6 ม.ค. 2024 เวลา 10:19 • ข่าว

ตอนที่ 40 ผลของการออกหนังสือด่วนที่สุดเพื่อไต่สวนเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหาย

เมื่อผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรมในขั้นตอนการดำเนินการทางวินัย เนื่องจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ดำเนินการใดๆ ตามหนังสือลว.20 ม.ค.63 ลว.5 ก.พ.63 ลว.12 ก.พ.63 และลว.21 ก.พ.63 ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการที่ประจำจังหวัดให้ปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือ ยับยั้งการกระทำใด ๆ ของข้าราชการในจังหวัดที่ขัดต่อกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 57 (4)
ผู้เสียหาย ได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลว. 23 มกราคม 2563 และมีหนังสืออีก 1 ฉบับ ลว.1 เมษายน 2563 เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย ก่อนที่ผู้เสียหายจะดำเนินการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ แต่สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.มิได้มีการดำเนินการใดๆ จนเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน
เมื่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ออกหนังสือด่วนที่สุด ลว 15 พ.ค.66 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีคำสั่งรับฟ้องในชั้นตรวจคำฟ้อง ย่อมก่อให้เกิดความคลางแคลงใจว่า ทุกหน่วยงานจะมีกำหนดระยะเวลาในการทำงาน เหตุใด สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นองค์กรอิสระมีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบ จึงไม่มีกำหนดเวลาในการดำเนินงาน และเหตุใดเวลาผ่านไป 3 ปีกว่า จึงหยิบเรื่องขึ้นมาดำเนินการโดยไม่สอบถามความคืบหน้าของเรื่องร้องเรียน
จึงตั้งข้อสันนิษฐานอย่างสามัญชนว่า “ทำงานตามใบสั่ง” หรือ “กฎหมายให้อำนาจสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการดำเนินการได้ตามดุลยพินิจอย่างไม่มีขอบเขต"
หากพิจารณาจากข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 54 (2)ได้กำหนดให้อำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยกคำกล่าวหาขึ้นพิจารณาได้ถ้าศาลยังมิได้วินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคดี และมาตรา 59 ให้อำนาจที่จะยกเรื่องร้องเรียนของผู้สียหายที่ได้มีการกล่าวหาขึ้นไต่สวนได้ ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ผู้ถูกร้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งหากพิจารณา คือ ต้องการดึงเรื่องออกจากศาลมาอยู่ในอำนาจ คณะกรรมการ ป.ป.ช.
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
แต่เรื่องนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหายมิได้ดำเนินการใดๆมากว่า 3 ปีกว่า ทั้งที่ สำนักงาน ป.ป.ช. มีผังกำหนดเวลาในการดำเนินการเช่นกัน
ผังการดำเนินการเรืองร้องเรียนของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561 ข้อ 33 วรรคท้าย กำหนดว่าในกรณีที่ได้รับเรื่องกล่าวหาไว้แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดว่าเพียงพอที่จะรับไว้ดำเนินการต่อไปหรืออยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.หรือไม่ หากตรวจสอบไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ลงทะเบียนรับเรื่องกล่าวหา ให้ขอขยายเวลาต่อผู้อำนวยการ ซึ่งมีอำนาจขยายเวลาได้ไม่เกิน 90 วัน
หากเกินกว่ากำหนดระยะเวลาดังกล่าวให้เสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อขยายระยะเวลาได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ทั้งนี้หากขยายระยะเวลาทั้ง 3 ครั้งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จให้เสนอเหตุผลและความจำเป็นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณามีมติเห็นสมควรต่อไป สอดคล้องกับ
มาตรา 48 ที่กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. คำนึงถึงความรวดเร็ว ความยากง่าย ของการไต่สวน และอายุความของการดำเนินการในเรื่องนั้น โดยจะระบุระยะเวลาของการไต่สวนข้อกล่าวหา แต่ละประเภทที่แตกต่างกันก็ได้
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เหตุใดการทำงานของเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฯมาตรา 41(2) ที่ให้การรับรองสิทธิในการเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐและได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว และขัดต่อมาตรา 53 โดยไม่ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ดำเนินการล่าช้าไม่เป็นไปตามตามกำหนดเวลาในระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561 มาตรา 33 วรรคท้าย
การออกหนังสือด่วนที่สุด ลว.15 พ.ค.2566 ซี่งเป็นวันเดียวกับศาลอาญาคดีทุจริตและประฤติมิชอบมีคำสั่งรับฟ้องในชั้นตรวจคำฟ้อง เป็นการชี้ชัดว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.มิได้ปฏิบัตตามกำหนดเวลาตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. 2561 ข้อ 33 และมิได้ดำเนินการตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฯมาตรา 53 ทั้งนี้ เพื่อต้องการดึงเรื่องไปอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
เหตุใด จึงต้องทำเช่นนั้น
โปรดกดติดตามเพจ
มาดูกันว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตแค่ไหน กดอ่านได้ที่
เรื่องเล็กๆ...สู่ปัญหาการใช้และตีความที่ไม่เป็นธรรม บทนำ
ตอนที่ 1 ความคุ้นชินกับการกระทำผิด
ตอนที่ 2 ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตอนท่ 3 รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ตอนที่ 4 การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาทำงานซ้ำซ้อน
ตอนที่ 5 การไม่ดำเนินการตามหนังสือคัดค้านและร้องเรียนเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดตีความว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่คู่กรณี
ตอนที่ 7 การร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข
ตอนที่ 8 ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 9 การสอบสวนวินัยรายแรงโดยมิได้ใช้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงพยาบาล
ตอนที่ 10 ผลที่เกิดขึ้นจากรายงานการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 11 สำนักงานสาธารณสุขให้ความช่วยเหลือนางสอง
ตอนที่ 12 ผลการสอบวินัยกรณีนางสอง
ตอนที่ 13 ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีที่ 1
ตอนที่ 14 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง-ชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 2
ตอนที่ 15 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 3
ตอนที่ 16 บทสรุปขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยที่ไม่เป็นธรรม
ตอนที่ 17 ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ตอนที่ 18 จังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 19 จังหวัดยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน
ตอนที่ 20 นพ.สสจ.แจ้งต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 21 ผู้เสียหายทำหนังสือโต้แย้งการพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 22 นพ.สสจ.ชี้แจงว่า ผวจ.มิได้ทำดคำสั่งในหนังสือที่ร้องขอทั้ง 4 ฉบับ
ตอนที่ 23 คณะอนุกรรมการมีหนังสือถึงผู้สียหายตามที่จังหวัดชี้แจง
ตอนที่ 24 การตรวจสอบความีอยู่ของข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 25 จังหวัดชี้แจงต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 26 ติดตามผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 27 ผลการตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 28 ขอทราบขั้นตอนการเสนอหนังสือทั้ง 5 ฉบับที่ร้องขอ
ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายใยขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 30 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสาธารณสุข
ตอนที่ 31 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของจังหวัด
ตอนที่ 32 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติรการของจังหวัด
ตอนที่ 33 เหตุแห่งการร้องขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 34 การร้องเรียนขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 35 การบังคับใช้กฎหมายในระดับกระทรวง
ตอนที่ 36 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอนที่ 37 บทวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
ตอนที่ 38 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 40 ผลของการออกหนังสือด่วนที่สุดเพื่อไต่สวนเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหาย
ตอนที่ 41 ผู้เสียหายทำหนังสือขอถอนเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 42 บทวิเคราะห์การดำเนินเรื่องร้องเรียนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 43 อัยการเข้ามาเป็นทนายแก้ต่างให้กับจำเลยทั้ง 9 คน
ตอนที่ 44 การทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อติดตามเรื่อง
ตอนที่ 45 เหตุผลของอัยการในการรับเป็นทนายแก้ต่างให้จำเลย
ตอนที่ 46 ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 47 เหตุที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบเรื่องผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการด่วนที่สุด
ตอนที่ 48 จำเลยที่ 9 ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 49 ความไม่ชอบด้วยกฎหมายจากใบสมัครของจำเลยที่ 9
ตอนที่ 50 การตรวจสอบความประพฤติและจริยธรรมของหน่วยงานรัฐ
โฆษณา