7 ม.ค. 2024 เวลา 06:11 • ข่าว

ตอนที่ 41 ผู้เสียหายทำหนังสือขอถอนเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.66 ผู้เสียหายไปพบเจ้าหน้าที่ตามหนังสือ ลว.15 พ.ค.66 พร้อมกับทำหนังสือ ถึงเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลว.23 พ.ค.66 ขอถอนเรื่องตามหนังสือร้องเรียนฉบับ ลว.23 ม.ค.63 และ ลว. 1 เม.ย.63 เนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. มิได้ดำเนินการใดๆและมิได้มีหนังสือแจ้งความคืบหน้าให้ทราบแต่อย่างใด จนเวลาผ่านไปกว่า 3 ปี 4 เดือน ผู้เสียหายได้เรียกร้อง ต่อสู้ และขอความเป็นธรรมด้วยตนเองมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566
หนังสือของผู้เสียหายขอถอนเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีคำสั่งหมายเลขดำที่ อท 65/2565 และหมายเลขแดงที่ อท 5/2566 ว่า “เห็นควรรับฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บัดนี้เวลาล่วงเลยมานานและมีข้อเท็จจริงได้เปลี่ยนแปลงไปมาก จึงขอถอนเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
ผู้เสียหายไม่ขอให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่และมีความประสงค์ที่จะให้เรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ แต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. คงดำเนินการไต่สวนและสอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา แต่ศาลได้มีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดในการรับคดีไว้ไต่สวนสวนมูลฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 15 พ.ค.66
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 54 (2) กำหนดห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับหรือยกเรื่องที่เป็นคดีอาญาในประเด็นเดียวกันและศาลมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดแล้วขึ้นพิจารณา
การปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซี่งเป็นหน่วยงานที่มีวิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรนำในการแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และได้รับความเชื่อมั่น” และในเอกสารหนังสือทุกฉบับแสดงจุดยืนว่า “ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้”
แต่การออกหนังสือด่วนที่สุด ลว.15 พ.ค.66 โดยหยิบเรื่องของผู้เสียหายมาดำเนอนการ เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานที่ล่าช้า เพิกเฉย ไม่พิจารณาหรือดำเนินการใดๆมา 3 ปี 4 เดือน แต่สำนักงานคณะกรรมการได้หยิบเรื่องร้องเรียรขึ้นมาดำเนินการในวันเดียวกับที่ศาลมีคำสั่งรับฟ้องจำเลยทั้ง 10 คน
(1) เหตุใด สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมิได้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหายตามกำหนดเวลาที่ได้กำหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. 2561 ข้อ 33 วรรคท้าย
(2) เหตุใด สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงออกหนังสือด่วนที่สุด ทั้งที่ เพิกเฉย ไม่ได้ดำเนินการพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าวมากว่า 3 ปี
(3) ระยะเวลากว่า 3 ปี เรื่องร้องเรียนย่อมมีข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลง เหตุใด จึงไม่สอบถามผู้ร้องถึงข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไปก่อน แต่ดำเนินการสอบปากคำพยานก่อน (เนื่องจากมีการสอบปากคำพยานบางท่านก่อน) ตามหนังสือเรื่องร้องเรียนฉบับเดิม
(4) ด้วยเรื่องร้องเรียนของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีเป็นจำนวนมาก เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงให้ความสำคัญกับเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหายในวันที่ศาลสั่งรับฟ้องจำเลยทั้ง 10 คน
(5) เหตุใด สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์กรอิสระที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ แต่เหตุใด จึงไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดในเรื่องกำหนดเวลาการดำเนินงาน ตามหน้าที่ของรัฐที่ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 53
(6) เมื่อสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบยกเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการโดยด่วนที่สุด มีการไต่สวนและเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา (เนื่องจาก มีเอกสารที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทำการสอบสวนถูกอ้างอิงขึ้นมาในศาล แสดงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องพิจารณาวินิจฉัยชี้ชาดแล้ว เอกสารจึงสามารถเปิดเผยได้) คงปฏิเสธไม่ได้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบดีว่า จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 10 กำลังถูกฟ้องเป็นคดีในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เพื่อความโปร่งใส สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช ย่อมต้องชี้แจงเหตุผลและโต้แย้งความสงสัยได้ มิฉะนั้น เรื่องร้องเรียนของผู้เสียหายเป็นเรื่องเล็กๆ ที่สะท้อนปัญหาการบังคับใช้กฎหมายและตีความกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐที่บานปลายกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าการเข้าถึงความเป็นธรรม และการใช้สิทธิตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 41 (2) เป็นเพียงเสือกระดาษที่มีไว้ให้อ้างกับประชาชน แต่ในความเป็นจริงเจ้าหน้าที่ของรัฐมิได้ให้การรับรองและคุ้มครองสิทธิตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฯแต่อย่างใด
โปรดกดติดตามเพจ
มาดูกันว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โตแค่ไหน กดอ่านได้ที่
เรื่องเล็กๆ...สู่ปัญหาการใช้และตีความที่ไม่เป็นธรรม บทนำ
ตอนที่ 1 ความคุ้นชินกับการกระทำผิด
ตอนที่ 2 ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตอนท่ 3 รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ตอนที่ 4 การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนขึ้นมาทำงานซ้ำซ้อน
ตอนที่ 5 การไม่ดำเนินการตามหนังสือคัดค้านและร้องเรียนเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดตีความว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่คู่กรณี
ตอนที่ 7 การร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข
ตอนที่ 8 ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 9 การสอบสวนวินัยรายแรงโดยมิได้ใช้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงพยาบาล
ตอนที่ 10 ผลที่เกิดขึ้นจากรายงานการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีนางหนึ่ง
ตอนที่ 11 สำนักงานสาธารณสุขให้ความช่วยเหลือนางสอง
ตอนที่ 12 ผลการสอบวินัยกรณีนางสอง
ตอนที่ 13 ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีที่ 1
ตอนที่ 14 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง-ชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 2
ตอนที่ 15 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งและชี้แจงนอกประเด็น กรณีที่ 3
ตอนที่ 16 บทสรุปขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยที่ไม่เป็นธรรม
ตอนที่ 17 ขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ตอนที่ 18 จังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 19 จังหวัดยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน
ตอนที่ 20 นพ.สสจ.แจ้งต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 21 ผู้เสียหายทำหนังสือโต้แย้งการพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 22 นพ.สสจ.ชี้แจงว่า ผวจ.มิได้ทำดคำสั่งในหนังสือที่ร้องขอทั้ง 4 ฉบับ
ตอนที่ 23 คณะอนุกรรมการมีหนังสือถึงผู้สียหายตามที่จังหวัดชี้แจง
ตอนที่ 24 การตรวจสอบความีอยู่ของข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 25 จังหวัดชี้แจงต่อคณะกรรมการไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตอนที่ 26 ติดตามผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 27 ผลการตรวจสอบความมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารที่ร้องขอ
ตอนที่ 28 ขอทราบขั้นตอนการเสนอหนังสือทั้ง 5 ฉบับที่ร้องขอ
ตอนที่ 29 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายใยขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสาร
ตอนที่ 30 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสาธารณสุข
ตอนที่ 31 ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของจังหวัด
ตอนที่ 32 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติรการของจังหวัด
ตอนที่ 33 เหตุแห่งการร้องขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 34 การร้องเรียนขอความเป็นธรรมในระดับกระทรวง
ตอนที่ 35 การบังคับใช้กฎหมายในระดับกระทรวง
ตอนที่ 36 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตอนที่ 37 บทวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
ตอนที่ 38 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 39 การฟ้องคดีต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 40 ผลของการออกหนังสือด่วนที่สุดเพื่อไต่สวนเรื่องร้องเรียนของผู้เสียหาย
ตอนที่ 41 ผู้เสียหายทำหนังสือขอถอนเรื่องร้องเรียนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 42 บทวิเคราะห์การดำเนินเรื่องร้องเรียนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 43 อัยการเข้ามาเป็นทนายแก้ต่างให้กับจำเลยทั้ง 9 คน
ตอนที่ 44 การทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อติดตามเรื่อง
ตอนที่ 45 เหตุผลของอัยการในการรับเป็นทนายแก้ต่างให้จำเลย
ตอนที่ 46 ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ตอนที่ 47 เหตุที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบเรื่องผู้เสียหายขึ้นมาดำเนินการด่วนที่สุด
ตอนที่ 48 จำเลยที่ 9 ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ตอนที่ 49 ความไม่ชอบด้วยกฎหมายจากใบสมัครของจำเลยที่ 9
ตอนที่ 50 การตรวจสอบความประพฤติและจริยธรรมของหน่วยงานรัฐ
โฆษณา