเรียนกับเพื่อนฝูง ที่โรงเรียน ทั้งครูและ ผู้ปกครองของเด็กคนอื่น ก็สังเกตุเห็นว่า ลูกของเธอก็รับประทานอาหารได้ดีปกติ …… ในขณะที่เธอต่างบอกใครต่อใครว่า ลูกฉันทานอาหารไม่ได้……
หลายคนเริ่มสงสัย ในตัวของเธอ … แต่นั่นก็มิได้ทำให้เธอหยุดพฤติกรรมดังกล่าว
…… ช่วงหลังพบประวัติการเข้ารักษาโรงพยาบาล ด้วยภาวะ เกลือแร่ในเลือด โซเดียมสูงผิดปกติ(HyperNatremia) ซึ่งก่อนหน้านี้เองเธอก็ได้ พาลูก เข้า- ออก รพ. ด้วยอาการของ เกลือแร่โซเดียมสูงมาหลายครั้งหลายครา……
* เกร็ดความรู้ : ภาวะเกลือแร่โซเดียมในเลือดสูง(HyperNatremia) จะทำให้มีอาการของ น้ำคั่งในหลอดเลือด เกิดภาวะ ความดันโลหิตสูงขึ้น สมองบวมน้ำจึงปวดศีรษะและ คลื่นไส้อาเจียน ปอดบวมน้ำ ไตวายปัสาวะออกน้อยลง จนถึงเสียชีวิตได้
ตัวอย่าง ภาพถ่า CT scan : ภาวะสมองบวมน้ำ (Cerebral edema)
จนครั้งหนึ่งแพทย์เจ้าของไข้เริ่มสงสัยว่ามีการจงใจหรือ ทารุณกรรมเด็กหรือไม่…… จึงได้มีการบันทึกภาพวงจรปิด ขณะที่เธอและลูก เข้าพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
พบว่าเธอนำลูกตนเองเข้าห้องน้ำในมุมอับสายตากล้อง และพบว่า ขวดน้ำเปล่าได้หายไปเป็นจำนวนหลายขวด เป็นปริมาณหลายลิตรด้วยกัน
…… จนสุดท้าย ชะตาของเด็กน้อย ซึ่งเป็นลูกเธอแท้ๆ ก็ได้จบชีวิตลงด้วย ในปี 2014 ภาวะสมองบวม จากเกลือแร่โซเดียมสูงมากผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงสงสัยว่า เธออาจนำน้ำในขวดเหล่านั้น บังคับให้ลูกกินผ่านสายยางไปจนหมด และนี่คงมิใช่ครั้งแรกตามประวัติการรักษา……
• สายสืบได้บุกค้นบ้านของเธอ … จึงได้ตรวจพบ หลักฐานสำคัญว่า ถุงให้อาหารเด็ก ขวดนม ขวดน้ำ ของลูกเธอนั้นประกอบด้วยไปด้วยเม็ดเกลือ บางถุงยังเป็นก้อนสีขาวอยู่เลยย …… ที่ได้ให้ลูกเธอเข้าไปผ่านทางสายหน้าท้อง ซึ่งเธอเป็นคนขอให้คุณหมอ ทำให้นั่นเอง•
สุดท้าย เธอได้รับการจับกุม และเมื่อทำการตรวจทางจิตพบว่า … เธอมีอาการของโรค
‘’ Factitious Disorder Imposed on Another”
หรือ
“Munchausen’s Syndrome by proxy“
นั่นเอง
• เนื้อเรื่องฟังดูคุ้นๆ ใช่ไหมครับ กับข่าวที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นในประเทศไทย … แต่ขอบอกใว้เลยนะครับ โรคนี้ มีรายงานพบทั่วโลกครับ ไม่ได้แบ่งแยกเชื้อชาติ สีผิวแต่อย่างใด -……-
จากเรื่องดังกล่าว ท่านผู้อ่านคงเริ่มอยากรู้กันแล้วใช่ไหมครับว่า …… เจ้าโรคนี้มันคืออะไร ?
• Factitious disorder คือ ผู้ที่ป่วยทางจิตชนิดหนึ่ง โดยมีกลุ่มอาการต่างๆ ที่’’ผู้ป่วยเป็นผู้สร้างหรือ ทำให้เกิดขึ้น’’ …… เน้นเลยนะครับ ‘ผู้ป่วยเป็นคนทำ’ ซึ่งจะเป็นการทำกับตนเองก็ได้ หรือ ทำกับผู้อื่นก็ได้
- การที่ผู้ป่วยทำกับ’’ตนเอง’’ เราจะเรียกว่า True Factitous disorder หรือ Munchausen’s Syndrome
- การที่ผู้ป่วยกระทำกับ’’ผู้อื่น’’ เราเรียกว่า “Factitious disorder imposed on another” หรือ “Munchausen’s Syndrome by proxy”
• Munchausen’s Syndrome ชื่อโรคนี้อ่านว่า ‘มันเชาเซ่น’ หรือ ‘มุนเชาเซ่น’ วินิจฉัยครั้งแรกในปี 1977 โดย Dr. Roy Meadow
มีที่มาจาก ตัวละครในวรรณกรรม ชื่อ Baron Münchhausen แต่งโดย Rudolf Erich Raspe ซึ่งเป็นนักเล่าเรื่องผู้หนึ่ง ซึ่งมักเล่าเรื่องประสบการณ์ของตนเองที่ได้ประสบพบเจอมา ได้สนุกสนาน และเกินจริง ลื่นไหลไปตามท้องเรื่องได้ … จนเป็นที่ติดอกติดใจไปในแวดวงต่างๆ.
…… ทำแล้วได้อะไร ??
• ผู้ป่วยเหล่านี้ ได้กระทำลงไปโดยแรงขับเคลื่อนบางอย่างจากจิตใต้สำนึก(Subconcious) …… เมื่อทำการวิเคราะห์ทางจิต พบว่า คนเหล่านี้ ในลึกๆแล้วเขาต้องการสิ่งเดียวกันคือ ‘’ต้องการให้ผู้อื่นสนใจ หรือ เห็นอกเห็นใจ’’ สิ่งนี้เรียกว่า “Primary gain หรือรางวัลของจิตใจ’’
Subconscious เปรียบดั่งส่วนใต้น้ำของภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งลึกลับและยากต่อการเข้าถึง
• Primary gain นี้เอง ‘’เป็นความพึงพอใจต่อจิตใจตนเอง’’ ทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับแล้ว ยิ่งทำพฤติกรรมดังกล่าวต่อไป ……… จนกระทั่ง เมื่อมีคนสนใจและเห็นใจจำนวนมาก ก็อาจได้รับ เงินทอง สิ่งของ ความช่วยเหลือ มากมายๆๆ ทำให้เกิด’สิ่งใหม่’ ตามมา ……
……… สิ่งใหม่ที่เรียกว่า “Secondary Gain” หรือ’’สิ่งตอบแทนภายนอกจิตใจแต่ทำให้พึงพอใจ’’ เช่น ทางเงินตรา ความช่วยเหลือ ความเป็นที่รู้จัก หรือเป็นที่ยอมรับ ซึ่งในทางจิตวิทยา นั้น เมื่อใดที่ผู้ป่วยเกิด Secondary Gain ขึ้นมาแล้วนั้น การรักษา จะทำได้ยากมาก
* ตำรามักบอกว่า Munchausen’s Syndrome ไม่ได้ทำเพื่อต้องการ Secondary gain … แต่อย่างไรก็ดี จิตใจมนุษย์ซับซ้อนกว่านั้น ทำให้พบได้
ซึ่งแตกต่างจากโรคอีกโรคหนึ่ง ที่เรียกว่า ‘’Malingering” ซึ่งมีเจตนาชั้นเจนที่ต้องการ secondary gain.
• ร่ายความมายาว … ความสำคัญคืออะไร และไม่ควรปล่อยปละละเลย •
……… เป็นโรคทางจิตเวช ที่วินิจฉัยได้ยากมากโรคหนึ่งเลยละครับ ในทางการแพทย์ เนื่องจากแพทย์ ก็ถูกหลอก เหมือนกันครับ.
………พบว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรค Munchausen’s Syndrome by proxy นั้น มักมีความรู้ในตัวโรคเป็นอย่างดี สามารถบอกเล่าอาการได้อย่างแนบเนียน จนแพทย์ผู้รักษาเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง และส่วนใหญ่เกินครึ่งของผู้ป่วย ทำงานเกี่ยวข้องอยู่กับทางการแพทย์ หรือสาธารณสุข
……… เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงก่อนให้เกิดความเสียหายตามมา เสียค่าใช้จ่ายในการสืบสวนโรค ไปเป็นปริมาณมาก และที่สำคัญคือ ‘’ความสูญเสียของผู้ถูกกระทำ’’ ซึ่งในหลายๆกรณีที่เคยเกิดขึ้นมักเป็น เด็กตัวน้อย ที่ยังไม่รู้เรื่อง ไร้เดียงสา ต่อโลกใบนี้ แทบทั้งสิ้น
……… ครอบครัว ผู้ที่อยู่ไกล้ชิดจึงสำคัญในการช่วยให้วินิจฉัยได้รวดเร็ว เนื่องจาก สามารถได้เห็น สัมผัส ไกล้ชิด กับผู้ป่วย มากกว่าแพทย์
• • อ่านแล้วชอบ สนใจ กดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ กันนะคร้าบ……
References
เชิญติดตามบทความน่าสนใจเพิ่มเติม ผมรวบรวมใว้ Link ด้านล่าง
• ยากันยุง …… กันยุงได้ จริงหรือ?
• อันตรายจาก น้ำแข็งกัด
• ข่าววัคซีน โควิด
• พระพุทธเจ้าบนก้อนหิน
• สายปีนเขา ต้องรู้
• มันสำปะหลัง มีพิษ
• “The Force” … หรือ ‘’พลัง’’ จะมีอยู่จริง ?
โฆษณา