5 ม.ค. 2024 เวลา 11:11 • ข่าว

ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

การฟ้องคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ นับเป็นเรื่องใหม่ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้เสียหายสามารถเป็นโจทก์ฟ้องคดีเองได้ โดยเจ้าพนักงานคดีทำหน้าที่ช่วยเหลือศาลในการดำเนินคดี ยอมรับว่าไม่เคยเป็นทนายความ การเขียนฟ้องจึงไม่ใช่เรื่องถนัดเท่าใดนัก แต่ก็พร้อมจะเรียนรู้ในเรื่องใหม่ๆ เพื่อจะได้ศึกษาและทำความเข้าใจต่อไป
ผู้เสียหาย ได้ยื่นเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหมด 11 คน ได้แก่ นางหนึ่ง นางสอง นางสาม นางสี่ (ผู้บริหารกองการพยาบาล) นพ.สสจ.ซึ่งมี 2 ท่าน นิติกรของ สสจ. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีประจำกระทรวง เป็นคดีหมายเลขดำ อท 65/2565 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ต่อมาได้มีการแก้ไขคำฟ้องตามคำสั่งศาล จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 ศาลมีคำสั่งให้จำเลยบางท่านชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย พร้อมแนบเอกสารประกอบคำชี้แจง
โดยให้มีหนังสือชี้แจงต่อศาลภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2565 และให้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา(ชั้นตรวจคำฟ้อง) ในวันที่ 24 มกราคม 2566 เวลา 13.30 น.
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 นิติกรทำคำร้องขอให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีอาญาและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ว่า คดีไม่อยู่ในอำนาจศาลดังกล่าวเนื่องจากจำเลยที่ 11 รัฐมนตรีประจำกระทรวงเป็นตำแหน่งทางการเมือง ต้องฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ศาลอ่านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ว่า ฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 เป็นคดีทุจริตและประพฤติมิชอบและอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลนี้ ส่วนฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 11 อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำเรงตำแหน่งทางการเมือง เห็นควรดำเนินกระบวนพิจารณาในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ต่อไป ส่วนจำเลยที่ 11 ให้จำหน่ายออกจากสารบบความ ให้เลื่อนนัดไปฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาชั้นตรวจฟ้องและกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น.
คำสั่งรับฟ้องในชั้นตรวจคำฟ้อง
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2566 ศาลตรวจคำฟ้องโจทก์ เห็นว่า เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 15 เห็นควรรับฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง โดยให้สิทธิแก่จำเลยที่ 1 ถึงทึ่ 10 ที่จะแถลงข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอันสำคัญที่ศาลควรสั่งว่าคดีไม่มีมูลได้ เห็นควรไต่สวนมูลฟ้องในประเด็นและพยานหลักฐานที่ศาลเห็นสมควรเท่านั้น จึงให้ดำเนินการต่อไปภายใน 20 วัน
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2566 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 1 มีหนังสือ (ลับ) ด่วนที่สุด ลว.15 พ.ค.2566 ถึงผู้เสียหายขอทราบรายละเอียดข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และออกหนังสือเชิญอึกหลายท่านไปให้ถ้อยคำเป็นพยาน เนื่องจากผู้เสียหายเคยทำหนังสือร้องเรียน ลว. 23 มกราคม 2563 ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและพฤติกรรมในการไม่ให้ความเป็นธรรมของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และมีหนังสือติดตามเรื่อง วันที่ 1 เมษายน 2563
หนังสือสำนักงาน ป.ป.ช.ด่วยที่สุดออกวันเดียวกับที่ศาลมีคำสั่งรับฟ้อง
ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี 4 เดือน สำนักงาน ป.ป.ช.เพิกเฉย มิได้ดำเนินการใดๆ จนกระทั่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีคำสั่งรับฟ้องโจทก์ จึงได้มีการออกหนังสือด่วนที่สุดในวันเดียวกับที่ศาลมีคำสั่ง
เหตุใด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการออกหนังสือเช่นนั้น ทั้งที่ มิได้ดำเนินการใดๆมากว่า 3 ปี เกิดอะไรขึ้นกับองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงสนใจอย่างเร่งด่วนที่จะทำคดีนี้ เรื่องเล็กๆ สะท้อนภาพรวมของการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้ดีมาก (ตามดูกันต่อไปมีคำตอบพร้อมเฉลย)
โปรดกดติดตามเพจ
มาดูกันว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตแค่ไหน กดอ่านได้ที่
เรื่องเล็กๆ...สู่ปัญหาการใช้และตีความที่ไม่เป็นธรรม บทนำ
ตอนที่ 1 ความคุ้นชินกับการกระทำผิด
ตอนที่ 2 ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตอนท่ 3 รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ตอนที่ 4 การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาทำงานซ้ำซ้อน
ตอนที่ 5 การไม่ดำเนินการตามหนังสือคัดค้านและร้องเรียนเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดตีความว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่คู่กรณี
ตอนที่ 7 การร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข
ตอนที่ 8 ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 9 การสอบสวนวินัยรายแรงโดยมิได้ใช้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงพยาบาล
ตอนที่ 10 ผลที่เกิดขึ้นจากรายงานการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 11 สำนักงานสาธารณสุขให้ความช่วยเหลือนางสอง
ตอนที่ 12 ผลการสอบวินัยกรณีนางสอง
ตอนที่ 13 ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีที่ 1
ตอนที่ 14 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง-ชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 2
ตอนที่ 15 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 3
ตอนที่ 16 บทสรุปขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยที่ไม่เป็นธรรม
ตอนที่ 17 ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ตอนที่ 18 จังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 19 จังหวัดยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน
ตอนที่ 20 นพ.สสจ.แจ้งต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 21 ผู้เสียหายทำหนังสือโต้แย้งการพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 22 นพ.สสจ.ชี้แจงว่า ผวจ.มิได้ทำดคำสั่งในหนังสือที่ร้องขอทั้ง 4 ฉบับ
ตอนที่ 23 คณะอนุกรรมการมีหนังสือถึงผู้สียหายตามที่จังหวัดชี้แจง
ตอนที่ 24 การตรวจสอบความีอยู่ของข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 25 จังหวัดชี้แจงต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 26 ติดตามผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 27 ผลการตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 28 ขอทราบขั้นตอนการเสนอหนังสือทั้ง 5 ฉบับที่ร้องขอ
ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายใยขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 30 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสาธารณสุข
ตอนที่ 31 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของจังหวัด
ตอนที่ 32 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติรการของจังหวัด
ตอนที่ 33 เหตุแห่งการร้องขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 34 การร้องเรียนขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 35 การบังคับใช้กฎหมายในระดับกระทรวง
ตอนที่ 36 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอนที่ 37 บทวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
ตอนที่ 38 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
โฆษณา