20 ธ.ค. 2023 เวลา 04:23 • ข่าว

ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายในขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร

ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร ได้ใช้เวลาถึง 11 เดือน 20 วัน ซึ่งข้อมูลข่าวสารที่ผู้เสียหายได้รับไม่มีการลงนามและทำคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทน และ นพ.สสจ. โดยจังหวัด (นพ.สสจ.และหัวหน้าสำนักงานจังหวัดปฏิบัติราชการแทน ผวจ) ชี้แจงว่า “หนังสือที่ผู้เสียหายมีถึงผู้ว่าราชการจังหวัด จะถูกส่งมาให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ดำเนินการในฐานะผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทน ตามคำสั่งที่ 3113/2561 ลว.8 ต.ค.61 ข้อ 7
โดยหน่วยงานจะทำบันทึกเสนอขึ้นไปเพื่อลดขั้นตอนในการปฏิบัติงาน จึงไม่มีการลงนามและทำคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดและชี้แจงตรงกันว่า “ไม่มีข้อมูลข่าวสารที่ท่านร้องขอ” ตามหนังสือ ลว 29 เม.ย.64 พร้อมสำเนาหนังสือทั้ง 5 รายการที่จังหวัดส่งมาให้ ไม่มีการลงนามและทำคำสั่งใดๆของ ผวจ.และ นพ.สสจ. ในหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมของผู้เสียหาย
หลักฐานที่มีการชี้แจงว่า ไม่มีการเสนอเรื่องให้ ผวจ.พิจารณาและสั่งการ
อีกทั้ง จังหวัดทำหนังสือชี้แจงผู้เสียหายไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการชี้แจงต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ทำให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯมีหนังสือชี้แจงต่อผู้เสียหายไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเช่นกัน ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารจึงใช้เวลาเกือบ 1 ปี ในที่สุดคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารมิได้มีคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลข่าวดังกล่าวตามที่ผู้เสียหายร้องเรียนและขอให้ตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 มาตรา 11 และมาตรา 13 ทำให้ผู้เสียหายเข้าไม่ถึงสิทธิในการได้รับทราบข้อมูลข่าวสารของราชการตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 41 (1) และพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 มาตรา 9 วรรคสาม
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ผลที่เกิดขึ้นจากคำชี้แจง
หนังสือชี้แจงของ นพ.สสจ.และหัวหน้าสำนักงานจังหวัดในฐานะปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ดังกล่าวมาข้างต้นในขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของราชการ เป็นเอกสารทางราชการที่ใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นหัวหน้าบังคับบัญชาบรรดาข้าราชการฝ่ายบริหารในเขตจังหวัด และรับผิดชอบในราชการจังหวัดซึ่งเป็นนิติบุคคล ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา 52 มาตรา 54
บริหารราชการภายในจังหวัด โดยไม่ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีการจัดให้ข้อมูลข่าวสารของราชการไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ ไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารในครอบครองของหน่วยงานของรัฐ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯที่กำหนดหน้าที่รัฐไว้ในมาตรา 53 และมาตรา 59 และพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 มาตาม 9 วรรคหนึ่ง
อีกทั้ง ผู้เสียหายมีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรงหลายฉบับ แต่ในการบริหารราชการแผ่นดินของผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยไม่พิจารณาหนังสือที่ร้องเรียนขอความเป็นธรรมในเรื่องการดำเนินการทางวินัย ซึ่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามมาตรา 57 (4) กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการฝ่ายบริหารในส่วนภูมิภาค ให้ปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับหรือคำสั่ง และยับยั้งการกระทำใด ๆ ของข้าราชการในจังหวัดที่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง และเมื่อมีการกล่าวหาข้าราชการกระทำผิดวินัยต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๕๗ ทราบโดยเร็ว เพื่อให้ดำเนินการ โดยเร็วด้วยความยุติธรรมและโดยปราศจากอคติ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 90
ข้อมูลข่าวสารที่ผู้เสียหายได้รับมา ไม่ปรากฏว่าผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทน ได้พิจารณาและลงนามทำคำสั่งใดๆ ทั้งที่มีหนังสือถึง ผวจ.ติดตามเรื่องมาโดยตลอด คงปรากฏเฉพาะหัวหน้ากลุ่มงานกฎหมายที่มีการพิจารณา ลงนามและเสนอให้ นพ.สสจ.ดำเนินการ
เอกสารหลักฐานที่แสดงว่า ผวจ.มิได้ลงนามสั่งการ คงมีเฉพาะหัวหน้ากลุ่มงานนิติการเท่านั้ร
ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ในการขอข้อมูลข่าวสารทางราชการ ผู้เสียหายทำหนังสือถึง ผวจ.และนพ.สสจ คนละฉบับเหตุใด ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจให้ปฏิบัติราชการแทน ผวจ.จึงไม่พิจารณาและลงนามทำคำสั่งให้ชัดเจน ทั้งที่ หนังสือทั้ง 5 รายการที่ร้องขอมีถึง ผวจ. และเหตุใด จังหวัดจึงไม่เก็บเอกสารหรือสำเนาเอกสารที่มีถึง ผวจ.โดยตรง
โปรดกดติดตามเพจ
มาดูกันว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตแค่ไหน กดอ่านได้ที่
เรื่องเล็กๆ...สู่ปัญหาการใช้และตีความที่ไม่เป็นธรรม บทนำ
ตอนที่ 1 ความคุ้นชินกับการกระทำผิด
ตอนที่ 2 ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตอนท่ 3 รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ตอนที่ 4 การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาทำงานซ้ำซ้อน
ตอนที่ 5 การไม่ดำเนินการตามหนังสือคัดค้านและร้องเรียนเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดตีความว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่คู่กรณี
ตอนที่ 7 การร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข
ตอนที่ 8 ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 9 การสอบสวนวินัยรายแรงโดยมิได้ใช้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงพยาบาล
ตอนที่ 10 ผลที่เกิดขึ้นจากรายงานการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 11 สำนักงานสาธารณสุขให้ความช่วยเหลือนางสอง
ตอนที่ 12 ผลการสอบวินัยกรณีนางสอง
ตอนที่ 13 ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีที่ 1
ตอนที่ 14 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง-ชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 2
ตอนที่ 15 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 3
ตอนที่ 16 บทสรุปขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยที่ไม่เป็นธรรม
ตอนที่ 17 ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ตอนที่ 18 จังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 19 จังหวัดยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน
ตอนที่ 20 นพ.สสจ.แจ้งต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 21 ผู้เสียหายทำหนังสือโต้แย้งการพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 22 นพ.สสจ.ชี้แจงว่า ผวจ.มิได้ทำดคำสั่งในหนังสือที่ร้องขอทั้ง 4 ฉบับ
ตอนที่ 23 คณะอนุกรรมการมีหนังสือถึงผู้สียหายตามที่จังหวัดชี้แจง
ตอนที่ 24 การตรวจสอบความีอยู่ของข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 25 จังหวัดชี้แจงต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 26 ติดตามผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 27 ผลการตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 28 ขอทราบขั้นตอนการเสนอหนังสือทั้ง 5 ฉบับที่ร้องขอ
ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายใยขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 30 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสาธารณสุข
ตอนที่ 31 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของจังหวัด
ตอนที่ 32 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติรการของจังหวัด
ตอนที่ 33 เหตุแห่งการร้องขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 34 การร้องเรียนขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 35 การบังคับใช้กฎหมายในระดับกระทรวง
ตอนที่ 36 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอนที่ 37 บทวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
ตอนที่ 38 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
โฆษณา