15 ส.ค. 2020 เวลา 08:22 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ถ้าคุณ มีเงิน 100,000 ฿ ซื้อหุ้น
Berkshire hathaway ใว้ เมื่อ “40” ปีที่แล้ว
และ “ไม่ขายเลย”
.... ปัจจุบัน คุณจะมีเงิน 133,300,000 ฿
Logo : Berkshire Hathaway
!ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการยกตัวอย่าง มิได้มีเจตนาชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด!
....
• ผลตอบแทนทบต้นคืออะไร ? ไฉนจึงมีความสำคัญ ?
นี่เป็นภาพตัวอย่าง ผลตอบแทนทบต้น เฉลี่ยปีละ 20%
Berkshire Hathaway ภาพ TF month
หุ้น Berkshire hathaway ของ Warren Buffet
หุ้น 1330 เด้ง
สมมุติ ซื้อใว้ เมื่อ 40 ปีก่อน ด้วยเงิน 1 แสน
1
ปัจจุบันจะมีเงิน 133,000,000 ล้าน
เฉลี่ยทบต้น ปีละ20%
ปัจจุบันราคาหุ้นละ ประมาณ 316,251 $ : 1 หุ้น
ตีเป็นเงินไทย คือ หุ้นละ 9,835,000 ฿
(Ref :31.1฿/1$ , 15-08-20)
#พลังของผลตอบแทนทบต้น
“ว้าววไหมครับ”
อัพเดท ผลตอบแทนของ ปู่บัพเฟต ล่าสุด ลิ้งด้านล่างนี้ครับ >>> วันที่ 09-04-64
• เข้าประเด็นกันเลย ละกันครับ
>>>“ มีเงินมากแค่ไหน .... ไม่สำคัญ เท่ากับว่า “การวางเงิน” ที่ถูกที่ และ ถูกเวลา<<<
1
เพราะอะไร.... ลองมาดูตัวอย่างกัน
.... ย้อนกลับไป เมื่อ 30 ปีก่อนนน....
• ขุมทรัพย์ความ มั่งคั่งของคนรุ่นก่อน “ธนาคาร”
สมัย ยุค Babyboom , GEN x
ใครมีเงิน ก็ เก็บออมทรัพย์ ธนาคาร .... สมัยนั้น ดอกเบี้ย โดยเฉลี่ย มากกว่า 10%
ฝากทุกปี สม่ำเสมอ
ยิ่งฝาก ยิ่งรวย ได้ทบต้นปีละ 10% อย่างน้อยๆ
ความเสี่ยงต่ำมาก และสภาพคล่องสูง
อะไรจะดีไปกว่านี้อีก ....
1
เวลาผ่านไป... หลังจากฟองสบู่ตลาดทุน ต้มยำกุ้ง ปี 2540 แตก”โป๊ะ!!”
ทุกสิ่งอย่าง เริ่ม เข้าสู่ ยุค เศรษฐกิจใหม่ โครงสร้างทางเศรษฐกิจไทย ปรับเปลี่ยนไปสู่ เน้นการส่งออก ซึ่งทำกำไร ได้มหาศาล จากค่าเงิน
เศรษฐกิจเริ่มตั้งหลักได้ และค่อยโตขึ้น
รายใหญ่รายเล็ก เริ่มกู้เงินมาลงทุน
อสังหาริมทรัพย์เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะใน อเมริกา แดนเสรีชน
ฟองสบู่จึงก่อสร้างตัวจนใหญ่ขึ้น ธนาคารปล่อยกู้ง่าย เครดิตต่ำ .... เวลาผ่านไป
และในที่สุด ก็ถึงเวลา .... แตก
1
“วิกฤติ subprime” ปี 2008
1
ธนาคารล้ม อสังหาล้ม ตลาดทุน ร่วงอย่างหนัก มูลค่า หายไป 70-80% จนหลายๆคนคิดว่า จะเป็น ภาวะตกต่ำยาวนาน แบบที่เคยเกิดในอดีต สมัยปี คศ. 1930
“The Great depression “
เป็น ภาวะที่ เศรษฐกิจตกต่ำ ต่อเนื่องและยาวนาน ผู้คนอดอยาก ตกงาน ไรบ้าน เป็นจำนวนมาก
1
.....
แต่แล้ว แสงสว่างก็ค่อยๆปรากฎ ...เข้าสู่เริ่มยุค GEN Y
รัฐบาลโลก หรือ อเมริกา ทำสิ่งประดิษฐ์ทางการเงิน ที่เรียกว่า QE พูดง่ายๆ พิมพ์เงินการะดาษ
ยิ่งพิมพ์ ยิ่งหนี้เพิ่ม ...
หาเงินจ่ายหนี้ให้ทัน ...ก็ลดดอกเบี้ย ซะเลย
ดอกเบี้ยที่เคย สูง เกิน 10% .... ค่อย ลดลง
ปีแล้ว ปีเล่า ... ลดลง
จนกระทั่ง ... ปัจจุบัน
ปี 2020 ดอกเบี้ย ไกล้ๆ 0%
บางแห่ง ดอกเบี้ย ติดลบ เสียด้วยซ้ำ
ปัจจุบัน ฝากธนาคาร แทบไม่ได้ผลตอบแทน ใดๆ
เงิน 1 ล้านในวันนี้ อีก 10 ปี 20 ปี .... ก็ ยัง 1 ล้านเท่าเดิม แต่.....
มูลค่าเงิน ไม่ใช่ 1 ล้านแล้ว นะ.... เพราะ จะถูกเงินเฟ้อ ระยะยาว กิน ไป ปีละ 3%
• สมมุติ อัตราเงินเฟ้อระยะยาว เพิ่ม ปีละ 3%
เมื่อเวลาผ่านไป
1
• 10ปี เงิน 1 ล้าน ในธนาคาร จะเหลือมูลค่า เท่ากับ ประมาณ 700,000 ในปัจจุบัน เท่านั้น
• 20 ปี เงิน 1 ล้าน ในธนาคารคุณจะเหลือมูลค่าเพียง 500,000 เท่านั้น
ใครถือเงินสด ในระยะยาวคุณจะจนลง เพราะเวลา และเงินเฟ้อ ปล้น เงินคุณไปนั่นเอง!!!
มาสู่คำถามถัดมา .... แล้ว เราจะปล่อยให้เงินเราโดนเงินเฟ้อกินไป เรื่อยๆ อย่างนั้นหรือ???
ก็คงไม่ ... ใช่ไหมละครับ
ทำอย่างไรดี???
• การถือทรัพย์สิน!! : คือคำตอบ !! ที่ตามหา
..... เป็นสิ่งที่จะรักษามูลค่า ของเงินเราใว้. นอกจากรักษามูลค่าใว้แล้ว ยังทำให้ เงินเราเติบโตได้อีกด้วย !!
• บ้าน และ ที่ดิน , หุ้น , ทอง , พระเครื่อง , นาฬิกาหรู, ภาพวาดแวนโก๊ะ,รถเก่ารุ่นเก๋า , Bitcoin....
เลือกอะไรดี ละ???
มาพิจารณากัน ที่ละอย่าง
• ที่ดิน (Land Price)
ราคาที่ดิน
เติบโตมากขึ้นทุกปี
วิกฤติ ทำอะไร ราคาที่ดิน ไม่ได้เลยครับ!!
ตราบเท่าที่ ไทยเรายัง มีเอกราช!! ... รึป่าวว 555+(นอกเรื่องๆ)
เงินเฟ้อ... หลบไป ที่ดิน มาแล้ววว
• หุ้น (stock)
Dow Jones index
ดัชนีรวมหุ้น อเมริกา ตั้งแต่ปี 1897 ถึง ปี 2020
จากประมาณ 21 จุด ถึง 27,927 จุด ณปัจจุบัน
คิดเติบโตเฉลี่ย 6% ต่อปี ทบต้น ช่วงระยะเวลา 123 ปี
เงินเฟ้อหลบไป ... ดาวโจนส์มาแล้ว
วันที่ 15-08-20
SET index
ตลาดหุ้นไทยของเรา ตั้งแต่ปี 1981 ถึงปัจจุบัน 2020
จาก 100 จุด ขึ้นมาถึง ปัจจุบัน 1327
ข้อมูลวันที่ 15-08-20
คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยทบต้น ปีละ 6% !! เช่นกันในช่วงเวลา 40 ปี
ชนะเงินเฟ้ออ แน่นวลล...
และ แน่นอน ถ้าเราเลือกหุ้น ถูกตัวแล้วละก็ ... มันจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล.... ดังเช่น หุ้นตัวนี้
บริษัท Berkshire Hathaway
ก่อตั้งโดยนักลงทุน แนว Value Investor (VI) ระดับตำนาน “Warren Buffet”
ดังที่ได้ ยกตัวอย่างข้างต้นไปแล้วนั่นเอง
หุ้น Berkshire hathaway ของ Warren Buffet
หุ้น 1330 เด้ง
สมมุติ ซื้อใว้ เมื่อ 40 ปีก่อน ด้วยเงิน 1 แสน
ปัจจุบันจะมีเงิน 133,000,000 ล้าน
คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น ปีละ 20%
เป็นอย่างไรครับ ... ชนะ เงินเฟ้อขาดลอย ...
• ทองคำ (Gold price)
กราฟทองคำ 100 ปี
จากปี 1915 ราคาประมาณท 200 ดอลลาร์ ถึงปัจจุบัน ปี2020 อยู่ที่ 2000 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์
ล่าสุดที่ผ่านมา เพิ่งทำ New High !
คิดเป็น การเติบเฉลี่ยทบต้น ประมาณ 2.3% ต่อปี
แพ้เงินเฟ้อออ.... แหละ
*เงินเฟ้อ 3%
ใครบอกว่า ถือทองแล้ว รวยย ผมขอเถียงง...!
• Bitcoin
สินทรัพย์ ใหม่ แห่งอนาคต(รึป่าว!???)
ว่ากันว่า ถูกสร้างโดยนาย Satoshi Nakamoto
เขาคือใคร ... ผมก็ ไม่เคยเจอ
ที่ไปที่มา คือ เริ่มจากที่ ทำ FED ทำ QE กัน เป็นว่าเล่น... พิมพ์เงิน ดาลลาร์ เข้าระบบ ไปเรื่อย ๆ
เสมือนว่า เงินดอลลาร์ กระดาษ ... มีคนกลุ่มหนึ่ง ไม่ชอบความคิดนี้ และไม่ถูกใจสิ่งนี้ ...
จึงสร้างสิ่งที่จะรักษามูลค่าเงินใว้
นาย ซาโตชิ นากาโมโตะ จึงสร้าง bitcoin โดยใช้เทคโนโลยี blockchain ขึ้นมา และ Bitcoin มีจำนวนจำกัด แค่ 21,000,000 เหรียญ เท่านั้น!!
และทุกๆ 4 ปี จำนวน Bitcoin ที่ผลิตออกมาเข้าสู่ระบบ จะลดลง ครึ่งหนึ่ง ... เรียกว่า “Halving”
... นั่นหมายความว่า bitcoin จะหายากขึ้นทุกๆ 4 ปี ที่ผ่านไป
* แต่จำนวนเหรียญ จะยังคง มีแค่ 21,000,000 เท่าเดิม ** << ตรงนี้ คือ ประเด็นเลยครับ
..... เมื่อ supply < Demand ราคา จึงสูงขึ้น ตามหลักเศรษฐศาสตร์
ตราบเท่าที่ ยังไม่มีใคร โจมที / ทำลาย / ไขรหัส Blockchain ได้ ทั้งโลก ในเวลาพร้อมกัน
.... Bitcoin ก็ ยัง คงรักษา มูลค่าของมันได้ในตัวมันเอง และ เป็น สินทรัพย์ที่เติบโตไปเรื่อยๆ
• BITCOIN
Bitcoin
ตั้งแต่ ปี 2011 ถึงปัจจุบัน 2020 เป็นเวลา 9 ปี
ราคา bitcoin เริ่มจาก ประมาณ 2 ดอลลาร์ จนมา ถึง 18,729 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน
คิดเป็น อัตราการเติบโต สูงถึง 153% ต่อปีโดยเฉลี่ย
“WoW”
ว้าวสุดๆ
แต่ bitcoin มีความผันผวน สูงมากๆๆ เมื่อเที่ยบกับ สินทรัพย์ ชนิดอื่น ... ใน 1 วัน ราคา สามารถ ผันผวนได้ อาจมากถึง 50%
นั่นหมายความว่า เงิน ในกระเป๋า คุณ 100,000 ที่ ซื้อ Bitcoin ณ ตอนนี้ อาจเหลือ เพียง 50,000 เมื่อคุณตื่นมาในเช้าวันพรุ่งนี้
และ อาจกลายเป็น 1,000,000,000 ในอีก 10 ปีข้างหน้า .... ก็เป็นไปได้ !!!
1
และแล้ว วันนี้ เราได้ผู้ ชนะเลิศ
ในการเอาชนะเงินเฟ้อ ละครับ
“ BITCOIN”
สรุป
• วางเงินถูกที่ ถูกเวลา เงินก็ จะทำงานให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ในระยะยาว
• เสี่ยงมากได้มาก เสี่ยงน้อยก็ได้น้อย .... แต่ถ้าลงทุนอย่างมีเหตุผล และเข้าใจว่า ซื้อทำไม มีเป้าหมายตรงไหน ความเสี่ยง มันก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด
• ความเสี่ยงอยู่ที่ตัวเราเอง มากกว่า (เพราะใจโลเล)
• ระยะเวลาที่ลงทุน แปรผกผันกับ ความเสี่ยง
!! คำเตือน !!
** การลงทุนมีความเสี่ยง ทุกการตัดสินใจลงทุนผู้ลงทุนเป็นผู้เลือกเอง ... ต้องยอมรับผลของการลงทุนที่ตามมาด้วยตนเองทุกประการ **
• ชอบบทความ กดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม กันด้วยน้ะครับบ
ติดตามบทความน่าสนใจเพิ่มเติม ผมรวบรวมใว้ Link ด้านล่าง
• ว่าด้วยเรื่อง …… กาแฟ
• ยากันยุง …… กันยุงได้ จริงหรือ?
• อันตรายจาก น้ำแข็งกัด
• ข่าววัคซีน โควิด
• พระพุทธเจ้าบนก้อนหิน
• สายปีนเขา ต้องรู้
• มันสำปะหลัง มีพิษ
• “The Force” … หรือ ‘’พลัง’’ จะมีอยู่จริง ?
• ทารุณกรรม …… หรือแค่ป่วยทางจิต ?•!
โฆษณา